บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

ผู้ชายคนนั้นกระโดดลงจากขาไม้ ทุกคนจึงได้เห็นว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่อยู่ในกางเกงยีนส์สวมเสื้อยืด รูปร่างหน้าตาของเขาละม้ายคล้ายคลึงจอห์นมาก ฮาร์ริสัน แอดเดอร์ ปรบมือนำขึ้นก่อน และทุกคนก็ร่วมปรบมือด้วย ในฐานะที่เขาเป็นนักแสดงคนหนึ่ง

“ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักไมค์ อัพตัน มนุษย์ขี้เล่นคนหนึ่ง” ฮาร์ริสันเอ่ยขึ้นดังๆและชายหนุ่มก็โค้งคำนับรับเสียงปรบมืออีกครั้ง

“จอห์น..คุณมาตรงนี้หน่อยได้ไหม?” ฮาร์ริสันร้องถามมาด้วยสีหน้ายิ้มย่อง

รอนสัมผัสอารมณ์โกรธในตัวสามีจึงบีบแขนเขาเบาๆเป็นการเตือนสติและจอห์นก็ลุกขึ้นเดินไปยืนข้างหน้าใกล้กับที่อดีตนายจ้างกับนักแสดงคนนั้นยืนอยู่

“ทุกคนคงเห็นแล้วนะครับ ว่าคุณสองคนนี่มีเค้าหน้าและสัดส่วนที่ละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างน่าแปลกใจทีเดียว” ฮาร์ริสันกล่าว และทุกคนก็เปล่งเสียงอย่างเห็นพ้องกับคำพูดของเขา

จอห์นสัมผัสมือกับนักแสดงหนุ่มน้อยตามมรรยาท แต่สำหรับฮาร์ริสันแล้วเขาอยากจะชกหน้าให้เสียด้วยซ้ำถ้าไม่คำนึงถึงคำเตือนของรอน สีหน้าของเขาเฉยเมยไม่บอกความยินดียินร้ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ฮาร์ริสันกำลังพูดอะไรบางอย่างอย่างที่แสดงออกถึงความห่วงใยและความเสียดายที่เขาจะต้องจากบริษัทไป แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็ยินดีที่จะต้อนรับเขากลับมาเสมอ พร้อมกันนั้นทุกคนต่างก็หวังว่า เขาจะประสบความสำเร็จในงาที่ใฝ่ฝัน ขอจงอย่าได้ถือสากับการแสดงโชว์ในวันนี้และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีของเขาอย่างแท้จริง ฮาร์ริสันได้มอบของที่ระลึก ห่อด้วยกระดาษสีเงินผูกโบว์สวยงามให้เขาอีกด้วย

จอห์นถึงกับสูดลมหายใจลึกด้วยความแปลกใจอันที่จริงเขาเองก็น่าจะรู้ว่าคนอย่างฮาร์ริสันนั้นเป็นอย่างไร นิสัยของฮาร์ริสันเป็นคนประเภทตบหัวแล้วลูบหลัง ซึ่งเขาทำอย่างนี้กับทุกคน เพื่อไม่ให้ผู้ถูกกระทำคิดโกรธเคือง ใจอ่อนและยอมให้เขาปฏิบัติได้ตามใจชอบเหมือนเด็กๆอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า

“ขอบคุณ” จอห์นเอ่ยออกไป ก็จะให้เขาพูดอะไรมากกว่านั้นได้เล่า “ผมเองก็เสียดายที่ต้องจากพวกคุณไปเหมือนกันและคงคิดถึงพวกคุณมากเช่นกัน” เขาพูดต่อไปเรื่อยๆ เพราะรู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนหวังจะได้ยินจากเขา

แต่ขณะเดียวกันมันก็มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อเขากวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ซึ่งขณะนี้ผู้ที่เขาทำงานร่วมด้วยมาตลอดแปดปีรวมตัวกันอยู่ เขามองเห็นโดนัลด์ ฮู้ด ซึ่งขณะนี้กำลังเอนร่างพิงอยู่กับผนังห้องด้วยความมึนเมา แต่ในความมึนเมานั้นเขารู้ว่าโดนัลด์เป็นเพื่อนที่ดีกว่าใครทุกคน

เขามองเห็นบ๊อบ เดมอนด์ ที่เล่นเทนนิสด้วยกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ โรเจอร์ สเตร้าท์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเวลาทำงานโฆษณาชิ้นใหญ่ๆและมักจะนั่งดื่มด้วยกันหลังจากเสร็จงานแล้ว นอกจากนั้นเขายังมองเห็นเอริก้าผู้หลงรักเขาอย่างไม่เสื่อมคลาย มันเป็นความรู้สึกที่ดีถ้าเราได้รู้ว่า ยังมีใครบางคนที่รักและต้องการเราอยู่ นอกจากฮาร์ริสัน แอดเดอร์แล้ว จอห์นยอมรับว่าเขารักและผูกพันกับเพื่อนร่วมงานทุกคนและแน่นอนที่เขาจะต้องคิดถึงคนเหล่านี้อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

“เอ้อ..” จอห์นเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจ “ผมไม่ใช่นักพูดที่ดีเท่าไรนัก เพราะฉะนั้นคงจะเป็นเพราะเหตุผลข้อนี้ที่ทำให้ผมชอบเขียนรูปมากกว่า เพราะมันเขียนออกมาได้ดีกว่าจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่จะยังไงก็ตาม..ผมไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถเขียนถึงความรู้สึกที่ผอมกำลังมีอยู่ในขณะนี้ได้อยู่นั่นเองและถ้าเขียนมันก็คงจะออกมาเป็นรูปประหลาดๆ คือมันคงจะเหมือนตัวจิ๊กซอว์ที่แต่ละชิ้นล้วนสวยสดงดงามเหลือเกิน และเมื่อเอามาประกอบกันเข้ามันก็จะเป็นภาพที่สวยงามมาก..”เขาหยุดเว้นระยะสั้นๆ

“ผมเองก็เสียใจและเสียดายที่จะต้องจากพวกคุณทุกคนไป ทั้งนี้เพราะคำว่าความหวังเพียงตัวเดียว ผมหวังว่างานที่ผมจะสร้างขึ้นในอนาคต จะดีกว่างานที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ แต่จะอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผมและผมก็คิดว่าพวกคุณทุกคนจะต้องรู้ ว่าผมผูกพันกับทุกคนที่นี่ เพราะตระหนักอยู่เสมอว่า ผมเป็นจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งในภาพที่สวยสดงดงามนั้น ผมขอขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นนี้ด้วย” เชาชูห่อของขวัญในมือขึ้น

เสียงปรบมือดังขึ้นกราวใหญ่ เอริกาหลั่งน้ำตาสะอื้นไห้อย่างไม่อายใคร สีหน้าของรอนเต็มไปด้วยความปีติอย่างที่สุด เธอยิ้มให้กับสามี รอยยิ้มนั้นคือความอบอุ่นแห่งแสงตะวัน เสียงจุกแชมเปญระเบิดขึ้นด้วยฝีมือของโดนัลด์ ไมค์กับโบลีนหอบหิ้วแขมเปญเข้ามาอีกคนจะเต็มอ้อมแขน

จอห์นจับมือกับนักแสดงหนุ่มอีกครั้งแล้วก็ยังหันไปจับมือกับฮาร์ริสัน โดนัลด์เดินเข้ามาพร้อมด้วยแก้วแชมเปญ

“ไชโย..!” โดนัลด์ตะโกนขึ้นและทุกคนก็เปล่งเสียงไชโยขึ้นพร้อมกัน พร้อมกับดื่มอวยพรให้จอห์นประสบความสำเร็จกับความหวังในการเป็นจิตรกรของเขา

จอห์นกอดไหล่ภรรยาไว้ด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข การดื่มอวยพรครั้งนี้ เกิดขึ้นจากทุกคนที่มีความรัก ความปรารถนาในตัวเขา หลังจากนั้นก็มีการจับมือแสดงความยินดีกันอีกรอบ เอริกา ฮาร์ท ผู้ซึ่งไม่เคยมองข้างผู้ชายหล่อเดินเข้าไปหานักแสดงคนนั้นและขอให้เขาอธิบาย ว่าทำอย่างไรจึงแต่งตัวได้เหมือนปิศาจมาก ซึ่งเขาก็อธิบายให้หล่อนฟังด้วยความเต็มใจ

