บทที่ 14 ลีจงซอกมารับ
“ผมยกเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่คุณประสานงานกับทนายความ มอบอำนาจให้ทำเรื่องถอนบังคับคดีของคุณเสรีออกให้หมด
“แต่ว่า...” พนักงานมีอาการลังเลอย่างเห็นได้ชัด
“มีปัญหาอะไร”
“จะกลายเป็นหนี้สูญนะครับ เงินที่คุณอำนาจเอาไปก็ไม่ใช่น้อยๆ”
“คุณไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ผมจะตามเอาคืนจากนายอำนาจ คนหัวหมอแบบนั้น ผมไม่ปล่อยไว้หรอก เขาทำให้คนตายทั้งคน” เขมกรนึกถึงคำพูดของดารินที่เคยบอกไว้ว่าพ่อเธอเสียชีวิตอย่างไร
เขมกรนั่งทำงานที่กองเท่าภูเขาจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง พนักงานเข้าออกให้เขาเซ็นเอกสารเป็นว่าเล่น ก่อนสายตาคมจะหันมองนาฬิกาหรูที่ข้อมือ จึงหยิบมือถือโทรหาเพื่อนรัก
“นัย..ไปรับดารินมาหรือยัง”
“ก็ไม่เห็นเธอโทรมานะ ป่านนี้กลับเองแล้วมั้ง สามทุ่มแล้วนะ”
“งั้นเหรอ แค่นี้ล่ะ” เขมกรวางสายเพื่อนรักไปพลางเลื่อนดูไลน์ เผื่อลูกน้องสาวจะมีรายงานความคืบหน้าอะไร แต่ปรากฏว่าว่างเปล่า ซึ่งแปลกไปจากนิสัยของเธอ ชายหนุ่มจึงกดโทรหาแต่ดารินไม่ยอมรับสาย คิ้วเข้มชนกันเล็กน้อยเขามองมือถือครู่หนึ่งจึงกดโทรซ้ำเป็นครั้งที่สอง ปรากฏว่าผลเป็นเหมือนเดิมไม่ตอบรับ เขมกรหันไปเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบแล้วรีบออกจากบริษัททันที สองมือหมุนพวงมาลัยรถออกอย่างรวดเร็ว แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของคุณรัตนา หากลูกน้องเขาเป็นอะไรไป จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สายตาคมแสดงความกังวลอย่างมาก เพราะรู้นิสัยจอมมารอย่างคุณรัตนาดี
“นังหนูนั่นกลับไปหรือยัง” เสียงหญิงชราที่นั่งจิบชาอยู่ เอ่ยถามคนรับใช้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยเพราะความชรามากแล้ว
“ยังเลยค่ะคุณท่าน นั่งเมาอยู่หน้าบ้าน”
“หึ” หญิงชราหัวเราะในลำคอ คิดจะกล่อมให้ขายที่ ฝันไปเถอะว่าจะยอมขายง่ายๆ ไม่ใช่ไม่อยากขาย แต่รู้สึกสนุก ที่มีคนมาเล่นด้วยไม่เว้นแต่ละวัน เดี๋ยวพนักงานบริษัทนั้น เดี๋ยวพนักงานบริษัทนี้ มีอะไรให้คนแก่เล่นอีกเยอะไม่เหงาตายเป็นซากเหมือนสมัยก่อน
“หากเที่ยงคืนแล้ว แม่หนูยังไม่กลับ หรือยังไม่มีใครมารับ ก็พาเข้าบ้านนะ เดี๋ยวยุงกัด” หญิงแม่บ้านก้มโค้งรับอย่างเกรงอำนาจ และดูเหมือนลังเลที่จะพูดบางอย่าง
“มีอะไรก็พูดมา อย่าอ้ำอึ้งลีลาเยอะ ฉันไม่ชอบ”
“เหล้าที่คุณท่านให้ผู้หญิงคนนั้นชิม เป็นเหล้าที่แพงมากเลยนะคะ”
“ใครบอกว่าฉันให้ชิม ฉันให้ดื่มเลยต่างหาก แต่ไม่คิดว่าเมาแล้วจะล้นเลื่อนเปื้อนขนาดนั้น หึหึ” หญิงชรายิ้มออกมาอย่างชอบใจ พลางเหลือบตามองแม่บ้านเป็นครั้งสุดท้าย
“จับตาดูแม่หนูนั่นไว้ อย่าให้ใครมาทำอะไรไม่ดี ถ้าเที่ยงคืนยังไม่กลับ ก็ลากเข้ามานอนในบ้าน ฉันจะเข้านอนแล้ว”
“เดี๋ยวค่ะคุณท่าน แล้วทำไมไม่พาเธอเข้ามานอนในบ้านเลยล่ะคะ”
“มันจะดูว่าฉันใจดีเกินไปน่ะสิ” หญิงชราพูดพลางยิ้มอย่างนึกสนุก ก่อนแม่บ้านจะเข็นรถเข็นพาหญิงชราเข้าห้องพักผ่อนไป
แสงไฟหน้ารถสาดทาบส่องมาที่ใบหน้าของหญิงสาวที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ โดยมีแม่บ้านแอบดูอยู่ห่างๆ เขมกรเบิกตาโพลง เท้ากดเหยียบเบรกในทันที ไม่นานนักร่างสูงก็เข้ามาประคองหญิงสาวอย่างรีบร้อน
“ดารินๆๆ” เขาเขย่าตัวหญิงสาวที่เมาไม่ได้สติ ก่อนจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเธอ
“คุณกินเหล้าหรือ” คนเป็นห่วงถามขณะที่หญิงสาวลืมตามอง แล้วปล่อยยิ้มหวานพร้อมกับดวงตาเยิ้มมองเขา
“ลีจงซอก มารับรินหรือคะ” ดวงตาเยิ้มมองชายหนุ่มแล้วพูดพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่ว มือน้อยๆ รั้งคอเขาไว้พลางจับใบหน้ามาแนบชิด
“อึก อึก” หญิงสาวสะอึกเป็นระยะๆ พร้อมกับดวงตาเยิ้มนั้น ชายหนุ่มเห็นภาพตรงหน้าเขารู้สึกเดือดขึ้นมาทันที ก่อนจะแกะมือหญิงสาวออกจากคอ แล้วเดินตรงไปชะเง้อคอมองหา มือหนากำลังเตรียมกดกริ่งหน้าบ้าน เขาอยากคุยให้รู้เรื่อง ก่อนที่แม่บ้านผู้สังเกตการณ์จะรีบเดินเข้ามา
“คุณรัตนาอยู่ไหน” เขมกรถามเสียงเข้ม ในขณะที่ดารินเดินเข้ามากอดจากด้านหลัง แรงกระแทกของหญิงสาวทำให้เขาเซถลาไปก้าวสองก้าว
