ท่านไม่อ่อนโยน 1
“เซี่ยวหมิงเยว่!!”
จางอี้ฟานมองร่างของภรรยาที่นอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนจะคว้าร่างมากอดเอาไว้พร้อมกับลูกน้อยที่ร้องไห้เสียงดังลั่น สองพ่อลูกกอดผู้เป็นภรรยา และแม่เอาไว้ แม้แต่จางหยางกวงก็พลอยน้ำตาแตกไปด้วย ทั้งสองร้องไห้สะอึกสะอื้น เพราะรู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นไม่อย่างนั้นท่านลุงของเขาคงไม่ร้องไห้โศกเศร้าเช่นนี้หรอก
“เซี่ยวหมิงเยว่เจ้าอย่าเพิ่งจากข้ากับอาเหยาไปได้ไหม เจ้าไม่อยู่ข้ากับลูกจะทำเช่นไรหมิงเยว่ตื่นมาพูดกับข้าให้รู้เรื่องก่อน ไหนเจ้าบอกว่าหากอยู่ก็ต้องอยู่ด้วยกัน หากตายกลายเป็นผีก็ต้องตายพร้อมกันยังไงเล่า หมิงเยว่ได้ยินข้าไหม เจ้าทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องหรอกนะตื่นสิ”
จางอี้ฟานร้องไห้คร่ำครวญไม่ต่างกับอาเหยาที่เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านพ่อของนางทำไมถึงร้องไห้คร่ำครวญได้มากขนาดนี้
“ฮือ ฮือ ท่านแม่เจ้าคะท่านแม่ เมื่อกี้ท่านยังบอกให้ข้าเล่นใกล้ ๆ ท่านเลย ท่านแม่ตื่นสิเจ้าคะ อย่าทิ้งเหยาเหยาไปเลยนะเจ้าคะท่านแม่ ” เหยาเหยาเองก็เริ่มที่จะร้องไห้ฟูมฟายไม่ต่างกันกับพ่อของนางแล้วในตอนนี้
เพราะเสียงร้องไห้ที่ดังมานานเกินไปทำให้เหม่ยซีน้องสาวของจางอี้ฟานเดินออกมาจากตัวบ้านเพราะตกใจกับเสียงร้องห่มร้องไห้ของพี่ชายและหลานสาวถึงกับตกใจและหันมาถามบุตรชายของนาง
“เกิดอะไรขึ้นหยางกวง ?” ทั้งที่ถามแต่นางก็รีบเดินปรี่เข้ามาดูใกล้ ๆ ก่อนจะตกใจเป็นอย่างมาก และยก มือปิดปากตัวเองทันทีด้วยความตกใจ หยางกวงวิ่งไปซบอกกับแม่ของเขาก่อนยกมือปาดน้ำตาแล้วเงยหน้าบอกกับแม่ของเขา
“ท่านป้า ท่านป้าสิ้นแล้วขอรับ ท่านแม่เราจะทำยังไงกันดีข้าสงสารน้องขอรับท่านแม่”
หยางกวงบอกกับแม่ของเขาและมุดหน้าร้องไห้กับอกแม่ไม่ต่างกับว่าท่านป้าคือแม่ของเขา นั่นเป็นเพราะว่าท่านป้านั้นดูแลทั้งหยางกวงและเหยาเหยามาคู่กัน ท่านรักเขาเหมือนลูกและเขาเองก็รักท่านป้าไม่ต่างกัน ยิ่งเห็นว่าน้องร้องไห้มากมายขนาดนี้แล้วเขาก็อยากจะร้องตาม เหม่ยซีรีบเดินเข้าไปแตะที่ไหล่ของพี่ชายพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเป็นอย่างมาก
“ท่านพี่ สงบสติก่อนข้าว่าท่านพาพี่สะใภ้เข้าไปในบ้านก่อนจะดีไหม” น้องสาวของเขาเตือนสติแต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้นอยู่ ๆ เสียงของฮูหยินเฒ่า ของบ้านผู้เป็นแม่ของจางอี้ฟาน ที่เพิ่งกลับมาจากตลาดเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เดินออกมาดูว่าเสียงดังอะไรกัน ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนบวกกับความเหน็ดเหนื่อยและอากาศที่ร้อนอบอ้าวนั้นยิ่งทำให้นางใจคอไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
แต่เพราะเห็นว่าลูกสะใภ้นอนแน่นิ่งเป็นลมหรือเป็นอะไรก็หาได้สนใจไม่ ตรงกันข้ามนางจางผู้นั้นกลับคิดว่าลูกสะใภ้คนรองของบ้านอู้งาน และไม่ยอมทำงานเป็นแน่เลยทำให้นางโมโหหนักกว่าเดิม ก่อนจะเดินกลับเข้าไปภายในบ้านแล้วตักน้ำใส่ถังแล้วสาดไปที่ร่างของสะใภ้ที่นอนอยู่ข้างกองฟืน
ซ่า... เสียงน้ำแตกกระเซ็นเปียกปอนไปทั้งร่างของคนที่นอนแน่นิ่งรวมไปถึงบุตรชายและหลานของนางเองทุกคนตกใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ท่านแม่!!” จางอี้ฟานหันมาเรียกแม่ของเขาด้วยความตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่าแม่ของเขาจะทำได้ขนาดนี้ อีกทั้งเหม่ยซีเองก็มองแม่ด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ในตอนนี้ และเมื่อบุตรชายที่ร้องเรียกและบุตรสาวที่มองหน้าตาแทบไม่กระพริบ นั่นยิ่งทำให้ฮูหยินเฒ่าโมโหหนักกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ก่อนจะร้องออกมาด้วยความโมโห
“เจ้าจะเรียกแม่ทำไมอี้ฟานเมียของเจ้ามันชอบอู้งานนัก แม่เห็นบ่อย ๆ วันก่อนก็แอบนอนกลางวันวันนี้ก็เอาอีกเหรอเนี่ย หน๊อยแน่ พอเห็นสามีมาประคบประหงมเข้าหน่อยไม่ตื่น อย่ามาทำเป็นอ่อนแอเพื่อที่จะหวังให้สามีของเจ้าเอาใจอย่างนั้นเหรอ ข้าว่ามันจะมากเกินไปแล้วนะเซี่ยวหมิงเยว่นางตัวดีตื่นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ลุกขึ้นมาสิทีเมื่อวานข้าก็สาดน้ำไปแบบนี้แหละสำลักน้ำแทบตาย เจ้ายังรีบลุกขึ้นมาในทันทีเลยนี่นา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
