บทย่อ
“คุณภีมหมายความว่ายังไงคะ ลินไม่เข้าใจ…” ภีมวัจน์ไม่ตอบแต่กลับสาวเท้าตรงหาร่างบอบบางอย่างช้าๆ เขากระตุกเอวของเธอให้เข้ามาแนบชิดก่อนจะจ้องมองใบหน้าที่เริ่มตื่นตนกตกใจของคนในอ้อมแขนเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างให้เธอได้เข้าใจแทนคำพูด “ก็หมายความว่าเวลาหนึ่งเดือนที่คุณจะต้องทำให้ผมยอมขึ้นเตียงด้วยมันยังไม่หมดไงครับลลิน นี่เพิ่งห้าทุ่มกว่าเอง…เพราะฉะนั้นเรายังพอมีเวลา…” เสียงเข้มเว้นช่วงเอาไว้ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าประชิดแนบหู เขาขบเม้มมันเบาๆ ก่อนจะลากผ่านไปยังลำคอระหงที่ย่นเข้าหากันเหมือนจะรู้แน่ชัดแล้วว่าเขาหมายถึงอะไร “อ๊ะ! คุณภีม…อย่าค่ะ” “อย่าห้ามผม! ผมไม่ยอมให้คุณไปไหนทั้งนั้น…แล้วก็ห้ามปิดบังกันอีก ทีหลังมีอะไรต้องบอกรู้ไหม อย่าทำเหมือนผมไม่มีความหมายแบบที่ทำวันนี้อีก ไม่งั้นจะถูกลงโทษ ถูกลงโทษแบบนี้!!” คนเอาแต่ใจไม่ปล่อยให้อีกคนได้แก้ตัวอะไรจัดการปิดเสียงหวานๆ ของเธอด้วยจูบที่ลึกล้ำมากกว่าครั้งไหนๆ ทุกๆ จังหวะของเขาทำให้คนไร้ประสบการณ์หูอื้ตาลายจนตามเกมส์รักที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ทัน “คุณหวาน…หวานไปทั้งตัวเลยรู้รึเปล่าครับลิน” คำชมเพียงสั้นๆ แต่กลับไม่ต่างอะไรกับน้ำวิเศษที่หลวมละลายทุกสิ่งให้พังทลายลงไม่เว้นแม้แต่อาการขัดขืนน้อยๆ ในตอนแรกก็หายไปด้วยเช่นกัน “อื้ม…คุณภีม” “ผมจะทำให้ทุกอย่าง ทุกท่าเท่าที่ใจจะนึกออก…” คำบอกเล่าของเขาทำให้ลลินชาไปทั่วร่าง แม้ใจจะกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอกลับรู้สึกยินดีที่จะให้เขาเป็นคนแรกและคนเดียวของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ใช่คนรัก ขอแค่เธอได้รักเขาข้างเดียวก็พอใจแล้ว
บทนำ
ปฐมบท
ร่างบอบบางของหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งเพียวลมจำต้องหยุดชะงักลงเมื่อฝีเท้าน้อยๆ เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ ปัจธรณ์ คฤหาสน์สีขาวหลังงามที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้ย่างกายเข้ามาภายใน ดวงตากลมโตได้รูปสีน้ำตาลอ่อนลอบมองสำรวจตัวเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจอีกครั้งก่อนที่สองเท้าน้อยๆ จะเดินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นเต้นปนแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่จู่ๆ เธอก็ถูกเรียกตัวให้มาที่นี่ในวันนี้อย่างกะทันหันเข้า
“คุณท่านเรียกหาหนูเหรอคะ” เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวเอ่ยขึ้นในรอบหลายนาทีหลังจากเดินตามแม่บ้านวัยชราเข้ามาด้านในที่บัดนี้มีร่างของใครบางคนนั่งจิบชารอที่จะพบกันอยู่ก่อนแล้ว คนถูกเรียกคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้กันพร้อมๆ กับวางถ้วยชาชั้นดีราคาแพงลงตรงหน้าหญิงสาวที่ตนเองและสามีอุปถัมภ์ค้ำชูเธอตั้งแต่จำความได้
“ที่พักใหม่ที่ฉันจัดหาให้เป็นยังไงบ้าง พออยู่ได้ใช่ไหมจ๊ะลลิน…” คุณหญิงรัชชนกเอ่ยถาม ลลิน หญิงสาวที่ตนรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นในบ้านเด็กกำพร้าจนถึงขั้นขอร้องสามีที่ตอนนี้ล่วงลับไปแล้วอุปถัมภ์ค้ำชูเด็กสาวนับตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งวันนี้วันที่นางมีเรื่องบางอย่างอยากจะขอร้องให้เธอทำให้ตนเป็นครั้งแรก บางสิ่งบางอย่างที่นางคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าคนนี้จะทำให้นางสมหวังได้
“ลลินอยู่ได้ค่ะ อันที่จริงที่อยู่ใหม่ที่คุณท่านยกให้มันออกจะใหญ่เกินไปเสียด้วยซ้ำค่ะ…” หญิงสาวร้องบอกพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น เธอทั้งรู้สึกรักและเทิดทูนนายหญิงของตนเองมากกว่าใครเพราะตั้งแต่จำความได้ก็เพราะความเมตตากรุณาที่คุณหญิงรัชชนกมีให้เธอจึงสามารถเรียนจบแถมยังได้มีชีวิตที่ดีงามเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
“ขาดเหลืออะไรก็บอกนะ ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก จริงสิลลิน! เธอคงจะสงสัยว่าที่ฉันเรียกตัวมาพบถึงที่นี่เพราะอะไรใช่ไหม” คุณหญิงรัชชนกไม่รีรอที่จะพาเข้าประเด็นที่นางจำต้องทำให้สำเร็จ
“เอ่อ ค่ะ คุณท่านมีอะไรรึเปล่าคะ” ลลินจำต้องเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของผู้มีพระคุณที่ไม่ค่อยแจ่มใสเหมือนทุกครั้งที่เจอสักเท่าไหร่นัก แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้เจอท่านเพราะอีกฝ่ายมักจะชอบเดินทางไปเที่ยวรอบโลกตามความฝันอยู่เรื่อยแต่ท่านก็ยังไม่ลืมกันคอยโทรถามสารทุกข์สุขดิบกันเรื่อยมา อีกทั้งยังคอยให้กำลังใจจนเธอสามารถเรียนจบได้ตามที่ฝัน ทุกๆ สิ่งที่ผู้มีพระคุณมอบให้ทำให้นารินเฝ้ารอวันที่เธอจะได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณของท่านเรื่อยมา
“เธอจำตาภีมกับตาภูลูกชายของฉันได้อยู่ใช่ไหม” หญิงสาวพยักหน้ารับแทบจะทันที เธอไม่เคยลืมสองหนุ่มแห่งบ้านปัจธรณ์ไปได้โดยเฉพาะภีมวัจน์คุณชายคนรองของบ้านที่เป็นดั่งรักแรกของเธอ
หากไม่เกิดเรื่องวุ่นวายนั้นขึ้นป่านนี้เธอคงได้เจอหน้าเขาแล้ว
เรื่องราวที่ถูกลือกันหนาหูนั้นเกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่เธอมาถูกเรียกตัวให้มาที่นี่เพื่อร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างภูวดลคนพี่กับพีชญา หญิงสาวที่เป็นดั่งรักแรกและรักเดียวของภีมวัจน์ แต่ด้วยสาเหตุอะไรเธอเองก็ไม่ทราบที่ทำให้เจ้าบ่าวของงานนั้นถูกเปลี่ยนตัวเป็นคนพี่กะทันหันทั้งๆ ที่ตอนแรกไม่ใช่ เธอรู้แค่เพียงว่าหลังจากนั้นสองพี่น้องก็แตกหักกันชนิดที่ว่าจะไม่ยอมเผาผีเลยทีเดียว ภีมวัจน์เองตอนนี้ก็ระเห็จตัวเองไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศของครอบครัวที่หัวหิน ส่วนภูวดลเองนั้นก็ย้ายออกไปอยู่บ้านอีกหลังพร้อมกับเจ้าสาวที่เคยเป็นคนรักของน้องชายตัวเอง นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นที่แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังคงจำมันได้ดี น้ำตาของภีมวัจน์ในค่ำคืนที่เขาสูญเสียคนรักให้แก่พี่ชายของตัวเองไปในคืนนั้นมันยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอไม่รู้ลืม แม้ว่าเวลามันจะผ่านมานานแล้วก็ตามที
“ลลินจ๊ะ” เสียงเรียกของคุณหญิงรัชชนกที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวได้สติขึ้น เธอสะบัดภาพของสองหนุ่มของบ้านออกไปพร้อมตอบ
“ค่ะคุณท่าน ลินจำคุณภีมกับคุณภูได้ค่ะ”
“ดีเลย ถ้างั้นเรื่องที่ฉันจะขอร้องให้เธอช่วยก็คงไม่ยากแล้ว…เธอก็รู้ใช่ไหมว่าคำสั่งเสียของคุณพี่คืออยากได้หลานสักคนหนึ่งไว้สืบสกุลต่อจากตาภีมกับตาภูลูกๆ ของฉัน” มาถึงคำถามนี้หญิงสาวก็ถึงกลับงุนงงด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะถามมันกับเด็กเก็บมาเลี้ยงอย่างเธอ
เธอรู้เรื่องนี้ดีพอๆ กับทุกคนในบ้านว่าคุณหญิงรัชชนกอยากได้หลานมาไว้เพื่อสืบสกุลของตัวเองมากแค่ไหน แต่เพราะภูวดลลูกชายคนโตยังไม่ยอมมีทายาทให้ท่านเสียทีความหวังนี้ถึงได้ถูกโยกย้ายไปยังลูกชายอีกคนที่ตอนนี้หลบหนีไปอยู่ไกลหูไกลตาแทน…
“ลินทราบค่ะ ว่าแต่ทำไมคุณท่านถึงได้…”
“เพราะอย่างนั้นหน้าที่มีหลานสืบสกุลให้ฉันกับสามีเลยต้องตกเป็นของตาภีมไป สิ่งที่ฉันกำลังจะขอร้องเธอต่อไปนี้ฉันไม่ได้บังคับ เธอจะทำหรือไม่ทำก็สุดแล้วแต่นะจ๊ะลลิน เพราะนี่มันไม่ใช่การบังคับ หากแต่มันคือการขอร้องของฉันเสียมากกว่า…” ลลินมีสีหน้าลำบากใจไม่ใช่น้อยแต่หญิงสาวก็เลือกที่จะฝืนยิ้มพร้อมกับเอ่ยถามถึงความต้องการของอีกฝ่ายออกไป ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนหากมันเป็นสิ่งที่ผู้มีพระคุณต้องการเธอก็พร้อมที่จะทำมันไม่ว่าเรื่องอะไร
“คุณท่านอยากให้ลินทำอะไรคะ กรุณาบอกลินมาเถอะค่ะ ลินพร้อมทำเพื่อคุณท่านทุกอย่างค่ะ” คนได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างมีความสุข นางคิดไม่ผิดจริงๆที่หวังพึ่งหญิงสาวที่นางได้เลือกแล้วคนนี้
“ขอบใจเธอมากนะลลิน ฉันเชื่อว่าหนูจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังแน่ๆ คืออย่างนี้…เธอจะช่วยอุ้มท้องหลานของฉันให้ฉันสักคนหน่อยได้รึเปล่า!” ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมานั้นกลับทำเอาคนถูกขอร้องถึงกลับเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยิน ต่างจากคุณหญิงรัชชนกที่ได้แต่ยิ้มฝืนเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่ตนเพิ่งจะเอ่ยปากขอร้องไปนั้นมันเป็นเรื่องที่ผิดและยากที่ใครสักคนจะยอมตอบตกลงกลับมาโดยง่ายดายเหมือนเช่นใจนึกคิด แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้วนอกจากวิธีนี้
และคนๆ เดียวที่นางเห็นว่าจะสามารถช่วยกันได้นั้นก็คงจะมีแค่หญิงสาวตรงหน้าคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้อีกแล้วนอกจากลลินคนนี้ที่นางเห็นชอบมาเหมาะสมที่สุดแล้ว
เหมาะสมมากกว่าใครๆ

