บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เหยาเหยาไม่อยากมีพี่ชาย

"ฮูหยินขอรับ ท่านแม่ทัพกลับมาแล้วขอรับ" น้ำเสียงของพ่อบ้านกงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

"จริงหรือ!" หญิงสาวผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มกระจายเกลื่อนใบหน้า หลังจากที่ฉินหมิงเจ๋อออกเดินทางไปราชการที่ต่างเมืองได้หนึ่งเดือน ในที่สุดยามนี้เขาก็กลับมาแล้ว

"จริงขอรับ แต่ท่านแม่ทัพไม่ได้กลับมาคนเดียวขอรับ"

"นอกจากเหวินซวนแล้วยังมีคนติดตามกลับมาด้วยอีกหรือ" ก้อนเนื้อในอกซ้ายของหลิวหลี่ฟานเต้นแรงกระหน่ำด้วยความตื่นเต้นระคนกังวลอย่างห้ามไม่อยู่ กลัวเหลือเกินว่าสามีจะเผลอไปคว้าสตรีอื่นกลับมาด้วย แต่พลันไม่นานนางก็ทอดถอนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินคำตอบของพ่อบ้านกง

"ท่านแม่ทัพพาเด็กผู้ชายคนหนึ่งติดตามกลับมาด้วยขอรับ"

ฉินเพ่ยเหยาที่อยู่ในอ้อมแขนของมารดารู้สึกตัวชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หัวใจเต้นรัวแรงราวจะหลุดออกมานอกอก นางคิดว่าเด็กที่ท่านพ่อหมิงเจ๋อพากลับมาด้วยจะใช่ใครที่ไหนได้ นอกจากตัวร้ายโจวจื่อหานนั่นเอง

"ท่านพี่กลับมาแล้ว" หลิวหลี่ฟานเดินยังไปห้องโถงนั่งเล่น แลเห็นสามีนั่งพักเหนื่อยอยู่บนเก้าอี้ไม้ ข้างกายของเขามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุราวแปดถึงเก้าหนาวนั่งอยู่ด้วย

"ฟานเอ๋อร์" ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวยาวๆเข้ามาหาภรรยาพลางโอบกอดนางด้วยความรักและความคิดถึงสุดหัวใจ

"ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน"

"ข้าก็คิดถึงท่านพี่เจ้าค่ะ" หลิวหลี่ฟานตอบเสียงสั่น หยดน้ำเม็ดกลมกลิ้งไหลออกจากดวงตาด้วยความดีใจที่ได้พบหน้าของสามีหลังจากห่างหายจากกันนาน

"เหยาเหยาของพ่อ" ฉินหมิงเจ๋อคลายอ้อมแขนออกจากร่างบาง หันไปมองบุตรสาวที่หลี่ซินจับจูงเดินตามหลังหลิวหลี่ฟานเข้ามา เสียงของคนเป็นพ่อทำให้ฉินเพ่ยเหยาละสายตาจากเด็กชายตัวสูงที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนเก้าอี้หันไปให้ความสนใจเขาแทน

ร่างเล็กกลมป้อมถูกยกขึ้นไปในอ้อมแขนของบิดา ปากหยักกดจุมพิตลงบนแก้มนุ่มนิ่มแดงปลั่งของบุตรสาวทำให้ฉินเพ่ยเหยาเปล่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างห้ามไม่อยู่

"คิดถึงท่านพ่อ" ดวงตากลมโตจดจ้องผู้เป็นพ่อตาแป๋ว ฉินหมิงเจ๋อกอดบุตรสาวไว้แนบอก ความอบอุ่นซึมซาบเข้าสู่หัวใจของเด็กน้อย

"พ่อก็คิดถึงเหยาเหยาเช่นกัน"

หลังจากทักทายกันจนพอใจแล้ว หลิวหลี่ฟานก็หันไปสบตาของสามีถามถึงสิ่งที่สงสัยมานาน

"ท่านพี่เด็กคนนั้นเป็นใครหรือเจ้าคะ"

คำตอบของภรรยาทำให้ประมุขของจวนหันไปกวักมือเรียกเด็กชายให้เดินเข้ามาหา เขายกมือขึ้นโอบไหล่โจวจื่อหานไว้หลวมๆ

"เด็กคนนี้ชื่อโจวจื่อหาน เขาช่วยข้าไว้หลังจากหลงทางอยู่ในหุบเขาหิมะ หากไม่ได้หานเอ๋อร์นำทางออกมาจากที่นั่น ข้าคงไม่ได้กลับมาเห็นหน้าเจ้ากับลูกอีกแล้ว" ตอบพร้อมหวนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เขาและคณะเดินทางกำลังฝ่าพายุหิมะข้ามหุบเขาเพื่อเดินทางไปยังเมืองตงจื่อทางแดนเหนือ จู่ๆก็มีหิมะถล่มจากยอดลงมาปิดทางทำให้ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้

คณะเดินทางของแม่ทัพหนุ่มติดอยู่บนเขาลูกนั้นได้ราวสามวัน พายุหิมะยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ขณะที่เสบียงอาหารเริ่มร่อยหรอ บรรดาผู้คนที่ร่วมเดินทางมีอาการอ่อนแรงจากการโดนพายุหิมะโจมตี จู่ๆก็มีเด็กชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และช่วยพวกเขาเอาไว้โดยการพาออกจากภูเขาหิมะไปยังเมืองตงจื่อโดยใช้เส้นทางลับ

หลังจากที่สอบถามพบว่าเด็กน้อยผู้กล้าหาญคนนี้มีนามว่า 'โจวจื่อหาน' เป็นเพียงคนเร่ร่อนที่บังเอิญเห็นคณะเดินทางของฉินหมิงเจ๋อผ่านไป เขารู้สึกเป็นห่วงเพราะเห็นว่าบนหุบเขามีพายุหิมะจึงออกเดินทางติดตามมาเพื่อช่วยเหลือ

"ช่างกล้าหาญยิ่งนัก" หลังจากรับฟังคำบอกเล่าจากสามี หลิวหลี่ฟานก็เอ่ยปากชมโจวจื่อหาน นางรู้สึกทึ่งไม่น้อย เด็กคนนี้อายุเพียงแค่แปดหนาวแต่กลับสามารถช่วยชีวิตฉินหมิงเจ๋อและคณะเดินทางให้รอดชีวิตได้

"ข้าเห็นใจในวาสนาของหานเอ๋อร์ อีกทั้งยังติดค้างเขาอยู่หลายส่วน เจ้าจะว่าอะไรหรือไม่หากข้าจะขอรับหานเอ๋อร์เป็นบุตรชายบุญธรรม"

"ข้าจะว่าอะไรได้ล่ะเจ้าคะ ดีเสียอีก เหยาเหยาจะได้มีเพื่อน"

ฉินหมิงเจ๋อยิ้มรับคำตอบของภรรยา กล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ เป็นวาสนาของเขาจริงๆที่ได้หลิวหลี่ฟานมาเคียงคู่กาย นางงดงามทั้งภายนอกและภายในดั่งดอกบัวขาวหาใดเปรียบ

"หานเอ๋อร์ต่อไปนี้เจ้ามาเป็นลูกของแม่นะ แม่สัญญาว่าจะดูแลเจ้าให้ดีที่สุด" มือบางวางลงบนศีรษะของโจวจื่อหาน เด็กน้อยได้ยินเช่นนั้นจึงยิ้มกว้างด้วยความยินดี

"ขอรับท่านแม่" เขาโผเข้าไปกอดนาง ในขณะที่มือบางลูบแผ่นหลังของเขาไปมาอย่างอ่อนโยน

ฉินเพ่ยเหยามองบุพการีทั้งสองคนสลับกับเด็กชายร่างสูง รู้ทั้งรู้ว่าในอนาคตเขาจะเติบโตมาเป็นตัวร้ายผู้เหี้ยมโหด ฉะนั้นแล้วนางไม่ควรทำอะไรให้เขาไม่พอใจ แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดภาพที่เห็นบิดามารดากำลังเอาอกเอาใจโจวจื่อหานถึงทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ

"เหยาเหยามาหาพี่ชายสิลูก" หลิวหลี่ฟานเรียกบุตรสาว ทว่านางยังคงยืนนิ่ง ฉินหมิงเจ๋อเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยกับโจวจื่อหานเสียงเบา

"หานเอ๋อร์เจ้ามีของจะให้เหยาเหยามิใช่หรือ เอาออกมาให้น้องสิลูก" ก่อนกลับมาถึงจวนสกุลฉินเขาได้เตรียมการทั้งหมดแล้ว รู้ว่าฉินเพ่ยเหยาโปรดปรานว่าวกระดาษยิ่งนักจึงแวะตลาดซื้อให้โจวจื่อหานเพื่อนำมามอบให้ฉินเพ่ยเหยาเพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง

โจวจื่อหานหันไปคว้าว่าวกระดาษรูปนกยูงขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเจ้าก้อนกลมพลางยื่นส่งให้นาง

"เหยาเหยา" เขาขานเรียกชื่อเจ้าก้อนแป้ง

ฉินเพ่ยเหยารู้ว่าต้องทำสิ่งใด นางไม่ควรทำให้เขาขัดเคืองใจเพื่อเห็นแก่ชีวิตน้อยๆของนาง ทว่าในตอนที่ยื่นมือออกไปหมายจะรับของ นางกลับปัดว่าวกระดาษอย่างแรงจนมันหล่นจากมือหนาไปวางแอ้งแม้งอยู่บนพื้น

"ไม่เอา!"

ทั้งฉินหมิงเจ๋อและหลิวหลี่ฟานหันมาสบตากันด้วยความตกใจ ที่ผ่านมาเจ้าก้อนแป้งไม่เคยแสดงกิริยาก้าวร้าวเช่นนี้มาก่อน

"เหยาเหยาเหตุใดถึงทำเช่นนี้เล่า!" หลิวหลี่ฟานกล่าวเสียงดู เพราะรู้ว่าฉินหมิงเจ๋อไม่กล้าดุบุตรสาว เขาแพ้น้ำตาของนาง

'โอ๊ย! ข้าทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย!' นางไม่ได้ตั้งใจนะ แต่เมื่อครู่นี้มือไม้มันไปแบบนั้นของมันเอง นางเปิดปากหมายจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ท่านแม่ฟังแต่ประโยคที่พูดออกไปกลับไม่ใช่อย่างที่คิด

"เหยาเหยาไม่อยากมีพี่ชาย เกลียด!" ข้าไม่ได้ตั้งใจจะพูดเช่นนี้เสียหน่อย ฉินเพ่ยเหยาเบะปาก จู่ๆปากของนางก็เอื้อนเอ่ยประโยคนั้นออกไปเอง ยามนี้รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก นี่ร่างกายของนางเป็นอะไรไปกันแน่ เหตุใดถึงควบคุมตัวเองไม่ได้เลย

"ฮืออออ" ความรู้สึกแสบร้อนผุดขึ้นในดวงตา ฉินเพ่ยเหยาไม่รู้จะจัดการกับตัวเองอย่างไร นางจึงตัดใจหมุนกายหันหลังวิ่งหนีจากไปด้วยความรวดเร็ว

"เหยาเหยา!" ฉินหมิงเจ๋อทำท่าจะวิ่งตามไป แต่หลิวหลี่ฟานเอ่ยรั้งเขาไว้ก่อน

"ข้าจะไปดูลูกเองเจ้าค่ะ ท่านพี่พาหานเอ๋อร์ไปพักผ่อนก่อนเถิด"

ฉินหมิงเจ๋อผงกศีรษะรับหันไปมองบุตรชายบุญธรรมด้วยความเห็นใจ ก่อนจะพาโจวจื่อหานเดินแยกจากไปอีกทาง

หลิวหลี่ฟานเดินเข้ามายังหอนอนของบุตรสาว ดวงตากวางกวาดมองไปหยุดอยู่บนเตียง นางอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนามีร่างเล็กของใครบางคนนอนคุดคู้อยู่ เสียงสะอื้นดังแผ่วเบาออกมาให้ได้ยินอยู่แว่วๆ

"เหยาเหยา" มือบางแตะลงไปบนไหล่เล็กของบุตรสาว ฉินเพ่ยเหยาสะดุ้งโหยงขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ ขณะที่คนเป็นแม่ใช้มือเปิดผ้าห่มออก

"เหยาเหยาเหตุใดเจ้าถึงไม่อยากมีพี่ชาย บอกแม่ได้หรือไม่"

"ไม่ใช่ เหยาเหยาอยากมีพี่ชาย" แต่ไม่รู้ว่าทำไมเพียงแค่เห็นหน้าของโจวจื่อหาน นางก็รู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาเท่าใดนัก หรืออาจเป็นเพราะนางกลัวว่าเขาจะมาแย่งความรักจากท่านพ่อท่านแม่ไปกระมัง

"แล้วเหตุใดเหยาเหยาถึงพูดจาไม่ดีกับพี่ชายจื่อหานล่ะลูก"

"ไม่รู้" เจ้าก้อนกลมคิดว่าต่อให้นางจะบอกความจริงไป ท่านแม่หลิวหลี่ฟานก็คงไม่เชื่อนางอยู่ดี เพราะในสายตาของทุกคนยามนี้นางเป็นเพียงแค่เด็กสามขวบ

ไม่สิ... หากนางทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่เปลี่ยนใจไม่รับโจวจื่อหานเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่แรก ลางทีเรื่องราวในนิยายอาจเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ ฉินเพ่ยเหยาคิดในใจ จากนั้นนางจึงเอ่ยขึ้นมาใหม่อีกหน

"พี่ชายน่ากลัว"

"น่ากลัวอย่างไรหรือ" คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจในวาจาของเจ้าก้อนแป้งเท่าใดนัก เด็กน้อยทั้งสองคนเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก ไฉนฉินเพ่ยเหยาถึงได้บอกว่าโจวจื่อหานน่ากลัว หรือเป็นเพราะหน้าตามอมแมมกับอาภรณ์ตัวเก่าของเขาที่ทำให้นางไม่คุ้นชินกระมัง

"โจวจื่อหานเป็นเด็กที่น่าสงสาร กำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก เหยาเหยาไม่สงสารเขาหรือลูก"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel