บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 แผนร้ายของตัวร้าย

"..." ฉินเพ่ยเหยาเงียบไปเล็กน้อย เหตุใดนางจะไม่สงสาร แต่ตามเนื้อเรื่องในนิยายแล้ว โตขึ้นมาเขาจะเป็นคนสังหารนางนะ

"พี่ชายจื่อหานจะสังหารเหยาเหยา" ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวร้ายย่อมมีนิสัยโหดร้าย ทางที่ดีรีบทำให้ท่านพ่อท่านแม่ไล่เขาออกจากจวนสกุลฉินเร็วๆดีกว่า

วาจาของเจ้าก้อนกลมทำให้คนเป็นแม่รู้สึกตกใจไม่น้อย หลิวหลี่ฟานหันไปสบตากับหลี่ซินที่มีท่าทางงุนงงระคนสงสัยไม่แพ้กัน

ไม่จริงหรอก จะเป็นไปได้อย่างไรกัน โจวจื่อหานเพิ่งมาเยือนจวนสกุลฉินเป็นวันแรกด้วยซ้ำไป

"เหยาเหยาอย่าพูดจาใส่ร้ายพี่ชายจื่อหานแบบนั้นนะลูก" หลิวหลี่ฟานกล่าวตำหนิเมื่อเจ้าก้อนกลมเอ่ยวาจาไม่เหมาะสมออกมา นี่เป็นสาเหตุที่นางห้ามไม่ให้ฉินหมิงเจ๋อตามเจ้าก้อนแป้งเข้ามา เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าดุนางอย่างแน่นอน

ฉินเพ่ยเหยาเบะปากเข้าหากัน รู้สึกน้อยใจมารดายิ่งนักที่เข้าข้างคนอื่น หลิวหลี่ฟานถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความกลัดกลุ้มใจ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนใจฉินเพ่ยเหยาได้ในตอนนี้ คงต้องใช้เวลาอีกหน่อยให้คนทั้งคู่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันบ่อยๆ ลางทีฉินเพ่ยเหยาอาจเปิดใจให้โจวจื่อหานก็เป็นได้

หลายวันต่อมา ฉินเพ่ยเหยากำลังวิ่งเล่นหิมะอยู่ในสวนบุปผชาติกับหลี่ซินและสาวใช้อีกสองคนอย่างสนุกสนาน หิมะไม่ตกมาหลายวันแล้ว ทำให้อากาศไม่หนาวเย็นเท่าวันที่ผ่านๆมา วิญญาณของจอมขวัญที่อยู่ในร่างของฉินเพ่ยเหยาชอบฤดูหนาวยิ่งนัก เพราะที่ๆนางจากมาไม่มีหิมะตกเหมือนที่นี่

"ข้าจะปั้นตุ๊กตาหิมะ" เด็กน้อยร่างกลมป้อมที่อยู่ในชุดกระโปรงยาวกรอมเท้า อีกทั้งยังมีเสื้อคลุมขนสัตว์คลุมทับอยู่ด้านนอกให้ความอบอุ่นทำให้นางไม่ได้รู้สึกเหน็บหนาวเท่าใดนัก

"ปั้นอย่างไรหรือเจ้าคะคุณหนู" หลี่ซินถามด้วยความสนใจ ฉินเพ่ยเหยาจึงทำให้นางดู

"ตุ๊กตาหิมะของคุณหนูแปลกประหลาดจริงๆเจ้าค่ะ" หลี่ซินกล่าวขึ้น ฉินเพ่ยเหยาจึงเปล่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาเบาๆด้วยความขบขัน แต่แล้วเสียงหัวเราะของนางก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงเข้ามา

"น้องสาว พี่ชายขอเล่นด้วยได้หรือไม่"

หลี่ซินและสาวใช้อีกสองคนหันมาสบตากันเล็กน้อยด้วยความกังวลใจ เกรงว่าคุณหนูจะขับไล่คุณชายจื่อหานเหมือนเช่นหลายวันที่ผ่านมา

"เหยาเหยาจะเล่นกับพี่ชาย"

แต่คำตอบของนางทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ฉินเพ่ยเหยาเองก็เช่นกัน ไยครั้งนี้นางสามารถตอบเขาอย่างที่ตั้งใจได้ แม้ว่าที่ผ่านมานางจะพยายามสานสัมพันธ์กับเขาแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการขับไล่เขาอยู่ดี หรือว่าความสัมพันธ์ของนางร้ายกับตัวร้ายจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้กันนะ

หลี่ซินหันไปผงกศีรษะให้สาวใช้อีกสองคน พวกนางจึงถอยออกมาไปยืนอยู่ที่ไกลๆ ปล่อยให้สองพี่น้องได้ใช้เวลาร่วมกันตามลำพัง ดูเหมือนว่าคุณหนูเหยาเหยาจะเริ่มเปิดใจให้คุณชายจื่อหานบ้างแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะต้องพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ฉินเพ่ยเหยาสบตากับคนตัวโต พลางคิดไปว่าจะชวนเขาเล่นอะไรดี ครั้นเมื่อหันไปเจอตุ๊กตาหิมะที่ยังปั้นไม่เสร็จจึงหันกลับมาหมายจะชักชวนเขา

"เจ้าเด็กอันธพาล"

'หืม เขาว่านางงั้นหรือ' ฉินเพ่ยเหยาขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจที่จู่ๆเขาก็เอ่ยวาจาร้ายกาจออกมา

"พี่ชาย..."

"เด็กอันธพาลนิสัยไม่ดีอย่างเจ้าต้องโดนทำโทษ" โจวจื่อหานในวัยแปดหนาวแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะกระโดดลงไปใส่ตุ๊กตาหิมะฝีมือของฉินเพ่ยเหยาจนมันพังไม่เป็นท่า เจ้าก้อนกลมเห็นเช่นนั้นนางก็กรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความโกรธ

"กรี๊ดดดดด!"

เสียงกรีดร้องของฉินเพ่ยเหยาทำให้หลี่ซินพร้อมด้วยสาวใช้อีกสองคนเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งกลับมา แต่ช้าไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้มือเล็กๆหันไปหยิบก้อนหินก้อนหนึ่งขึ้นมาพร้อมปามันไปใส่โจวจื่อหานอย่างแรง

"โอ๊ย!" เด็กชายหงายหลังล้มตึงก้นจ้ำเบ้าไปนั่งอยู่บนพื้น มือของเขากอบกุมศีรษะที่มีหยาดโลหิตกำลังไหลซึมออกมา สีหน้าแลดูเจ็บปวดทรมานยิ่งนัก

"คุณชายจื่อหาน!"

"หลี่ซินช่วยด้วย" เขาหันไปหาหลี่ซิน ร่างบางจึงรีบปรี่เข้าไปประคองเขา พลันฉินหมิงเจ๋อและหลิวหลี่ฟานที่ได้ยินเสียงร้องโวยวายก็วิ่งเข้ามาพอดิบพอดี

"เกิดอะไรขึ้นน่ะ!" ฉินหมิงเจ๋อถามเสียงดัง ในขณะที่หลิวหลี่ฟานรีบวิ่งเข้ามาหาโจวจื่อหานพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดแผลของเขาเอาไว้

"หลี่ซินมันเกิดอะไรขึ้น" หลิวหลี่ฟานหันมาถามหลี่ซิน หลังจากที่ไม่มีใครตอบคำถามของสามี

"บ่าวเห็นคุณชายล้มลงไปโดนตุ๊กตาหิมะของคุณหนู จากนั้นก็ได้ยินเสียงคุณหนูกรีดร้องและหยิบก้อนหินปาใส่คุณชายเจ้าค่ะ" หลี่ซินก้มหน้างุด อันที่จริงนางไม่ได้อยากจะเอ่ยปากฟ้องเช่นนี้เลย แต่เพราะฮูหยินถาม นางจึงจำใจต้องเล่าความจริงออกไป

"เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ"

ฉินเพ่ยเหยายืนตัวสั่นอย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก เมื่อเงยหน้าขึ้นแลเห็นสายตาดุดันของผู้เป็นพ่อพร้อมกับสีหน้าผิดหวังของคนเป็นแม่ก็ทำให้นางน้ำตาไหลพราก

'ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ' นางเปิดปากหมายจะอธิบายให้บุพการีทั้งสองฟัง แต่สิ่งที่กล่าวออกไปนั้นกลับกลายเป็นสิ่งตรงข้ามกับที่ใจคิดแทน

"เหยาเหยาเกลียดพี่ชาย!"

"ท่านพ่อท่านแม่อย่าดุน้องสาวเลยขอรับ นางไม่ได้ตั้งใจ เป็นข้าที่ผิดเองสะดุดขาตัวเองล้มใส่ตุ๊กตาของน้องสาวจนพัง" โจวจื่อหานทำหน้าเศร้าสบตากับพ่อแม่บุญธรรมขอความเห็นใจ

"ลูกไม่ผิด ลูกไม่ได้ตั้งใจนี่" หลิวหลี่ฟานลูบศีรษะของเขาเบาๆ ฉินเพ่ยเหยาเห็นท่านแม่กำลังปลอบโยนคนอื่นก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มร้ายกาจของโจวจื่อหาน นางก็เผยอปากค้าง ไม่นึกว่าตัวร้ายจะมีนิสัยร้ายกาจตั้งแต่ยังเยาว์วัย

ที่แท้แล้วก็เป็นแผนของเขานั่นเอง โจวจื่อหานตั้งใจทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่เข้าใจผิด และแสร้งทำทีเป็นปกป้องนาง

'ร้ายกาจยิ่งนัก! สมกับเป็นตัวร้ายจริงๆ'

"รีบไปตามท่านหมอมาดูแผลให้หานเอ่อร์ก่อนเถิด เรื่องอื่นค่อยว่ากันภายหลัง" ฉินหมิงเจ๋อกล่าวเสียงเครียด มองหยาดโลหิตที่ยังคงไหลรินออกมาจากศีรษะของโจวจื่อหานด้วยความเป็นห่วง

หลิวหลี่ฟานพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนที่นางกับฉินหมิงเจ๋อจะประคองร่างบุตรชายบุญธรรมเดินกลับเข้าไปข้างใน โดยไม่ลืมหันมาสั่งให้หลี่ซินพาบุตรสาวตัวดีกลับไปรอที่หอนอน

ยามไฮ่ (21.00 - 22.59 น.) เวียนมาถึงแล้ว ร่างบางของหลิวหลี่ฟานเดินออกมาจากหอนอนของบุตรสาว หลังจากที่ส่งฉินเพ่ยเหยาเข้านอนเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่นางตำหนิเจ้าก้อนกลมจนร้องไห้งอแงสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจออกมายกใหญ่ ไม่ว่านางจะทั้งปลอบทั้งดุแต่ถึงอย่างไรเจ้าก้อนแป้งก็ไม่ยอมรับปากว่าจะไม่ทำร้ายโจวจื่อหานอีก

ดวงตาคู่งามมองไปยังหน้าต่างห้องหนังสือแลเห็นแสงตะเกียงยังคงส่องให้ความสว่างจึงคิดว่าฉินหมิงเจ๋อคงจะอยู่ที่ห้องนั้นจึงก้าวเดินตรงไปหาเขา

ประตูไม้ถูกผลักให้เปิดออก หลิวหลี่ฟานเห็นร่างสูงของสามีกำลังยืนอยู่ริมหน้าต่าง ดวงตาคมทอดมองออกไปข้างนอก และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับรู้ถึงการมาเยือนของนาง

