26
ที่บ้าน
“มากันได้สักทีนะ...... ฉันรอพวกแกจนไส้จะขาดอยู่แล้ว” คุณนายลออบ่นทันทีที่สองผัวเมียโผล่เข้าบ้านพร้อมกับทำเป็นหน้าตาขึงขังไม่พอใจในขณะที่บนโต๊ะอาหารมีกับข้าววางเรียงรายจนต้องต่อถึงสองโต๊ะ......ทำเอาทิวามองบนกับบทบาทของมารดาเหมือนพามาดูละคร
“ขอโทษค่ะคุณแม่ หนูกับหมอทิวชวนกันเหลวไหลไปหน่อยหนูจะรีบเข้าครัวนะจ๊ะ....” เหมียวตรงเข้ามากอดแขนแม่ผัวทำตัวสนิทสนมเกินเบอร์แล้วยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับอาการของหลายคนที่ยืนมองอยู่
“ไม่ต้อง...ฉันซื้อมาแล้ว”
“โอ้โห.....ของดี ๆ ทั้งนั้นเลยแพงมากใช่ไหมจ๊ะ...คุณแม่ใจดีจริง ๆ เลยจ้ะ”
“ฮึ ! ก็แค่ของพื้น ๆ สั่งมาจากเหลาแถว ๆ นี้แหละกินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ต้องได้สิคะ...อู้หู....เป็ดปักกิ่ง หูฉลามแล้วก็อะไรนะหนูไม่รู้จัก” เหมียวมองอาหารบนโต๊ะอย่างตื่นเต้นเพราะในชีวิตนี้มีไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้สัมผัสกับอาหารเลิศรสราคาแสนแพงแบบนี้
“อย่ามัวพูดกันอยู่เลย มากินข้าวกันได้แล้วฉันหิว......” คุณนายลออนึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อยที่เห็นแมวเหมียวแสดงออกเหมือนเด็กที่เจอของถูกใจให้คะแนนในใจแล้วหนึ่ง….
หลังอาหารมื้อพิเศษผ่านพ้นไป เหมียวรู้สึกแปลกใจที่วันนี้แม่ผัวตามมายืนคุยด้วยในขณะที่เธอเก็บถ้วยชามล้างอยู่หลังบ้าน เมื่อวานคุณทิวา วันนี้คุณนายลออออกโรงเองเห็นจะไม่ธรรมดาแน่ ๆ
“คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“รู้สินะ ว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
“คุณแม่พูดมาเถอะค่ะ”
“ฉันอยากจะขอร้องเธอ...แม่เหมียว”
“ขอร้องหนู?....” เธอแปลกใจและไม่ค่อยสบายใจ อย่าบอกนะว่าจะเสนอเงินก้อนแล้วให้เธอออกไปจากชีวิตลูกชายเหมือนแม่ผัวในหนัง...ไม่นะ...เหมียวไม่ใช่ผู้หญิงหน้าเงินขนาดนั้น...เอิ่ม...ถ้าไม่มากพอ เธอคิดขำ ๆ ไม่ได้จริงจัง
“ใช่....ฉันจะขอร้อง และถ้าเธอทำสำเร็จฉันมีรางวัลให้ด้วย” คุณนายลออเสียอย่าง ไม่เคยใช้ใครฟรี ๆ
“เอ่อ....จะให้เหมียวออกไปจากชีวิตหมอทิวหรือจ๊ะ....คือเหมียว...เหมียวไม่มีใครแล้วจริง ๆ นะจ๊ะ.....ตะ...แต่ว่าถ้าคุณแม่ต้องการแบบนั้น...เหมียว......โอ้ย...เหมียวทำไม่ได้หรอกจ้ะ” เธอตัดสินใจได้ในนาทีนั้นว่าจะไม่ยอมแลกครอบครัวของเธอกับอะไรทั้งสิ้น....หมอเป็นสามีของเหมียวเป็นที่ยึดเหนี่ยวหนึ่งเดียวในโลกจะให้เธอทำใจเดินออกไปจากชีวิตของเขาง่าย ๆ ได้อย่างไรนอกเสียจากเขาจะเป็นคนขับไล่เธอเอง........
“เธอจะบอกว่ารักลูกชายฉันงั้นเหรอ” คุณนายลออถามเสียงเรียบ
“เอ่อ......เหมียวไม่แน่ใจหรอกจ้ะ.....ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับว่าหมอทิวเป็นอวัยวะสำคัญของเหมียวจริง ๆ จ้ะถ้าขาดไปเหมียวคงต้องขาดใจตายแน่นอน” เอิ่ม.....เธอรู้สึกประมาณนั้นแต่คำพูดที่พูดออกไปทำไมมันฟังดูเลี่ยน ๆ ชอบกลวะ.....