ในที่สุดงานเลี้ยงก็เลิกรา เมื่อแขกทุกคนลากลับไปหมดแล้ว จอห์น รอน ไมค์และโบลีนก็ยังคงนั่งอยู่กับพื้นห้องเบื้องหน้าเตาผิง จอห์นกลับไปพูดเรื่องการแสดงและการฉายสไลด์ที่ผ่านมาเมื่อครู่อีกครั้ง

“ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน” โบลีนสารภาพ “คือเมื่อวานฮาร์ริสันเขาโทรศัพท์มาหาฉัน แล้วก็บอกว่าเขามีอะไรบางอย่างที่อยากจะสร้างความแปลกใจให้คุณแล้วก็มีของขวัญจะมอบให้คุณด้วย เขาย้ำอยู่หลายครั้งว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่เขาใช้เวลาในการเตรียมการมาอย่างรอบคอบแล้วก็พิเศษมากด้วย ไมค์กับฉันก็พูดไม่ออกไม่รู้จะปฏิเสธยังไง..เราปฏิเสธเขาไม่ได้จริงๆนะจอห์น”

“ผมว่าที่เขาทำอะไรพรรค์นี้ก็เพราะเขาเกลียดผมนั่นแหละ” จอห์นว่า

“แต่ฉันว่าไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะคะจอห์น” รอนค้าน ซึ่งไมค์ก็ออกจะเห็นด้วยกับเธอ

“ผมว่าเขาไม่ได้เกลียดชังอะไรคุณหรอก อาจจะอิจฉานิดๆนั่นไม่แน่ คุณก็รู้ว่างานทุกชิ้นที่คุณทำออกมา ต่อให้เขาทำทั้งชาติก็ไม่ได้ครึ่งของคุณ”

“แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่น่าถึงกับสาปแช่งผมแบบนั้นนะ” จอห์นว่า

“โธ่จอห์น..ทำไมถึงได้ไปถือเป็นเรื่องจริงจังนักล่ะคะ?” รอนว่า

“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมคุณถึงไม่เห็นเป็นเรื่องจริงจัง” เขากระแทกเสียงใส่ภรรยา

“ฉันนึกไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะกลายเป็นคนเชื่อถือเรื่องโชคลางบ้าๆบอแบบนั้น” รอนส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

“ผมไม่ได้เชื่อถืออะไรอย่างที่คุณว่าหรอกรอน เพียงแต่ว่า..เอ้อ..ชั่งมันเถอะ” เขาไม่อาจอธิบายถึงความรู้สึกที่กำลังเกิดอยู่กับตัวเองตอนนี้ได้

รอนลุกขึ้นจากที่นั่งเข้ามากอดแขนเขาไว้

“ฉันรับรองว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกค่ะคุณจะต้องพบแต่ความสำเร็จค่ะจอห์นนี่และสักวันหนึ่งคุณก็จะต้องหัวเราะให้กับเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นในคืนวันนี้”

“รอนพูดถูกแล้วละเพื่อน”ไมค์สนองรับ “ไอ้เฒ่าหัวงูตัวนั้นมันไม่ได้มีสติปัญญาหรือพลังอำนาจอะไร ที่จะมาสาปแช่งคุณได้หรอก ผมว่าคุณลืมไอ้เรื่องบ้าๆนี่เสียดีกว่า ใครๆเขาก็รับรองเป็นเสียงเดียวกันอยู่แล้ว ว่าคุณเป็นจิตรกรเต็มตัว และต่อไปนี้คุณก็จะได้ทำงานที่คุณรักอยู่แล้ว คุณกำลังจะทำให้ความฝันกลายเป็นจริงขึ้นมาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดอะไรมากเลย”

“นั่นสินะ..”จอห์นเพิ่งยิ้มออก “ผมรู้ว่าผมต้องเป็นได้แน่”

หลังจากนั้นหัวข้อการสนทนาก็เปลี่ยนเป็นเรื่องการเดินทางวันพรุ่งนี้ จอห์นกับรอนช่วยกันแต่งเติมความฝันจนสวยหรูเลิศเลอ

ไฟในเตาผิงมอดดับลงห้องตกอยู่ในความมืด ภายนอกกระแสลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงพัดพาใบไม้ปลิวมากระทบหน้าต่าง มีเสียงแกรกกรากดังอยู่ตลอดเวลา แต่กระนั้นหนุ่มสาวทั้ง 4 ก็ยังคงนั่งสนทนากันอย่างไม่หวั่นไหวต่อสภาพบรรยากาศภายนอก..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel