เกมส์รักปิดบัญชีแค้น

88.0K · จบแล้ว
โรสแมรี่ เอเรแกรน
39
บท
154
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาเพียงแต่หวังว่า ชีวิตของเขากับรอนจะไม่ต้องประสบพบพานเรื่องร้ายๆอีกต่อไป เขาได้เลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของตนเองแล้ว และมันก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง...

นิยายรักโรแมนติกประธานแหกหน้าฟินๆเลือดร้อน

บทที่ 1

บรรดาภูตผีปิศาจ ค้างคาวดูดเลือด ต่างออกเพ่นพ่านและเคาะตามประตูบ้านหลังต่างๆตามเส้นทางที่ผ่านไป

คฤหาสน์หลังใหญ่ในเคมบริดจ์ก็ไม่ได้รับการยกเว้น..

รอนเดินมาเปิดประตูบ้านชะโงกหน้ามองออกไป สายลมเย็นเยือกแห่งราตรีในฤดูใบไม้ร่วง พัดกรูเกรียวเข้ามาจนสะท้านไปทั่วทุกขุมขน

ขณะนั้นแม้จะเพิ่ง 6 โมงครึ่ง แต่อากาศภายนอกก็มืดสนิทแล้ว และเนื่องจากคฤหาสน์ของเพื่อนสาวหลังนี้อยู่ลึกเข้าไปในถนนสายใน ดังนั้น แสงไฟจากถนนจึงสาดส่องเข้ามาไม่ถึง การจะมาถึงที่นี่ได้ พวกเด็กๆจะต้องเดินเข้ามาตามซอยแคบๆระหว่างรั้วกั้นอาณาเขตของคฤหาสน์หลังเก่าแก่ 2 หลัง ซึ่งมีเถาไอวี่ขึ้นพาดพันอยู่กับต้นไม้ใหญ่มืดครึ้ม

ในท่ามกลางสายลมเย็นเยือกกับเถาไอวี่ที่ส่ายไหวอยู่ในแรงลมเช่นนี้ รอนอดแปลกใจไม่ได้ที่พวกเด็กๆช่างมีความกล้าหาญกันเหลือเกิน กล้าเดินเข้ามาถึงก้นซอยที่ลึก มืดและคอนข้างเปลี่ยวเช่นนี้

โบลีนกับไมค์ได้ปิดไฟตรงลานเฉลียงด้านหน้าแล้ว เนื่องจากแขกเหรื่อที่ได้รับเชิญมาร่วมงานเลี้ยงมากันครบแล้วทุกคน และขณะนี้กำลังรวมกลุ่มอยู่ตรงโต๊ะบุฟเฟ่ต์ บ้างก็ยังสนใจอยู่กับการดื่มและการสนทนาปราศรัยกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครอยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกเด็กๆที่ออกมาฉลองเทศกาลฮัลโลวีนส์เลย ตอนที่มีเสียงเคาะดังขึ้นตรงหน้าประตูนั้น รอนได้รับอาสาเพื่อนสาวเจ้าของบ้านที่จะออกมาเปิดประตูเอง

เธอหยิบกล่องขนมที่โบลีนจัดเตรียมไว้แจกจ่ายให้กับพวกเด็กๆใส่ลงในถุงพลาสติกที่เด็กในชุดปิศาจคนหนึ่งยื่นมาให้ สังเกตเห็นอยู่ว่าผีบางตนนั้นสวมเสื้อแจ๊คเก็ตไว้ภายใต้ผ้าคลุมสีขาว และบางคนก็ยืนตัวสั่นระริกด้วยความหนาวเย็นของอากาศ

แต่เมื่อมองเลยไปในท่ามกลางความมืด เธอก็ได้เห็นร่างสูงๆของใครคนหนึ่งที่ยืนสงบอยู่ด้านหลังเด็กๆเหล่านั้น เธอเข้าใจเอาเองว่าจะต้องเป็นผู้ปกครองคนใดคนหนึ่ง ที่ตามมาให้ความอารักขาลูกหลานของตน รอนยิ้มเมื่อกล่าวกับพวกเด็กๆว่า

“สุขสันต์วันฮัลโลวีนนะคะ” ก่อนจะปิดประตูลง

“ขอบคุณครับ” พวกเด็กๆตอบรับอย่างสุภาพแต่ทุกสีหน้าบอกความผิดหวัง รอนอดสงสัยอยู่ในใจไม่ได้ว่า พวกเด็กๆยังต้องการอะไรจากคฤหาสน์ทึบทึมที่ซ่อนตัวอยู่บนถนนสายนี้อีก อะไรก็ได้ที่มากกว่าการจะได้พบกับสุภาพสตรีสักคน ที่พูดกับพวกเขาอย่างไพเราะอ่อนหวานเช่นนั้น

แต่ทันทีที่ประตูปิดลง รอนก็เดินอย่างรีบเร่งกลับเข้าไปรับความอบอุ่นภายในห้องนั่งเล่น ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้องข้างเตาผิงตรงข้ามกับโบลีนที่นั่งอยู่ข้างเอรีส บลัช พนักงานต้อนรับของไฮกลาส กรุ๊ป

เอรีสกำลังเล่าเรื่องตลก เกี่ยวกับแม่สาวผมบลอนด์แสนสวยแต่ค่อนข้างโง่ ที่เคยมาเป็นนางแบบโฆษณาเครื่องครัวให้กับบริษัทครั้งหนึ่ง ซึ่งรอนเคยฟังเรื่องนี้มาแล้ว เธอจึงไม่สนใจฟังเท่าไรนัก ปล่อยให้เสียงพูดแจ้วๆลอยล่องอยู่ในบรรยากาศอันแสนสบาย ขณะที่เธอปล่อยจิตใจให้ลอยเลื่อน

ค่ำคืนนี้ คฤหาสน์หลังเก่าแก่อันเป็นสมบัติของโบลีนกับไมค์ ดูสวยสดงดงามกว่าที่เคยเห็นมา มันเป็นบ้านทรงวิคตอเรียนเพดานสูง เหมาะแก่การจัดงานปาร์ตี้ในเทศกาลฮัลโลวีนส์อย่างที่สุด นอกจากนั้น โบลีนก็ยังตกแต่งด้วยพวงเบอรี่สีดำกับเรสซิ่ง คอร์น เทียนสีส้มวาบไหวก่อให้เกิดรูปเงาแปลกๆ

ในห้วงแห่งความคิดนั้น รอนไม่แน่ใจเลย ว่าจะอีกนานสักเพียงไรกว่าที่เธอจะได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนสุขเช่นนี้อีก วันที่เธอกับโบลีนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ช่วยกันเตรียมอาหารไว้เลี้ยงแขก หรือบางครั้งก็ช่วยกันทำอาหารค่ำเพื่อรับประทานกันแค่ 4 คน

รอนกับจอห์นกำลังจะย้ายไปจากที่นี่ ไปอยู่แนนทัคเคท ซึ่งอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งที่โดดเดี่ยวห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก อย่างน้อยก็ 30 ไมล์ทีเดียว

ซึ่งบนเกาะนั้นเธอไม่รู้จักใครเลยสักคน ไม่มีญาติสนิทมิตรสหาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะจอห์นได้ตั้งใจไว้แล้วว่า จะทุ่มเทเวลาให้กับงานที่เขารักให้มากที่สุด

รอนสัมผัสความรู้สึกได้ว่าโบลีนกำลังมองเธออยู่ จึงหันไปมองและพบกับรอยยิ้มที่บ่งบอกความเห็นอกเห็นใจจากเพื่อนสาว โบลีนรู้ดีว่ารอนกำลังรู้สึกอย่างไร มันเป็นความจริงที่ว่า เธอกับรอนจะต้องมีความสุขเช่นนี้อีก เพราะแนนทัคเคทไม่ได้อยู่ไกลถึงดวงจันทร์ แต่ความสนิทชิดเชื้อต่อกันมันจะต้องสูญหายไป

แต่มันก็ยังมีเหตุผลอีกประการหนึ่งที่อาจจะทำให้ความสัมพันธ์จางลง เนื่องจากโบลีนกำลังครรภ์แก่ใกล้คลอด อีกไม่นานชีวิตครอบครัวของเธอก็จะพรั่งพร้อมบริบูรณ์ ส่วนรอนก็จะต้องติดตามจอห์นไปแม้ไม่รู้เลยว่า วันเวลาในอนาคตจะเป็นอย่างไร

แม้รอนจะไม่เสียใจกับการที่ต้องจากไปเช่นนี้ แต่มันก็คล้ายกับมีอารมณ์เศร้าหมองผ่านเข้ามาในจิตใจ ซึ่งก็เป็นธรรมดาสำหรับคนที่ใช้ชีวิตอิสระ มีความมั่นใจในตนเองสูง เมื่อใดก็ตามที่ผูกพันจิตใจเข้าไว้กับใครแล้ว ก็มักจะเกาะเกี่ยวอยู่แต่บุคคลผู้นั้นด้วยความจงรักภักดี เธอรู้ว่าจะไม่มีวันได้พบเพื่อนที่แสนดีเช่นโบลีนอีกแล้วและจะไม่มีใครเข้ามาแทนที่เพื่อนผู้นี้ได้ด้วย

แต่จอห์นคือสามีของเธอ เป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอทุ่มเทให้ทั้งชีวิต และเธอก็พร้อมแล้วที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขา

“รอน..”โบลีนเรียขึ้นเบาๆ ทำสีหน้าแปลกๆขณะบุ้ยใบ้ให้เธอดูอะไรบางอย่างที่ไม่น่าพอใจ

และรอนก็มองตามสายตาเพื่อน จอห์นยืนพิงประตูห้องรับประทานอาหารพร้อมกับแก้วเหล้าในมือ ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่กับสาวน้อยนางหนึ่งที่อิงร่างอยู่กับผนังใกล้เขา เจ้าหล่อนอยู่ในชุดเจอร์ซี่สีดำแนบเนื้อ ซึ่งรอนรู้ว่าหล่อนคือ

เอริก้า ฮาร์ท เป็นอาร์ติสต์อยู่กับบริษัทที่จอห์นทำงานอยู่ รูปร่างหน้าตาของหล่อนยั่วยวนกวนสวาทไม่น้อย

“อ๋อ เอริก้านั่นเอง” รอนปนหัวเราะ “เขาน่ารักดีนะโบลีน แต่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่หรอก”

“แต่ฉันว่ามันไม่ใช่แค่นั้นนะรอน” โบลีนพูดเหมือนจะเตือน แต่รอนไม่ได้ถือเป็นเรื่องจริงจังหรือน่ากลัวอะไรเลยสำหรับแม่สาวที่ชื่อเอริก้าคนนี้

แม้ว่าจอห์นจะเป็นผู้ชายที่จัดว่าหล่อมากซึ่งแทบจะตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง แต่รอนก็มีความสุขความสงบในใจ อาจจะเป็นเพราะเธอเกิดมาเป็นลูกคนเดียวที่พ่อแม่รักอย่างสุดสวาทขาดใจก็ได้

ตอนที่เครื่องบินตกและพ่อกับแม่ตายลงพร้อมกันนั้น รอนเพิ่งจะรุ่นสาว แต่เธอก็อยู่ในความปกครองของพ่อทูนหัวที่ดูแลเธออย่างเอาใจใส่ พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ ชีวิตเธอจึงสมบูรณ์ด้วยความสุขทุกประการ

และบัดนี้เมื่อเธอย่างเข้าสู่วัย 30 รอนก็ไม่สนใจกับรูปร่างหน้าตาของตนเองอีกต่อไป เพราะนับแต่เริ่มต้นชีวิตในมหาวิทยาลัย เธอก็ได้เรียนรู้ว่า แม้รูปร่างหน้าตาเธอจะไม่สะสวยเท่าไรนัก แต่ความมีสติปัญญา ความอ่อนหวานและความมีสายเลือดผู้ดีอยู่ในตัวจะเป็นสิ่งที่เสริมสร้างเสน่ห์ให้กับเธอได้ ดังนั้น รอนจึงไม่แปลกใจเลยเมื่อมีผู้ชายมาตกหลุมรัก

แต่เธอกลับแปลกใจที่ผู้ชายคนหนึ่งในจำนวนนั้นคือจอห์น แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเธอเองก็หลงรักเขาด้วยเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างมหัศจรรย์ใจที่ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะราบรื่นเหมาะสมซึ่งกันและกันไปเสียหมด ราวกับเป็นรูปแบบที่ถูกเขียนขึ้นไว้แต่ชาติปางก่อน

ขณะนี้เขากับเธอแต่งงานกันมาได้ 8 ปีแล้ว เป็นชีวิตสมรสที่มีความสุขมากและบัดนี้ เธอก็กำลังจะโยกย้ายติดตามเขาไป ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างเขากับเธอนั้นเปรียบเสมือนมีลมหายใจเดียวกัน

ดังนั้น เธอจึงไม่เคยเดือดร้อนหรือกังวลใจ กับการที่เอริก้าจะทำท่าทางยั่วยวนจอห์นอยู่เช่นนี้เลยแม้แต่น้อย รอนมั่นใจในความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตสมรสของตัวเองแล้ว