บทที่ 13 ข้อมูลจากทนาย
เช้าตรู่ในวันที่ตะวันเริ่มทอแสงรอดผ่านม่านเข้ามากระทบหน้า หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาตื่นช้าๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงแล้วหันไปหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู เลยเวลามาพอสมควรก่อนจะรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ดารินหยิบชุดกระโปรงสั้นลายดอกขึ้นมา ก่อนจะนึกได้ว่าคุณรัตนาเป็นคนหัวโบราณ จึงเหวี่ยงทิ้งไป แล้วคว้ากางเกงขายาวสีดำสนิทขึ้นมาแทน รอยยิ้มแสนสวยคลี่ออกอย่างสบายใจ มือบางหันไปวาดหาต่างหูที่ดูเรียบร้อยแต่ยังคงไว้ซึ่งความทันสมัย หลังจากเธอเข้ามาทำงานกับเขมกร เธอได้เรียนรู้เรื่องการแต่งกายมากพอสมควร เพราะในบริษัทของเขานั้น ไม่มีใครแต่งตัวเชยเฉิ่มเลยแม้แต่คนเดียว เสื้อผ้าหลายตัวได้ถูกรินดาโยนทิ้งลงในถังขยะไปเรียบร้อยแล้วเมื่อหลายวันก่อน
หญิงสาวส่องกระจกตรวจทานความเรียบร้อยของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กติดมือไป
“รินไปก่อนนะคะ ลีจงซอก แล้วเดี๋ยวจะรีบกลับ” หญิงสาวจูบรูปภาพหนึ่งครั้งแล้วออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว สองเท้าก้าวเตรียมออกจากบ้าน พบกับรถสีดำปริศนาจอดขวางอยู่หน้าบ้าน เธอหันซ้ายแลขวาก่อนจะหันมองหาคนขับ
“รถใครมาจอดขวางหน้าบ้าน” หญิงสาวพึมพำ ก่อนจะเดินตรงไปยังรถที่จอดขวางหน้าบ้านอยู่ ยังไม่ทันถึงตัวรถดี กระจกด้านข้างลดลง เผยให้เห็นชายหนุ่มผู้เป็นคนขับ
“คุณพชรนัย” ดารินเรียกชื่อ พลางทำตาโต หลังจากเห็นรอยยิ้มที่เขาส่งให้
“ขึ้นรถสิ” หญิงสาวเงอะงะเล็กน้อย แต่ก็ตัดสินใจก้าวขึ้นรถไปอย่างง่ายดาย
“คุณนัยมาได้อย่างไรคะ” ดวงตาแป๋วถามอย่างสงสัย
“นายเขมให้ผมมา ได้ข่าวว่าโดนคุณรัตนาเล่นงานซะไม่มีดี” ชายหนุ่มพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ดารินรอบยิ้มอย่างเขินอาย ใครจะไม่เขินได้ ก็เขาน่ะทั้งหล่อทั้งน่ารัก งานดีแบบนี้หาได้ง่ายๆ ซะที่ไหนล่ะ
“นี่นามบัตรผม วันนี้ผมจะเป็นคนส่งคุณไปเจรจาเอง และหากคุณทำธุระเสร็จให้โทรหาผมนะ ผมจะเป็นคนไปรับทันที”
“ค่ะ” รินดาลอบยิ้ม เป็นครั้งที่สอง ทำไมนะเวลาที่อยู่ใกล้เขาถึงได้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ไม่ว่าต้องเจอกับอะไรเธอไม่รู้สึกหวั่นไหวแม้สักนิด ก่อนหญิงสาวจะนึกบางอย่างได้
“เอ่อ..คุณนัยช่วยจอดด้านหน้าให้รินหน่อยได้ไหมคะ”
“อ่อครับ” พชรนัยเปิดไฟเลี้ยวเข้าจอดเทียบตามคำขอ ก่อนหญิงสาวจะหันมายิ้มให้ รอยยิ้มหวานนั้นทำเอาพชรนัยชะงักไปเหมือนกัน
“พอดีโดนัทเจ้านี้อร่อยมากค่ะ รินว่าจะซื้อติดมือไป” ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะยิ้มกลับ เขามองร่างของหญิงสาวเดินเข้าร้านไป ก่อนจะก้มคุยไลน์กับเขมกรเพื่อรายงานความเคลื่อนไหว
เสียงเปิดประตูห้องทำให้เขมกรหันมองไปยังต้นเสียงก่อนจะพบกับพนักงานชาย เดินเข้ามาอย่างนอบน้อม
“ว่าไงบ้าง ข้อมูลจากทนายที่ฉันให้ไปค้นถึงไหนละ” เขาถามทั้งดวงตายังคงมองอยู่ที่หน้าจอคอมตัวจิ๋ว
“คุณอำนาจ ทำการยืมเงินจากคุณท่านไปจำนวนหนึ่ง ก่อนที่คุณท่านจะเสีย โดยมีนายเสรีเป็นคนค้ำ แต่ชื่อไม่ได้เป็นชื่อคุณท่าน คุณท่านให้ทนายทำเป็นชื่อคุณเขมแทนครับ” เขมกรพยักหน้าเข้าใจ เพราะเขารู้นิสัยบิดาดีกว่าใคร ชอบทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้เสมอๆ อะไรที่ผิดทำให้เป็นถูกได้อย่างสบายด้วยอำนาจเงินที่มีในมือ
“คุณอำนาจเป็นใคร” เขมกรถามต่อ
“คุณอำนาจดูเหมือนจะเป็นคนรู้จักห่างๆ ของคุณท่านอีกที แต่ผมแปลกใจอยู่อย่างหนึ่ง”
“ยังไง”
“หลังจากที่คุณอำนาจได้เงินก้อนนี้จากคุณท่านไป เวลาไม่นานนักเขาก็ทำการยักย้ายถ่ายโอน กรรมสิทธิ์ทุกอย่างให้แก่ญาติพี่น้อง เหมือนจงใจ”
“จงใจไม่ใช้หนี้ แล้วให้ทวงตามคนค้ำแทนใช่ไหม”
“ผมเข้าใจอย่างนั้นครับ” หลังจากฟังลูกน้องรายงานเหตุการณ์เป็นฉากๆ เขมกรเริ่มเข้าใจบางอย่างได้ ดวงตาคมคิดทบทวนครู่หนึ่ง ก่อนจะพับหน้าจอคอมลง
