บท
ตั้งค่า

ท่านไม่อ่อนโยน 2

ฮูหยินเฒ่าถึงกับหัวเราะร่าออกมาอย่างดังพร้อมกับกอดอกมองสะใภ้คนกลางด้วยความหมั่นไส้ ทั้งที่นางเองไม่ได้ถามไถ่เลยสักนิดว่าสะใภ้เป็นอันใด แต่แค่มาถึงเห็นว่านอนอยู่นางก็ด่าเป็นชุด

“ท่านแม่...พี่สะใภ้นางสิ้นแล้วนะเจ้าคะ” บุตรสาวคนเล็กหันมาบอกมารดาของตัวเองด้วยความสลดเป็นอย่างมาก เพราะหวังว่าแม่ของนางจะเอ็นดูพี่สะใภ้สักครั้งก่อนตายก็ยังดี เช่นเดียวกับจางอี้ฟานเองที่หันหน้ามาหาแม่ของเขาก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

“ท่านแม่ ข้าขอร้องเซี่ยวหมิงเยว่ นางสิ้นแล้วตอนที่มีชีวิตอยู่ก็ลำบากมากพอแล้ว ตอนนี้นางตายไปข้าอยากจะขอความเห็นใจจากท่านอย่าได้รังเกียจหรือว่ากล่าวอะไรให้นางอีกเลย เห็นแก่ข้าและเหยาเหยาเถิดนะขอรับท่านแม่ ปล่อยให้นางได้นอนตายตาหลับเถอะนะขอรับท่านแม่” จางอี้ฟานอ้อนวอนมารดาของเขาด้วยน้ำตาที่หลังไหลไม่ขาดสาย

“หึ ตายซะได้ก็ดีคนขี้เกียจสันหลังยาวอย่างนาง วัน ๆ มีแต่อู้งาน เดี๋ยวเหนื่อย เดี๋ยวหอบ อยู่ไปก็เปลืองข้าวสุกข้าวสารของข้าตายๆ ไปซะได้ก็ดีเหมือนกัน”

ฮูหยินเฒ่าพูดจาสบประหม่าด้วยความเกลียดชังที่มีต่อลูกสะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก

“ท่านย่าเจ้าคะ อย่าว่าท่านแม่ของข้านะเจ้าคะ” เหยาเหยาถึงกับร้องขอความเห็นใจจากย่าของนาง

“หุบปากอาเหยา เจ้าเองก็เหมือนกันต่อไปต้องหัดทำงานบ้านงานเรือน ออกเรือนมีสามีไปจะได้เป็นที่รักของแม่สามี จะได้ไม่เป็นเหมือนแม่ และน้าของเจ้า เข้าใจไหม”

“ท่านย่า” เด็กน้อยวัยเพียงสี่ขวบ ที่ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแต่นางก็สัมผัสได้ถึงการแสดงออกของคนเป็นย่าว่ารังเกียจแม่ของนางมากแค่ไหน หยางกวงรีบดึงน้องให้มาอยู่ใกล้กับตัวเองเพราะเกรงว่าน้องจะไปใกล้ท่านย่าและทำเอานางอารมณ์เสียและเผลอลงไม้ลงมือกับนาง

จางอี้ฟานไม่ได้ฟังเสียงพร่ำด่าของผู้เป็นแม่ของเขาเลยสักนิด เขาค่อย ๆ ช้อนร่างภรรยาของขึ้นมาด้วยท่าทางที่ทุลักทุเลเป็นอย่างมากทั้งล้มลุกคลุกคลานแต่เขาก็ยังเอาตัวเองรองรับร่างของภรรยาเพื่อไม่ให้นางได้เจ็บปวดอะไร เพราะนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะทำให้กับภรรยาสุดที่รักของเขาได้ เพื่อให้นางไปอย่างสบายไม่ต้องมีห่วงหาอาวรณ์อันใดอีกต่อไป

“อี้ฟานเจ้าดูสารรูปของเจ้าเสียเถิดลูกแม่ ถ้ามันลำบากขนาดนี้เจ้าจะอุ้มนางไปเพื่ออะไรกัน คนตายก็คือคนตาย นางตายแล้วเหตุใดเจ้ายังต้องทำดีกับนางอีกเล่าก็เอาเสื่อมาแล้วกลิ้งร่างนางกับเสื่อจากนั้นก็แค่ลากออกไปจากบ้านเพื่อเอาไปฝังก็สิ้นเรื่อง”

ฮูหยินเฒ่าเอ่ยออกมาบ่งบอกถึงความเกลียดชังเป็นอย่างมาก ทำเอาบุตรชายถึงกับมองหน้าด้วยแววตาที่ปวดร้าวกับการกระทำของคนเป็นแม่

“ท่านแม่ข้าขอสักครั้ง นางตายแล้วข้าขอให้ท่านปล่อยวาง หากท่านไม่ชอบนางท่านก็เข้าบ้านไปพักผ่อนเสียเถิดอย่าได้มาวุ่นวายกับข้าเลยขอรับ”

จางอี้ฟานบอกกับมารดาของเขา ก่อนฮึดแรงเฮือกสุดท้ายอุ้มภรรยารักของเข้าเข้าไปในบ้านและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูใหม่และสะอาดกว่านี้ นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้นางได้

“ทำไมต้องมาไหว้บรรพบุรุษทุกปี ๆ ไหว้ไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา บรรพบุรุษก็แค่ต้นตระกูลที่ทำให้มีตัวตนแค่นั้น ทำไมตอนที่มีชีวิตอยู่ไม่ทำงานหาเงินไว้ให้ลูกหลานได้ใช้จ่ายให้สบาย ๆ กันละ ไม่เห็นเหมือนตระกูลอื่นเลยที่เขามีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะบ้าน รถ เงินทองที่ดิน สวน ไร่นา อสังหาริมทรัพย์ ความมั่งคั่งมั่งมี บริษัทหรืออะไรก็แล้วแต่น่าจะมีให้ลูกหลานบ้างสิ ส่วนฉันนี่อะไรตัวเองแทบจะไม่มีกินอยู่แล้ว ยังต้องเจียดเงินที่มีมาไหว้หลุมศพ แถมยังเป็นหลุมศพที่เช่าเอาไว้รายปีอีก เช่ามาแล้วกี่ปีก็ไม่รู้ลำบากลูกหลานมากเป็นที่สุด เฮ้อ หัวจะปวดนะแบบนี้”

“เซี่ยวหนิงอัน” ในตอนที่เธอมาไหว้บรรพบุรุษนั้นอยู่ ๆ เธอก็เอาแต่คิดในใจว่าทำไมบรรพบุรุษของเธอถึงได้ยากจนข้นแค้นขนาดนี้ หากเป็นเธอในสมัยนั้นจะหาเงินและประหยัดอดออมเพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าจะได้สบาย ไม่ต้องลำบากแบบนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel