บทที่ 1.1 รักษาสามีและบอกเหตุผลที่เปลี่ยนไป - 3
"น้องเล็กเจ้าไม่เจ็บตรงไหนใช่หรือไม่" ไป๋อัน
พี่ใหญ่จางไป๋อันกับจับตัวไป๋หลินมาหมุนดูหลังจากที่ท่านพ่อกอดน้องเสร็จ ไป๋อันเป็นพี่ชายเงียบขรึมพูดน้อยแต่ก็เป็นอีกคนที่มีความคิดเช่นกันกับท่านพ่อของเขาที่รักและหวงน้องเกอคนเล็กมาก
"พี่ดีใจมากที่เจ้าฟื้นแล้ว ได้ข่าวว่าขึ้นเขามารึ ทำไมไม่พักผ่อนที่บ้านดี ๆ ละ แล้วนี่มาเดินมาถึงที่นี่ คิดถึงพวกพี่ใช่ หลินเอ๋อร์ของพี่" ไป๋เฉิน
พี่รองจางไป๋เฉินพี่ชายที่แสนอบอุ่นตามใจน้องเล็กของบ้านมากที่สุด ดีใจจนน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว ที่เห็นน้องชายเดินมาหาเขาที่บ้าน
"ข้าว่าเราเข้าไปคุยกันในบ้านเถอะขอรับ ดูท่าน่าจะคุยกันอีกนาน" ไป๋หลิน
ไป๋หลินจึงชวนทุกคนเข้าไปคุยกันในบ้านให้ทุกคนหายสงสัยก่อนที่มันจะค่ำแล้วเดินทางเข้าเมืองไม่ทัน
ไป๋หลินนั้นได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขา ไป๋หลินเล่าทุกอย่างเหมือนตอนที่เล่าให้สามี ท่านแม่ และแม่สามีฟัง พอทุกคนในบ้านจางได้ฟังก็ถึงกับน้ำตาไหลทั้งดีใจและสงสาร ขนาดพี่ใหญ่ที่ว่าเป็นเสือยิ้มยากก็ยังน้ำตาซึมกันเลย
แต่ไป๋หลินไม่ได้เล่าเรื่องที่พบโสมป่า เพราะเขาอยากเอาไปขายก่อน หากได้เงินมามากเขาจะนำมาแบ่งให้ทั้งบ้านเดิมและบ้านใหญ่ ถึงตอนนั้นค่อยบอกว่าเงินได้มาจากการขายโสม ไป๋หลินอยากทำให้ทุกคนตกใจตื่นเต้น
"โถ่ หลินเอ๋อร์ของพ่อหมดเคราะห์หมดโศกแล้วนะลูก" ไป๋เฉิง
"ขอรับท่านพ่อ" ไป๋หลิน
"พี่ว่านะ เดี๋ยวพี่เข้าเมืองไปเป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า เข้าเมืองเวลานี้กว่าหาร้านขายพวกสมุนไพรเจอได้ก็ค่ำแล้ว เจ้าไปคนเดียวขากลับมันอันตรายเหมือนเมื่อคราวที่แล้ว" ไป๋หลง
พี่สามของไป๋หลินเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงน้อง
"เออ ข้าขอออกความคิดหน่อยได้ไหมขอรับ" หลิงฉี
"มีอะไรหรือสะใภ้ใหญ่ ว่ามาเลย" ไป๋เฉิง
พี่สะใภ้ใหญ่ออกความคิดเห็นเสริม บ้านจางไม่มีกฎระเบียบอะไรเข้มงวดทุกคนในบ้านเท่าเทียมกันพ่อแม่สามีก็รักลูกสะใภ้รักหลาน ๆ ทุกคนเท่ากัน เวลามีเรื่องอะไรทุกคนในบ้านจะช่วยกันออกความคิดเห็น
"ถ้าน้องเล็กอยากขายสมุนไพร ลองไปที่ร้านยาเถ้าแก่เผิงลู๋กังดูนะ ร้านอยู่ติดกับร้านขายผ้าไหมโยว่เชียง เถ้าแก่เผิงลู๋กังคนนี้เป็นเพื่อนกับพี่รองของพี่เอง บอกว่าพี่หลิงฉีแนะนำมาเขาต้องให้ราคาดีแน่ ๆ เมื่อก่อนตอนยังไม่แต่งกับพี่ใหญ่เจ้า ครอบครัวพี่มักจะเอาสมุนไพรไปขายที่ร้านตระกูลเผิงในเมืองหลวงเป็นประจำ แต่ตอนนี้ตระกูลเผิงขยายสาขามาเมืองหมิงโจวได้ปีหนึ่งแล้ว ที่นั่นเขารับซื้อสมุนไพรทุกอย่างเพื่อส่งไปสาขาใหญ่ที่เมืองหลวง ถึงเมืองเราไม่มีโรงหมอก็จริง แต่ร้านยาเถ้าแก่เผิงรับซื้อสมุนไพรชนิด ตั้งราคาถูกจนถึงราคาแพง อีกอย่างยังมีพวกสมุนไพรหรือเข็มที่ใช้รักษาคนไข้ขายอีกด้วยนะ" หลิงฉี
"ดี ๆ ทำตามที่สะใภ้ใหญ่บอกนั่นแหละ อาหลงรีบพาน้องเจ้าเข้าเมืองเร็วเดี๋ยวจะค่ำมืดซะก่อน" ไป๋เฉิง
หลังจากตกลงกันเสร็จไป๋หลงก็รีบพาไป๋หลินขึ้นเกวียนที่ขับเคลื่อนด้วยวัวทันที เพื่อมุ่งหน้าไปยังในเมืองหมิงโจว
ไป๋หลินคิดในใจคนบ้านเดิมของเขายังดีกับไป๋หลินไม่เคยเปลี่ยนเลยจริง ๆ แม้ไป๋หลินคนเดิมจะสร้างเรื่องให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน อย่างพี่สะใภ้ใหญ่สะใภ้รองเองก็เคยเจอฤทธิ์ของไป๋หลินคนเดิมเหมือนกัน แต่มันมีความรู้สึกว่าพี่สะใภ้ทั้งสองมีอะไรที่น่ากลัวซ่อนอยู่จึงทำให้เขาไม่กล้าที่จะแผลงฤทธิ์ใส่มากนัก
ในที่สุดไป่หลงกับไป๋หลินสองพี่น้องบ้านจางก็เดินทางถึงในตัวเมืองหมิงโจวในยามเซินเดินทางจากหมู่บ้านถงหยางมาในตัวเมืองหมิงโจวใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยามก็ถึงแล้ว
สองพี่น้องบ้านจางก็รีบเอาเกวียนไปจอดในที่รับฝากเกวียน แล้วพากันเดินมุ่งหน้าไปยังร้านยาตระกูลเผิงทันที หาไม่นานก็เจอร้านยาตระกูลเผิงตามที่พี่สะใภ้บอกไว้
"น้องเล็กเจ้าไปเลยนะเดี๋ยวพี่ขอรอหน้าร้านนี้แหละ" ไป๋หลง
"ได้ขอรับพี่สาม" ไป๋หลิน
ไป๋หลินก็เดินเข้าในร้านยาก็ได้เจอกับเกอคนหนึ่งสวยมาก ดูจากลักษณะอายุน่าจะราว ๆ กับพี่สะใภ้สามน่าจะเป็นคนงานในร้านไม่ก็ภรรยาเถ้าแก่เผิง
"เออ พี่ชายข้ามาขอพบเถ้าแก่เผิงลู๋กังขอรับ พอดีว่าพี่หลิงฉีแนะนำให้ข้ามาขายสมุนไพรที่นี่ขอรับ" ไป๋หลิน"อ้อ ได้ ๆ เดี๋ยวข้าไปตามสามีสักครู่ น้องชายนั่งดื่มชารอก่อนนะ" ผิงซี
นั่นปะไรทายถูกจริง ๆ ด้วยว่าเกอคนงามผู้นี้คือภรรยาของเถ้าแก่เผิงจริง ๆ ไป๋หลินก็นั่งรอไม่นานเกอคนงามผู้นั้นก็เดินมาจากหลังร้านพร้อมชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าหล่อแลดูอบอุ่น ช่างเหมาะสมกันเสียจริง ๆ สามีภรรยาคู่นี้
"น้องชายคนนี้รึ ที่หลิงฉีแนะนำมา ไหน ๆ มีสมุนไพรอะไรมาขายให้ข้า" ลู๋กัง
"สวัสดีขอรับข้าจางไป๋หลินเป็นน้องสามีของพี่หลิงฉีขอรับเถ้าแก่เผิง" ไป๋หลิน
"น้องสามีของหลิงฉีหรอกรึ งั้นเรียกพี่ลู๋กังอย่าเรียกเถ้าแก่คนกันเองทั้งนั้น นี้ภรรยาพี่เอง" ลู๋กัง
"ไป๋หลินสินะ เรียกพี่ผิงซีก็ได้จ้ะ" ผิงซี
"ขอรับพี่ลู๋กังพี่ผิงซี" ไป๋หลิน
เมื่อทักทายทำความรู้จักกันเสร็จ ไป๋หลินก็รีบเอาสมุนไพรที่จะขายออกมาพร้อมกันกับโสมป๋า พอสามีภรรยาเห็นสิ่งที่ไป๋หลินนำมาขายก็ถึงกับตาโตตื่นเต้น เพราะโสมป่ารากใหญ่แบบนี้หายากมาก แถมรากยังสมบูรณ์อีกตั้งสามหัววันนี้สองสามีภรรยาได้เจอสินค้าที่ตามหามานาน
เมื่อตกลงราคากันเสร็จลู๋กังก็รีบเอาตั๋วเงินและเงินสดมาให้ไป๋หลิน โสมรากใหญ่สามรากเถ้าแก่เผิงตรวจดูแล้วมีอายุประมาณ 1,200 ปี ส่วนรากที่เล็กกว่าทั้งสองรากนั้นอายุราวรากละ 400 ปี โดยที่รากใหญ่ให้ราคาที่รากละ 25,000 ตำลึงทอง ส่วนรากเล็กเถ้าแก่เผิงให้รากละ 4,500 ตำลึงเงิน จึงรวมเป็นเงินทั้งหมดอยู่ที่ 75,000 ตำลึงทอง กับ อีก 9000 ตำลึงเงิน ไป๋หลินขอเป็นเงินสดกับเถ้าแก่เผิงเป็นเงินอยู่ที่ 15,000 ตำลึงทอง และยังขอซื้อเข็มที่ใช้ฝังในการรักษากับสมุนไพรบางส่วนที่จะต้องใช้รักษาสามี เพราะในบนเขาสมุนไพรบางชนิดก็หายากต้องหาซื้อกับร้านหมอหรือโรงหมอเท่านั้น
ก่อนกลับไป๋หลินได้ให้พี่สามของเขาพาไปที่ร้านฝากเงินเพื่อนำตั๋วเงินไปฝาก จากนั้นก็เดินหาซื้อของที่จำเป็นเข้าบ้านและไม่ลืมที่จะซื้อขนมไปฝากลูก ๆ ส่วนอาหารเย็นท่านแม่กับแม่สามีคงจะทำไว้แล้ว มองดูท้องฟ้าตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว ไป๋หลินจึงได้ชวนพี่สามกลับหมู่บ้านถงหยาง
ระหว่างที่นั่งเกวียนกลับหมู่บ้านอยู่นั้น เขาเห็นว่าเมืองหมิงโจวยังไม่มีโรงหมอรักษาคนเลย ในหัวจึงเกิดความคิดที่จะอยากก่อตั้งโรงหมอแห่งแรกของหมิงโจวขึ้น อย่างน้อยความรู้ด้านการแพทย์ของเขาคงไม่สูญเปล่าไปเฉย ๆ อีกทั้งยังเป็นอีกทางที่สามารถหาเงินเข้าบ้านได้ อนาคตลูกทั้งสี่จะได้สบายเผื่อวันดีคืนดีเจ้าสามีปากร้ายของเขาอาจจะอยากมีลูกเพิ่มขึ้น เขาต้องหาอาชีพที่มั่นคงเพื่อไว้รองรับอนาคตของลูก ๆ ไว้ก่อน
