บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ช่วยสาวงาม

แสงตะวันยามบ่ายส่องลอดผ่านแนวไม้ ทาบทอลงบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้ร่วง เงาของกิ่งไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงเกือกม้ากระทบพื้นดินดังก้องไปทั่วแนวป่า

ขบวนทหารในชุดเกราะเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเล็ก ๆ ที่นำกลับสู่เมืองหลวง เซียวเหยียนหลง ท่านโหวแห่งตระกูลเซียว ขี่ม้านำหน้าด้วยสีหน้าสงบนิ่งไม่เร่งร้อนหลังจากจับคนมาได้และเขากำลังมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง

เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่เขาออกจากเมืองหลวงเพื่อตามล่าตัวเจ้ากรมฉิน อดีตขุนนางใหญ่ที่คดโกงสมบัติแผ่นดินและลอบหนีไปซ่อนตัวทางตอนใต้ บัดนี้ภารกิจสำเร็จลุล่วง เขาจับตัวเจ้ากรมฉินและกำลังพากลับมารับโทษจากฝ่าบาท

ในขณะที่ขบวนเดินทางผ่านแนวป่าทึบ เสียงหวีดร้องดังแว่วมาจากเบื้องหน้า ทำให้เซียวเหยียนหลงกระตุกบังเหียนม้าหยุดกะทันหัน ทหารทั้งหมดหยุดตามพร้อมกับชักอาวุธเตรียมพร้อม

“เกิดอะไรขึ้น”

ทหารหน่วยสอดแนมรีบขี่ม้ากลับมา รายงานอย่างร้อนรน

“ใต้เท้า! ข้างหน้าคนของเราพบว่าน่าจะเป็นกลุ่มโจรป่าขอรับ ดูเหมือนว่าเพิ่งปล้นสดมภ์มาได้”

นัยน์ตาของเซียวเหยียนหลงวาบขึ้นทันที ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเฉียบ

“เร่งไปช่วย เผื่อมีผู้ใดรอดชีวิต!”

“ขอรับ”

ทันใดนั้นทหารทั้งกองร้อยก็กระชับดาบ กระโจนเข้าสู่แนวป่าด้วยความเร็วสูง ม้าศึกพุ่งทะยานไปข้างหน้า ฝีเท้าโหมกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง

ภายในค่ายโจร

เสียงหัวเราะหยาบช้าดังขึ้นท่ามกลางค่ายที่เต็มไปด้วยกลิ่นสุราและกลิ่นสาบสัตว์กลางป่า หญิงสาวร่างบอบบางใบหน้างดงามผู้หนึ่งถูกมัดมือไว้ด้านหลัง ชุดผ้าเนื้อหยาบของนางขาดวิ่น ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ แม้จะอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ แต่นางกลับกัดฟันแน่น ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายแห่งความแข็งกร้าว

ชายร่างใหญ่ผู้เป็นหัวหน้าโจรก้าวเข้ามา ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการต่อสู้ นัยน์ตาหื่นกระหายจ้องหญิงสาวตรงหน้า รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏขึ้น

“หญิงงามถึงเพียงนี้จะปล่อยไปได้อย่างไร มาดูกันเถิดว่าเสียงครางของคุณหนูเมืองกรุงจะไพเราะเพียงใด”

สิ้นคำ มันกระชากเสื้อของหญิงสาวอย่างแรง

หญิงสาวเม้มปากแน่น นางพยายามขยับตัวดิ้นหนีแม้มือจะถูกมัด นางรู้ดีว่าหากตกอยู่ในมือของพวกมัน นางคงไม่มีวันได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกต่อไป

ดวงตาคู่งามสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น แต่นางยังคงไม่ยอมแพ้

“อย่าแม้แต่จะคิดแตะต้องข้า!” นางกัดฟันตวาดออกมา

หัวหน้าโจรหัวเราะลั่น “ปากดีนัก! ข้าอยากรู้นักว่าหลังจากคืนนี้ เจ้าจะยังปากเก่งอยู่หรือไม่!”

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงตะโกนดังลั่นก้องป่า พร้อมกับเสียงกู่ร้องของทหารม้า เสียงเกือกม้ากระแทกพื้นดังสนั่น ควันฝุ่นตลบอบอวล ก่อนที่กลุ่มโจรจะทันได้ตั้งตัว ดาบเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้าเสียบทะลุหัวใจของพวกมันทันที!

เซียวเหยียนหลงกวัดแกว่งดาบของเขา สะบัดโลหิตออกจากคมดาบ นัยน์ตาคมกริบเปล่งประกายเยียบเย็นราวน้ำแข็ง ทหารของเขาเข้าปะทะกับพวกโจรทันที

“บัดซบ! เป็นทหารหลวง รีบหนีเร็วเข้า” หัวหน้าโจรตะโกนสั่งพรรคพวก แต่มันยังไม่ทันก้าวหนี ดาบของเซียวเหยียนหลงก็ปาดผ่านลำคอมันในพริบตา เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นไปทั่วพื้น

หญิงสาวที่ถูกมัดตัวแข็งทื่อ นางตกตะลึงกับภาพตรงหน้า หัวใจเต้นกระหน่ำราวกลองศึก

เพียงชั่วพริบตาเดียว กองโจรทั้งหมดถูกสังหารจนแทบไม่เหลือ!

เซียวเหยียนหลงเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว คมดาบในมือยังคงเปื้อนโลหิต กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ปล่อยนาง”

ทหารนายหนึ่งรีบตรงเข้ามา ใช้ดาบตัดเชือกที่พันธนาการหญิงสาวออก

หญิงสาวทรุดตัวลงกับพื้น แขนเรียวสั่นเทา ดวงตาคู่สวยจ้องมองบุรุษตรงหน้า นางยังคงหายใจหอบถี่ด้วยความหวาดหวั่น แต่เมื่อได้สบตากับเขา นางกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นอย่างประหลาด

เซียวเหยียนหลงมิได้มองนาง แต่กลับโยนเสื้อคลุมออกมาคลุมร่างบอบบาง พร้อมกับบอกทหารทุกคนให้ออกจากห้องไป ไม่อาจให้ผู้ใดเห็นร่างขาวผ่องของสตรีนางนี้ได้

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงถูกพวกมันจับตัวมา?”

นางยังตัวสั่นและดูเหมือนว่าจะพูดไม่ออก เมื่อบุรุษร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาองอาจผู้นี้ยังคงจ้องมองนาง

เขาเอ่ยเบา ๆ

“ไม่ต้องกลัว ข้าเป็นทหารหลวงเจ้าปลอดภัยแล้ว”

หญิงสาวขยับริมฝีปาก นางพยายามรวบรวมสติของตนเอง ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“ข้า...ข้าถูกลักพาตัวมาจากเมืองหลวงเจ้าค่ะ”

เซียวเหยียนหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย “บ้านของเจ้าคือที่ใด?”

หญิงสาวนิ่งเงียบไปชั่วครู่ดูเหมือนลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นระรัว

“ข้า...เพิ่งกลับมาจากค้าขายต่างเมือง แต่ก่อนเข้าเมืองหลวงโจรพวกนี้กลับดักปล้นและพาข้ามาที่นี่ ขอบคุณใต้เท้าที่ช่วยเหลือข้า”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ

เซียวเหยียนหลงพยักหน้าช้า ๆ เอ่ยว่า

“ข้าเป็นทหารหลวง มีหน้าที่ช่วยคนอยู่แล้วไม่ต้องเกรงใจ วันนี้เจ้าติดตามทหารหลวงกลับเรือนก็แล้วกัน ข้าจะไปส่งเจ้าที่เรือน”

นางก้มหน้าเอ่ยว่า

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

ทว่าอย่างไรนางกลับลุกไม่ไหวเสียแล้ว ขาของนางข้างหนึ่งบวมเป่งเพราะถูกหัวหน้าโจรใช้ไม้ตีอย่างแรง เพราะนางคิดหลบหนี

เพียงขยับตัวขึ้นนางก็ทรุดลงกับพื้น เซียวเหยียนหลงรีบประคองนางจากนั้นก็โอบร่างบอบบางของนางขึ้นมาอุ้มเพราะเขาเห็นแล้วว่าขาของนางกำลังบวมเป่ง

“ล่วงเกินแม่นางแล้ว”

นางเม้มปากหัวใจเต้นระรัว ก้มหน้างุดไม่กล้ามองหน้าเขา สัมผัสได้ถึงลำแขนแข็งแรงที่กำลังโอบรัดร่างของนาง ถึงจะใกล้ชิดเพียงนี้แต่นางกลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาว่าเย็นชาเพียงใด

เขาอุ้มนางเพียงเพราะมโนธรรม ที่เห็นนางเดินไม่ได้เท่านั้น ไม่มีสิ่งใดแอบแฝงแม้แต่น้อย

กระนั้นหัวใจของสาวน้อยเช่นซูเหม่ยก็พลันเต้นระรัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel