บทที่ 4
วันเวลาล่วงเลยไป จ้าวฟางเซียนเติบโตขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้นางมีอายุย่างเข้าเจ็ดขวบแล้ว ความรู้ที่สะสมจากชาติก่อนและที่ได้ร่ำเรียนในชาตินี้ทำให้นางฉายแววเป็นเด็กอัจฉริยะในสายตาของบิดามารดา นางสามารถจดจำและวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ความสัมพันธ์ของข้ากับหยางหลงเทียนก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น เขายังคงเป็นเพื่อนเล่นคนสำคัญของข้า และมักจะแวะเวียนมาที่จวนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือด้วยกัน เล่นเกม หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เขามักจะมองข้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจและกระตือรือร้น และนั่นทำให้ข้ารู้สึกสบายใจอย่างประหลาด
แต่แล้ว เหตุการณ์หนึ่งที่ข้าคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น
เสี่ยวหว่านวิ่งหน้าตาตื่นมาหาข้าขณะที่ข้ากำลังอ่านตำราสมุนไพรอยู่ในสวน
"คุณหนูเจ้าคะ! แย่แล้วเจ้าค่ะ! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่จวนแม่ทัพเจ้าค่ะ" เสี่ยวหว่านหอบหายใจ ใบหน้าซีดเผือด
"เกิดอะไรขึ้นหรือเสี่ยวหว่าน ใจเย็นๆ ก่อน" ข้าถาม พยายามสงบสติอารมณ์
"บ่าวได้ยินมาว่า... ฮูหยินรองของจวนแม่ทัพใหญ่... ตกน้ำเสียชีวิตแล้วเจ้าค่ะ!"
คำพูดของเสี่ยวหว่านดังก้องในโสตประสาทของข้า ราวกับสายฟ้าฟาด! ฮูหยินใหญ่ เสียชีวิตแล้วหรือ? ผู้หญิงที่เป็นอีกสาเหตุแห่งความทุกข์ระทมของข้าในชาติก่อน?
ข้าจำได้ว่าในชาติก่อน ฮูหยินใหญ่ผู้นั้นมีชีวิตอยู่จนถึงวัยชรา และยังคงคอยก่อกวนชีวิตของข้าจนถึงที่สุด การตายของนางในตอนนี้... มันไม่ใช่เหตุการณ์ในความทรงจำของข้าเลยแม้แต่น้อย
"เป็นไปได้อย่างไร? นางตายได้อย่างไร?" ข้าถามออกไปอย่างลืมตัว
"บ่าวได้ยินว่า... เหมือนจะมีคนผลักนางลงไปเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่ทัพใหญ่กำลังโกรธมาก และสั่งให้ปิดจวนไม่ให้ใครเข้าออก" เสี่ยวหว่านรายงาน
หัวใจของข้าเต้นระรัว นี่มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของข้า! แสดงว่าการกลับชาติมาเกิดใหม่ของข้าได้เริ่มเปลี่ยนแปลงเส้นทางของโชคชะตาแล้วจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ท่านพ่อของข้า เจ้ากรมคลังจ้าวซื่อหง ก็ได้รับคำสั่งจากวังให้เข้าไปช่วยให้การและช่วยคลี่คลายคดีนี้ ท่านพ่อเป็นคนซื่อตรงและละเอียดรอบคอบ จึงได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้อย่างมาก
ข้ารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อข้าเห็นท่านพ่อเตรียมตัวออกจากจวน ข้ารู้สึกว่าคดีนี้อาจมีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด
"ท่านพ่อเจ้าขา ระมัดระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ" ข้าเอ่ยออกไป
ท่านพ่อหันมายิ้มให้ข้าอย่างอ่อนโยน "เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอกนะเซียนเอ๋อร์ พ่อจะจัดการเรื่องนี้ให้ดีที่สุด"
ในคืนนั้น จวนของข้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด ข้าพยายามจะนอนหลับ แต่ภาพเหตุการณ์ในชาติก่อนและข่าวการตายของฮูหยินใหญ่ก็วนเวียนอยู่ในหัว
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางหลงเทียนก็มาที่จวนของข้า เขามีสีหน้าหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคู่สวยบวมช้ำราวกับผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
"ฟางเซียน..." เสียงของเขาแหบพร่า "ท่านแม่ของข้าเสียแล้ว"
ข้าเห็นหยดน้ำตาคลอเบ้าของเขา หัวใจข้าบีบรัดด้วยความสงสาร ข้าจำได้ว่าในชาติก่อน หยางหลงเทียนรักมารดาของเขามาก แม้ว่าฮูหยินใหญ่ผู้นั้นจะร้ายกาจเพียงใดในสายตาของข้า แต่นางก็คือมารดาผู้ให้กำเนิดของหยางหลงเทียน และเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ข้ายอมให้นางกดขี่สารพัด
"ข้าเสียใจด้วยนะพี่เทียน" ข้าเอ่ยปลอบโยนอย่างจริงใจ ข้าไม่สามารถรังเกียจเขาได้อีกแล้ว เพราะเขาคือเด็กน้อยที่บริสุทธิ์และน่าสงสารคนหนึ่ง เป็นเพียงเด็กชายวัยเก้าขวบปีที่สูญเสียมารดา
"พวกเขากล่าวว่ามีคนผลักท่านแม่ลงไปในสระ" หยางหลงเทียนพูดเสียงสั่น "แต่ใครจะเป็นคนทำกันเล่า? ท่านแม่ของข้าไม่ได้มีศัตรูที่ไหนเลย"
ข้าฟังเขาพูดอย่างตั้งใจ ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในชาติก่อนที่เกี่ยวข้องกับฮูหยินใหญ่สกุลหยางผุดขึ้นมาในหัวของข้า ข้าเริ่มเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว ด้วยความฉลาดเฉลียวเกินวัย ข้าก็เริ่มเห็นเค้าลางของความจริงบางอย่าง
"หยางหลงเทียน เจ้าคิดว่าใครจะเป็นคนทำได้บ้าง?" ข้าถามออกไปอย่างระมัดระวัง
เขาส่ายหน้า "ข้าไม่รู้เลยฟางเซียน ข้าไม่รู้จริงๆ"
"แล้ว... ผู้คนในจวนแม่ทัพล่ะ พวกเขามีความสัมพันธ์กับฮูหยินใหญ่อย่างไรบ้าง?" ข้าถามต่อ
หยางหลงเทียรเริ่มเล่าถึงความสัมพันธ์ของฮูหยินใหญ่กับคนอื่นๆ ในจวน รวมถึงบ่าวรับใช้และบรรดาภรรยาอนุของท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าตั้งใจฟังทุกรายละเอียด ทุกคำพูด ทุกสีหน้าของเขา
ในขณะที่หยางหลงเทียนเล่าเรื่องราวไปเรื่อยๆ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของข้าอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดาๆ อาจจะซับซ้อนและมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่มากกว่านั้น
นี่คือโอกาสของข้า! โอกาสที่จะใช้ความรู้และความทรงจำจากชาติก่อนเพื่อแก้ไขอดีต เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา และอาจจะ... เพื่อช่วยหยางหลงเทียนให้พ้นจากความทุกข์
แต่ข้าจะทำได้อย่างไร ในเมื่อข้าเป็นเพียงเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบ?
