5
หมอทิวเดินถือกระเป๋าพลางกวาดตามองหายัยแมวเหมียว...ตัวเล็กนิดเดียวหายไปไหนแล้ววะ.....บ้านไม่ได้กว้างมากมายห้องโถงไม่มีก็น่าจะอยู่ในครัว.......แต่ ๆ ๆ ๆ......หมอทิวเบิกตากว้างถอยหลังออกมาแทบไม่ทัน ก่อนจะตะโกนให้อีกฝ่ายรู้ตัว
“เรียกเหมียวซะเสียงดัง มีอะไรหรือจ๊ะหมอ” เธอคลานถอยออกมาจากซอกในครัวหัวหูเต็มไปด้วยหยากไย่
“เอ่อ.....ป้าเธอเอากระเป๋ามาให้” เขายื่นกระเป๋าให้เธอหน้าตาเห่อร้อนไม่กล้าสบตาด้วยซ้ำ ภาพที่เห็นหล่อนคลานก้นกระดกอยู่ในครัวยังติดตา ผ้าผ่อนแค่นั้นจะปิดอะไรมิด....เฮ้อ...หัวใจเกือบวาย....ใจเย็นไว้ไอ้ทิวน้อยลูกพ่อ......
“ขอบคุณจ้ะ” เหมียวรับกระเป๋าจากเขาดูไม่แปลกใจด้วยซ้ำว่ามันมาได้ยังไงและหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง
“เดี๋ยว....จะไปไหน”
“ก็ไปในครัวไง.....หนูเห็นทัพพีตักข้าวตกอยู่ว่าจะไปเก็บมาล้างทำความสะอาดเครื่องครัวก่อนแล้วค่อยทำกับข้าว....หรือว่าหมอหิวแล้วหรือจ๊ะ” เธอเห็นว่าห้องครัวที่นี่แม้จะมีเครื่องครัวครบแต่เหมือนครัวร้างเสียมากกว่าเจ้าของคงจะไม่ค่อยได้ใช้มัน
“ใช่...เอ่อ...ไม่ใช่” เขากลืนน้ำลายดังเอื๊อกก่อนจะรีบพูดให้จบ ๆ จะได้พาตัวเองออกไปจากตรงนี้จะได้หายใจคล่องเสียที
“ยังไม่ต้องทำ...เดี๋ยวพาไปกินข้าวที่ตลาดไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเสร็จแล้วจะได้ออกไปทำธุระกันให้จบ ๆ ”
“ธุระ.....เรื่องกินข้าวเนี่ยนะหมอ”
“จดทะเบียนสมรส” เขาพูดเสียงต่ำในลำคอทำไมต้องเขินด้วยวะ....แค่ทำตามคำพูดที่ลั่นวาจาไว้....
“อะไรนะหมอ” เหมียวทำเป็นใช้นิ้วแคะหูพร้อมกับเอียงหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จึงโดนอีกฝ่ายใช้นิ้วดันหน้าผากออกห่างทำอย่างกับว่าเธอจะเฉียดเข้าใกล้ไปทำให้เนื้อทองของเขาถลอกอย่างนั้นแหละ
“อย่ามาลีลา รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า” เขาต้องใช้เสียงเข้ม ๆ เข้าข่ม ยัยเด็กนี่ทำตัวอันตรายเกินไปแล้ว
“เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหนล่ะจ๊ะ”
“ห้องข้างบน”
เหมียวหิ้วกระเป๋าวิ่งปรู๊ดขึ้นบันไดอย่างอารมณ์ดีหลังจากได้แกล้งคนให้เขิน เพลินหัวใจจริง......หมอน่ารักจัง....
“หมอออออออ............” เธอตะโกนถามคนข้างล่างอย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรเหมียว” หมอทิวตกใจรีบวิ่งข้ามบันได้สองสามก้าวก็เข้าถึงตัวสาวเจ้าที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“นี่ห้องหมอ”
“อือ....อยู่ห้องนี้แหละ” เขาตอบไม่เต็มเสียงนัก ยัยเด็กนี่จะโวยวายเพื่อ?.....
“หมอจะให้เหมียวนอนห้องเดียวกันจริง ๆ เหรอ...เหมียวทำไม่เป็นนะ เมียเขาต้องทำยังไงกันบ้างล่ะ.....” เธอไม่ได้ปฏิเสธหรือรังเกียจเขาสักหน่อย แต่คนมันไม่เคยเป็นเมียใครจู่ ๆ ก็.....เฮ้อ !......เหมียวกลุ้มใจ
“ไม่เป็นไร เรื่องนั้นฉันสอนได้”
“หมอเคยเป็นเมียใครเหรอ.....”
“เฮ้ย !!....” หมอทิวตาเหลือก คิดได้ไงวะ
“แฮร่...โทษทีเหมียวพูดผิดใช่ไหมจ๊ะ” เธอยิ้มทะเล้นพร้อมกับรีบพาตัวเองหลบเข้าห้องก่อนที่จะโดนโต้กลับไม่ใช่น้อยฟังจากเสียงที่ดังอย่างกับฟ้าผ่า
เจ้าของห้องยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่หลังบานประตูที่ยัยตัวแสบผลุบหายเข้าไปหลังจากทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้......มันน่ามันเขี้ยวจริง ๆ เลยว่าที่เมียกู.....พอเห็นรอยยิ้มซุกซนของคนขี้แกล้งก็ไม่รู้จะโกรธหรือเอ็นดูอะไรยังไงก่อน....ฮึ่ม...ฝากไว้ก่อนฉันเอาคืนแน่ยัยแมวเหมียวขี้อ้อน...
บทที่ 2
สัตวแพทย์หนุ่มใหญ่หัวใจสีชมพู จู่ ๆ ก็ได้ภรรยามาแบบไม่ทันตั้งตัว เขาแทบจะหุบยิ้มไม่ได้หลังจากได้จรดปากกาเซ็นชื่อในใบทะเบียนสมรสกับสาวสิบเก้าแมวเหมียวขี้อ้อนแสนซนมาสด ๆ ร้อน ๆ จนกระทั่งเพื่อนรักอย่างภูผายังอดแซวไม่ได้ เพราะบังเอิญมาธุระที่อำเภอ เขาจึงเจอเข้ากับเรื่องแปลกประหลาดที่น่ายินดีเอามาก ๆ จึงเอ่ยปากขอเป็น เจ้าภาพจัดเลี้ยงฉลองให้ในเย็นนี้ ถึงแม้จะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแต่ดูจาก ท่าทางคึกเหมือนโคถึกของไอ้หมอค้างปีแล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่ายิ่งกว่าเต็มใจ
“เกรงใจว่ะไอ้ภู ไม่ต้องก็ได้” เขาอิดออดไม่อยากไปวันนี้ทั้งวันตั้งใจจะสร้างความคุ้นเคยกับภรรยาหมาด ๆ มากกว่าแค่คิดยังซู่ซ่าน่าดู..........
“ไม่เป็นไร.....กูรู้ว่ามึงคงไม่ได้แต่งงานบ่อย ๆ พลาดจากคนนี้ก็คงไม่มีใครเอาแล้วมั้ง.....ขอกูร่วมดีใจกับมึงหน่อยพอดีช่วงนี้ลูกไม่อยู่กำลังเหงา ๆ ว่ะ”
หมอทิวเห็นภูผายักคิ้วพลางเผื่อแผ่ไปให้ยัยแมวเหมียวอีกแน่ะ.......เออ.......เมียกูนี่ก็อารมณ์ดีจริง ๆ ยืนยิ้มแฉ่งกับไอ้ภู...แม่งเอ้ย....ขัดใจกูจริง ๆ …..
