ตอนที่ 4 ไม่ยินยอม
รุ่งเช้าวันต่อมา หลินเยว่รู้สึกว่าร่างกายฟื้นตัวเต็มที่แล้ว นางตั้งใจจะออกไปช่วยงานตามปกติจะได้รู้สึกสถานการณ์เบื้องต้นของตัวเองด้วย ขณะที่ก้าวเท้าออกจากเรือนเล็ก เสียงของป้าสะใภ้ใหญ่ ซือซินก็ดังขึ้นแผ่วแต่ฟังแล้วเจือความเย็นชา
“เยว่เอ๋อร์… พึ่งหายป่วยได้ไม่นาน อย่าเพิ่งออกไปตากแดดตากลมเลย… ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวป่วยขึ้นมาอีก จะต้องเสียเงินเสียทองไปหาหมออีกนะ” ถ้อยคำที่ฟังเหมือนความห่วงใย แต่หลินเยว่รู้ดีว่ามันไม่ใช่ นางเม้มริมฝีปากก่อนตอบเสียงเรียบ
“ข้าหายดีแล้ว… ขอบคุณท่านป้าที่เป็นห่วง”
พูดจบ นางก็ไม่รอให้ใครพูดอะไรต่อ ก้าวเดินต่อไป
ซือซินเห็นท่าทางดื้อดึงของอีกฝ่าย ก็เผยแววไม่พอใจทันตา เอ่ยน้ำเสียงเริ่มแฝงความตำหนิ “นี่ข้าพูดสิ่งใด… เจ้าก็ไม่เชื่อฟังเลยหรือ...น้องสะใภ้… เจ้าอบรมบุตรสาวอย่างไร”
คำพูดนั้นทำให้ดวงตาของหลินเยว่ลุกวาวขึ้นทันที นางสูดหายใจลึกเพื่อระงับอารมณ์ ขณะที่มารดาชุนเสวี่ยรีบพูดแทรกเสียงอ่อนแรง
“ขออภัยพี่สะใภ้…เยว่เอ๋อร์เพียงแต่ห่วงจะไปช่วยงาน หาได้ตั้งใจขัดคำสั่งท่าน…เยว่เอ๋อร์…ในเมื่อป้าสะใภ้เป็นห่วงเจ้าก็อยู่แต่ในเรือนเถิดนะ”
น้ำเสียงนั้นอ่อนโยนและพยายามประคับประคองบรรยากาศ
“เจ้าค่ะ…” หลินเยว่จำใจต้องพยักหน้ารับคำ
แล้วจึงหมุนกายกลับเข้าเรือนไป แม้จะไม่พอใจ นางก็รู้ดี…นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะสร้างความบาดหมางกับคนในตระกูล
ซือซิน มองตามหลังหลินเยว่ที่เดินกลับเข้าห้องไปด้วยสายตาที่แฝงนัยบางอย่าง รอยยิ้มที่มุมปากของนางปรากฏขึ้นชั่วครู่แล้วจางหายไป หลังจากมื้อเช้าผ่านไป นางออกไปข้างนอกประมาณหนึ่งชั่วยาม ก่อนจะกลับมาพร้อมหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง ใบหน้าหญิงคนนั้นเปื้อนรอยยิ้มแต่แววตาเฉียบคม
ซือซินตรงไปเรียกหลินเยว่ด้วยน้ำเสียงหวานแปลกหู
“เยว่เอ๋อร์…ออกมาคารวะท่านป้าจางสิ”
หลินเยว่ลุกออกมาตามคำเรียก แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความระแวง สายตาเธอกวาดมองทั้งสองอย่างเงียบ ๆ ขณะครุ่นคิดถึงเจตนาของพวกนาง
ป้าจาง ยืนกอดอก มองหลินเยว่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตากวาดสำรวจอย่างพิจารณาละเอียด ก่อนเอ่ยขึ้น
“ดูสิ…นายอำเภอคงพอใจแน่…”
คำพูดนั้นทำให้หลินเยว่ขมวดคิ้วทันที นางถามเสียงนิ่ง
“พวกท่าน…กำลังพูดเรื่องอะไรกัน”
ซือซิน รีบพูดเสียงหวานแต่ฟังแล้วคล้ายเย้ยหยัน
“ก็…ท่านนายอำเภอโจวน่ะสิ เขาต้องการหาอนุคนใหม่ ข้าคิดว่าเจ้าหน้าตางดงามนัก จึงไปขอร้องป้าจางให้ช่วยพามาดูตัว เจ้าต้องดีใจนะ น้อยคนนักหรอก ที่จะเป็นที่ถูกใจป้าจาง”
ป้าจาง พยักหน้ารับพลางหัวเราะเบา ๆ
“ใช่แล้วล่ะ ทำตัวดี ๆ เชื่อฟังข้าอนุของนายอำเภอโจว ล้วนอยู่ดีกินดี เจ้าถือว่าวาสนาดีนัก แถมแม่เจ้าก็จะพลอยสบายไปด้วย…”
คำพูดเหล่านั้นราวคมมีดกรีดลึกลงในใจ
หลินเยว่ยืนเงียบ แต่ในใจกลับปะทุเพลิงโทสะ
“คนพวกนี้… หาเรื่องข้าจนได้…”
นางสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ สายตาส่องประกายเย็นเยียบราวกับน้ำค้างกลางฤดูหนาว
ป้าจาง หันไปกำชับซือซินด้วยสีหน้าพึงพอใจ
“ช่วงนี้ก็ดูแลนางดี ๆ ล่ะ ให้ผิวพรรณเนียนละเอียดขึ้นอีกหน่อย ข้าจะไปแจ้งนายอำเภอ แล้วจะรีบมารับนาง”
ซือซิน ยิ้มอย่างยินดีใบหน้าเปี่ยมด้วยความทะเยอทะยาน
“ฝากท่านป้าจางด้วยนะเจ้าคะ”
ป้าจาง หัวเราะเบา ๆ แววตาเปี่ยมความมั่นใจ
“วางใจเถอะ… หากข้าเอ่ยปากแล้ว เรื่องเช่นนี้ล้วนสำเร็จทั้งนั้น”
คำพูดนั้นเหมือนตอกย้ำชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้
หลินเยว่ซึ่งพยายามอดกลั้นมาตลอด ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางยืดตัวขึ้น เอ่ยเสียงเย็นแต่ชัดเจน
“ป้าสะใภ้… ท่านจะไม่ถามความเห็นท่านแม่ข้าก่อนหน่อยหรือ”
ซือซินเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี แววตากลับเปี่ยมความดูแคลน
“เรื่องน่ายินดีเช่นนี้… แม่เจ้าต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน...ฐานะอย่างเจ้าได้เป็นอนุนายอำเภอ...นับว่าสูงส่งเกินตัว และอย่าลืมล่ะวาสนานี้ล้วนเป็นข้าที่หามาให้เจ้าต้องกตัญญูข้าให้มากล่ะ”
หลินเยว่ค้านจะต่อปากต่อคำ
และตอนเย็น
“ข้าไม่ยินยอม!!” เสียงตะโกนของ ชุนเสวี่ยดังก้องแรงกล้าทว่ากลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเด็ดเดี่ยวเป็นครั้งแรกที่นางเปล่งเสียงเช่นนี้
ซือซินหัวเราะเย้ยหยันใบหน้าฉายแววดูแคลน
“เจ้าไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้”
ชุนเสวี่ยน้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตา นางสั่นเทาด้วยความคับแค้น
“ข้าพึ่งเสียสามีไป นี่พวกท่านยังจะมาขายบุตรสาวข้าอีกหรือ”
คำพูดนั้นทำให้ซือซินสีหน้าบึ้งตึง แววตาเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง “การแต่งงานของบุตรหลานในตระกูล ล้วนเป็นหน้าที่ของผู้อาวุโส ข้าเป็นพี่สะใภ้ย่อมมีสิทธิ์ตัดสินใจ อีกอย่าง ได้เป็นอนุของท่านนายอำเภอ นั่นถือเป็นวาสนาของนางแล้ว”
ชุนเสวี่ยกำหมัดแน่น สั่นเทาด้วยความโกรธแต่ไม่อาจกล่าวโทษถึงนายอำเภอได้ นางจึงเอ่ยเสียงเด็ดขาด น้ำเสียงสั่นเพราะความเจ็บปวดแต่เต็มไปด้วยความแน่วแน่
“ถึงอย่างไร… ข้าก็ไม่ยินยอม!!”
ซือซินหัวเราะเย้ยหยัน
“เจ้าไม่มีสิทธิเลือกแล้ว! อีกไม่กี่วัน นายอำเภอก็จะให้คนมารับนางไป…ผู้อื่นล้วนใฝ่ฝันอยากเป็นอนุของนายอำเภอทั้งนั้น พวกเจ้าช่างตื้นเขินนัก น้องสะใภ้…เจ้าคิดให้ดีเถิด!” น้ำเสียงแฝงความถือดีและเหยียดหยาม
นางก้าวเข้ามาใกล้ สายตาจับจ้องชุนเสวี่ยอย่างกดดัน ก่อนหันไปเหลือบมองหลินเยว่ รอยยิ้มแฝงพิษปรากฏที่มุมปาก
“หลินเยว่… รูปร่างหน้าตางดงามนี้ แทนที่จะปล่อยให้สูญเปล่า ทำไมไม่ใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์หากนางเป็นที่โปรดปรานของนายอำเภอแล้วล่ะก็ อนาคตของหลินอวี่…เจ้าจะต้องกังวลอีกหรือ”
แววตาหลินเยว่เปล่งแสงเย็นเฉียบในใจครุ่นคิด
“จะฆ่าป้าสะใภ้คนนี้หรือพวกนายอำเภอดี”