"ท่านพี่"

"ฟานเอ๋อร์" ฉินหมิงเจ๋อผินหน้าหันกลับมาตามเสียงเรียกพร้อมส่งยิ้มบางให้ภรรยา

"ท่านพี่กำลังคิดเรื่องลูกทั้งสองคนอยู่หรือเจ้าคะ"

ฉินหมิงเจ๋อผงกศีรษะรับ เขารู้สึกกลุ้มใจไม่น้อย ไม่รู้ว่าเหตุใดฉินเพ่ยเหยาจึงไม่ยอมรับในตัวของโจวจื่อหาน

"ข้าคิดว่าเหยาเหยาไม่ชอบหานเอ๋อร์ นางคงไม่ยอมรับหานเอ๋อร์ง่ายๆแน่ เราจะทำอย่างไรกันดีเจ้าคะท่านพี่" หลิวหลี่ฟานเองก็กลุ้มใจมากไม่แพ้กัน จะมีวิธีไหนที่ทำให้ฉินเพ่ยเหยารังแกโจวจื่อหานไม่ได้บ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่ยอมทอดทิ้งโจวจื่อหานอย่างแน่นอน

"ข้าคิดว่าจะส่งหานเอ๋อร์ไปเรียนที่สำนักศึกษาที่เมืองไต้ถง"

"จะดีหรือเจ้าคะท่านพี่" หลิวหลี่ฟานกล่าวด้วยความกังวลใจ เมืองไต้ถงอยู่ห่างไกลถึงแดนใต้ ห่างจากเมืองหลวงหลายพันลี้

"มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว" คิ้วกระบี่ย่นเข้าหากัน ในเมื่อลูกๆทั้งสองคนเข้ากันไม่ได้ เขาก็จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้ อย่างไรเสียโจวจื่อหานก็เป็นคนนอก เขาต้องเลือกฉินเพ่ยเหยาบุตรสาวในไส้ของเขา แม้วิธีนี้จะใจร้ายกับโจวจื่อหานไปหน่อยก็ตาม

ทว่าสำนักศึกษาที่เมืองไต้ถงนั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เขามั่นใจว่าโจวจื่อหานจะได้วิชาความรู้จากที่นั่น และจะทำให้เขาเก่งกาจทั้งวิชาบู๋และบุ๋นได้อย่างแน่นอน

"แต่ถ้าหากวันใดที่หานเอ๋อร์กลับมาก็ต้องเจอเหยาเหยาอยู่ดีนะเจ้าคะ"

"ข้าจะยกเรือนเล็กให้หานเอ๋อร์"

ในอดีตเรือนเล็กคือที่อยู่ของอนุภรรยาของใต้เท้าฉินข่งเจ๋อบิดาของฉินหมิงเจ๋อ หลังจากที่เขาจากไปที่นั่นก็ไม่มีผู้ใดไปอาศัยอยู่ แต่ฉินหมิงเจ๋อก็ยังคงให้สาวใช้เข้าไปทำความสะอาดที่นั่นอยู่บ่อยๆ เพราะจวนสกุลฉินมีพื้นที่กว้างขวาง เรือนเล็กจึงตั้งอยู่ห่างจากจวนใหญ่ อยู่ติดกำแพงข้างหลังจวนใหญ่จึงทำให้เขาค่อนข้างวางใจว่าในวันที่โจวจื่อหานกลับเมืองหลวงระหว่างช่วงปิดการศึกษา เขาจะไม่ได้พบเจอฉินเพ่ยเหยาอย่างแน่นอน

"หากท่านพี่คิดว่าวิธีนี้ดีที่สุดแล้วก็จัดการเถิดเจ้าค่ะ" หลิวหลี่ฟานถอนหายใจออกมาเบาๆ นางได้แต่หวังว่าโจวจื่อหานจะเข้าใจถึงการตัดสินใจในครั้งนี้ก็แล้วกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel