22
“ต๊าย ! เธอนี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ หรือว่ากร้านโลกถึงขนาดแย่งผัวคนอื่นมาก็ไม่รู้สึกรู้สาสินะ” ทิวาทำเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ เหมือนนางอิจฉาในหนังไทย
“ก็หนูไม่ได้แย่งผัวใครนี่จ๊ะ”
“มั่นใจเกินไปหรือเปล่า....บางทีพี่ทิวอาจจะ....อาจจะ....” หญิงสาวเล่นลิ้นหวังปั่นหัวพี่สะใภ้วัยละอ่อนไปเรื่อย ๆ สะใจดีพี่ชายอยากมีเมียแล้วลืมน้องทำไมล่ะ
“พอแล้วทิวา....แกมันก็เหลือเกินเล่นแต่พอดีเถอะเดี๋ยวผัวเมียเขาก็ตีกันตายหรอก” แม้จะขยับใบหน้าลำบากแต่คุณนายลออก็อดกำราบลูกสาวไม่ได้ชักจะเล่นเลยเถิดกันไปใหญ่
“เฮ้อ ! โล่งอก......ตกลงว่าคุณทิวาแกล้งล้อเหมียวเล่นใช่ไหมจ๊ะ”
“ก็คุณแม่เฉลยไปแล้ว ยังจะต้องให้ฉันพูดอะไรอีกล่ะ” เธอกระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิดยิ่งเห็นหน้ายิ้ม ๆ จิ้มพริ้มเพราราวกับไม่เคยโกรธใครก็ยิ่ง.....อืม...สงสัยจะอิจฉา” ทิวาเพิ่งหาข้อสรุปให้ตัวเองได้
“อ๋อค่ะ...”
“เออนี่....ฉันจะเอาคืนพี่ทิวโทษฐานละเลยทางบ้าน เธอร่วมมือกับฉันหน่อยสิ” แผนแรกไม่สำเร็จเธอจึงคิดจะเดินแผนสอง
“คือว่า....เหมียวขอโทษ....... หมอเป็นผู้มีพระคุณของเหมียวไม่กล้าแกล้งหรอกจ้ะคุณทิวาอย่าโกรธเหมียวเลยน๊า......” เธอหน้าสลดลงทำตาปริบ ๆ ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกข้างเหมียวไม่มีทางอยู่ฝั่งตรงข้ามสามีที่แสนดีหรอก แต่ก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับคนในครอบครัวของเขาเหมือนกัน
“ฮึ ! เธอนี่อันขี้อ้อนแบบนี้นี่เล่าถึงได้เอาพี่ทิวเสียอยู่หมัด”
“โธ่ !...เหมียวไม่มีที่ไปต่างหากจ้ะ” เธอแก้ไขเสียใหม่อย่างคนที่รู้จักเจียมตัว
“งั้นก็ไปได้แล้วเหม็นความรัก...เซ็งชะมัด.......”
“แกก็หาสามีสักคนสิ จะได้เลิกวอแวกับพี่ทิวเขาสักที...ลูกคนนี้นี่ไม่รู้จักโต” คุณลออบ่นไปเรื่อย เมื่อก่อนหวงลูกสาวอย่างกับอะไรดีแต่ตอนนี้จะสามสิบแล้วอยากให้ออกเรือนเสียทีแต่ก็ไม่มีใครเข้ามาจีบ
“คุณแม่อ่ะ..........”
เหมียวอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจรีบลงมาด้านล่างยังไม่ทันพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก็โดนอุ้มจนตัวลอย...
“หมอออออ.....ทำอะไรน่ะเดี๋ยวหนูตก” เธอร้องบอกพร้อมกับกอดคอพ่อหมอคลั่งรักเอาไว้แน่น
“คิดถึงจัง”
“ห๊ะ...คิดถึงเหมียวเนี่ยนะ”
เธอชี้หน้าตัวเองเพื่อต้องการย้ำให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิดเพราะวันนี้ก็เหมือนว่าจะอยู่ด้วยกันทั้งวันนี่นา.....
“เหมียวคนนี้คนเดียวนี่แหละ” หมอทิวพยักหน้าหงึก ๆ พร้อมกับอุ้มเธอไปวางที่โซฟา
“หมอ...ไม่นะเดี๋ยวคนข้างบนได้ยิน” เธอพอจะรู้จุดประสงค์ของเขา....จะมาคึกอะไรกันตอนนี้นะ.....
“ก็ช่างปะไร เราเป็นผัวเมียกันนะ”
“แต่หนูอายนี่จ๊ะ”
“ฉันไม่อายนี่”
เหมียวกุมขมับ.......บางทีการกลั่นแกล้งสามีบ้างก็ถือเป็นรสชาติของชีวิตคงไม่เรียกว่าเนรคุณหรอกมั้ง......
“เหมียวขออาบน้ำก่อนนะจ๊ะ”
“งั้นไปอาบด้วยกัน” หนุ่มใหญ่อย่างเขาลงทุนอ้อนเมียเด็กหน้าตาเฉย
“แต่หมออาบแล้วนี่ อย่างอแงสิจ๊ะเหมียวง่วงแล้ว”
“ได้...งั้นฉันไปส่งหน้าห้องน้ำนะ”
เหมียวได้แต่กลอกตาไปมาอยู่ดี ๆ สามีกลายร่างเป็นลูกชายได้ไงวะเนี่ย
ถึงวันนี้มีกิจกรรมให้เธอได้เหน็ดเหนื่อยทั้งวัน แต่ผลลัพธ์ของวันนี้เป็นที่น่าพอใจ อย่างน้อยแม่ผัวของเธอก็ไม่ได้ใจร้ายอย่างที่แสดงออก ท่านปกป้องเธอเมื่อเห็นว่าเธอโดนแกล้งปั่นหัวมากเกินไป หรือว่าสงสารลูกชายก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน.....
เธอใช้เวลาอาบน้ำพร้อมกับคิดอะไรเพลิน ๆ ออกมาอีกทีก็ไม่เห็นหมอทิวแล้วหรือว่าเขาอาจจะขึ้นไปคุยกับแม่ของเขา คิดได้ดังนั้นเธอจึงคิดว่าจะปูที่หลับที่นอนให้เรียบร้อยเธอเองก็ต้องการพักผ่อนเพื่อตื่นขึ้นมาต่อสู้กับวันใหม่....”เอ๊ะ ! อยู่ไหนนะก็เอามาวางไว้ตรงนี้นี่นา” เธอสงสัยว่าเครื่องนอนของเธอเคลื่อนที่ไปเองได้อย่างไรจึงเดินหาทั่วบ้านไม่เว้นแม้แต่หลังบ้าน
“โอ้โห.......” เหมียวยืนตะลึงกับภาพตรงหน้า ท่ามกลางความมืดมีแสงไฟจากเปลวเทียนหลายเล่มตั้งอยู่บนพื้นดินล้อมรอบแคร่นอนเล่นที่ปูทับด้วยฟูกบาง ๆ พร้อมผ้าห่มและหมอนสองใบ....เอิ่ม......คล้ายวงสายสินจน์ของหมอผีเหมือนกันนะเนี่ย...เธอคิดอย่างขำ ๆ เป็นภาพจำจากจอหนังกลางแปลงที่เธอเคยได้ดูมา
“เป็นไงบ้าง โรแมนติคใช่ไหมล่ะ” หมอทิวถามด้วยความมั่นใจยิ้มแย้มแก้มแทบแตก......ไม่มีอีกแล้วในละแวกนี้ที่สามีบ้านไหนจะทำเพื่อภรรยาที่น่ารักได้ขนาดนี้...กูนี่ช่างเป็นสามีที่ประเสริฐแท้....
“อืม...อยู่ไหนนะ” เหมียวทำเป็นก้ม ๆ เงย ๆ หาของบางอย่างอยู่แถวนั้นพร้อมกลั้นยิ้มจนแก้มตุ่ย
“หาอะไรเหรอ” คิ้วเข้มขมวดอย่างสงสัย ก็เตรียมพร้อมทุกอย่าง แล้วนี่นารอแต่แม่เนื้อนิ่มที่จะขึ้นไปนอนด้วยกันเท่านั้นแหละ….
“หม้อ...หม้อดินไงจ๊ะ”
“ห๊ะ ! .....หม้อดินจะเอามาทำอะไร”
“อ้าว ! หมอไม่ได้ทำพิธีเรียกผีลงหม้อแล้วจับถ่วงน้ำอยู่หรือจ๊ะ”
“เหมียว !....” เขากอดอกหน้าตาบูดบึ้ง ไอ้เรารึอุตส่าห์สร้างบรรยากาศโรแมนติคท่ามกลางฟ้ากว้างและดาวเดือนแถมแสงเทียนให้อีกต่างหากยังจะกล้าทำเสียบรรยากาศ
“โอ๊ะโอ๋.....หนูล้อเล่นอย่าโกรธเลยน๊า.......” เธอเข้าไปแกะแขนทั้งสองข้างที่เขากอดอกอย่างโมโหเปลี่ยนมาอ้อมโอบเอวเธออย่างเอาใจ...ไม่รู้ว่าเขาอยากกอดตัวเองหรือเปล่าแต่เหมียวเต็มใจให้กอด
“มันแย่มากใช่หรือเปล่า...ไป ๆ เก็บของ” เขายังงอนไม่เลิกทำท่าจะดึงเครื่องนอนทั้งหลายเหล่านี้เข้าไปเก็บอย่างเซ็งจัด“ นอนที่นี่เถอะนะหมอ.... เหมียวอยากดูดาว” เธอกดแขนเขาเอาไว้ไม่ยอมให้คลายอ้อมแขนออกพร้อมกับหันหลังทิ้งตัวลงไปบนที่นอนพาให้คนขี้งอนล้มทับลงไปนอนด้วยกัน