“เธอพูดเกินไปหรือเปล่า ป้าเธอยังไม่ตายสักหน่อยอยู่ใกล้แค่นี้เอง”
“มีก็เหมือนไม่มีจ้ะ ก็อย่างที่หนูเคยเล่าไปแล้วล่ะค่ะ” เหมียวสลดลงอย่างเห็นได้ชัด หากต้องพลัดพรากจากสามีจริง ๆ เธอขอไปตายเอาดาบหน้า อยู่กับป้าเอียดไม่ได้แน่คงแดดิ้นตั้งแต่ดาบนี้
หมอทิวยืนฟังอยู่หลังประตูนานแล้ว เขาได้ยินทุกอย่างชัดแจ๋วและกำลังจะทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ไหว แม่จะบีบคั้นยัยแมวเหมียวไปถึงไหนกัน แค่ลูกสะใภ้คนเดียวทำไมต้องมากเรื่องด้วยไม่เข้าใจจริง ๆ
ทิวาดึงแขนพี่ชายเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าใช้สายตาสื่อสารให้ยืน ฟังนิ่ง ๆ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณนายลออจะมีแผนยังไงจึงได้ตามมา แอบฟังด้วยอีกคน....
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งคิดไปเองเลยฉันแค่อยากให้เธอช่วยเกลี้ยกล่อมตาทิวให้กลับบ้านได้ไหม” ผู้สูงวัยรีบเข้าประเด็นสำคัญก่อนที่จินตนาการทั้งของตัวเองและยัยแมวเหมียวจะฟุ้งไปไกล
“หนูเนี่ยเหรอคะ...เอ่อ....หมอจะยอมฟังเหมียวหรือจ๊ะ” ถึงแม้เธอจะรับรู้ได้ว่าเขาใส่ใจสนใจแต่จะถึงขั้นตามใจด้วยหรือเปล่านั้นเธอไม่แน่ใจจริง ๆ ผู้หญิงที่กระโดดข้ามรั้วเข้ามาหาเขาจะได้รับเกียรติถึงเพียงนั้น
“ฉันให้เวลาหนึ่งเดือน หากเธอทำได้ฉันจะยอมรับเธอเป็นลูกสะใภ้ จะจัดงานฉลองใหญ่ให้คนรู้ไปทั้งจังหวัดเลยดีไหม”
“คือ....เหมียวคิดว่าคุณแม่น่าจะลองพูดกับหมอก่อนดีไหมคะ” นอกจากไม่มั่นใจว่าเขาจะฟังเธอหรือเปล่า เธอยังไม่อยากขัดขวางความสุขของใครโดยเฉพาะสามีที่น่ารักอย่างหมอทิว และยิ่งมีข้อแลกเปลี่ยนที่เธอมีแต่ได้กับได้จึงรู้สึกลำบากใจหากเธอยอมทำก็เท่ากับเห็นแก่ตัวเกินไป.......
“ถ้าเขาเชื่อฉันคงกลับไปนานแล้ว”
“จริงด้วย...” เหมียวพึมพำเบา ๆ พลางส่งยิ้มแหย ๆ ให้แม่ผัวอย่างจนมุม
“เธอยังจะต้องคิดอะไร เป็นลูกสะใภ้ฉันน่ะสบายไปทั้งชาติ อาหารแบบวันนี้เธอจะกินทุกวันยังได้” ผู้สูงวัยเห็นอีกฝ่ายลังเลจึงออกแรงกระตุ้นอีกนิด
“คือ.....”
“เสื้อผ้าสวยงามหรูหราเธอก็จะได้ใช้มัน”
“แต่เหมียว....ไม่”
“สมบัติมากมายที่ฉันจะยกให้ลูกชาย เธอก็จะได้ใช้สบายมือไปเลยยังไงล่ะ”
“เอ่อ.....ถ้าอย่างนั้นเหมียวจะลองดูก็ได้ค่ะ” เธอรับปากด้วยสีหน้าแสดงความลำบากใจ....หากคุณนายลออไม่ยื่นข้อเสนอเธอยังจะสะดวกใจที่จะทำมากกว่านี้ แต่นี่หากเธอยังไม่ยอมรับปากก็ไม่รู้ว่าจะเข็นอะไรออกมาล่อตาล่อใจอีก
สองคนที่อยู่หลังประตูรีบสลายตัวไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินแม่ผัวกับลูกสะใภ้ตกลงกันได้
“ถ้าไม่ตามใจเหมียว ระวังโดนทิ้งน๊า.....” ทิวาตบไหล่พี่ชายเมื่อเดินไกลออกมาถึงหน้าบ้านส่วนพี่ชายก็ได้แต่หัวเราะหึหึ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่....
