15
“ไป ๆ ๆ .....หนูไปหาพี่หญ้าดีกว่า” เธอลุกขึ้นอย่างกระตือรือร้นหน้าตาแช่มชื่นหายหงิกงอเป็นปลิดทิ้ง
“อ้าว...ไหนว่าอยากมาดูฉันทำงาน”
“ไม่ต้องดูแล้วก็ได้.......คงจะมีแต่แม่ช้างแม่วัวไม่มีสาว ๆ ก็สบายใจแล้วจ้ะ”
“หืม......หวงเหรอ...ร้ายนักนะ” เขาว่ายิ้ม ๆ หัวใจพองฟูเป็นสีชมพูเข้มขึ้นมาทันทีที่รู้สึกว่าเป็นของรักของหวงของยัยแมวเหมียว
“หนูไม่ได้ร้ายนะจ๊ะ ใจบุญต่างหาก”
“ห๊ะ ! เธอนี่นะ ใจบุญยังไงไม่ทราบ”
“หนูไม่อยากให้มีผู้หญิงคนไหนถูกหมอล่อลวงไปทำมิดีมิร้ายนี่จ๊ะ” เธอทำตาปริบ ๆ มองเขาด้วยท่าทางใสซื่อสื่อถึงความจริงใจที่มันไม่ได้มีอยู่จริง.......แค่หยอก ๆ ความจริงก็แค่หาเรื่องแก้เหงาดีกว่าอยู่แบบเฉา ๆ ที่บ้าน
“เดี๋ยวเถอะ.....มานี่เลย” หมอทิวจะหันมาคว้าคนข้างกายแต่เธอ ไวชะมัดวิ่งปรู๊ดไปตั้งแต่เขายังไม่ทันคิดแล้วด้วยซ้ำ...เฮ้อ !....เขาไม่ได้วิ่งตามให้เสียอาการค่อย ๆ เดินกลับไปขึ้นรถกระบะเดี๋ยวเหยื่อก็กลับมาให้จัดการเอง
“ไปค่ะ” เหมียวเปิดประตูขึ้นมานั่งพร้อมชักชวนให้รีบไปในขณะที่หมอทิวเคลื่อนรถออกไปอย่างว่าง่ายก่อนจะไปหยุดอยู่ริมถนนสายเปลี่ยว
“รถเสียหรือจ๊ะ” เหมียวหันหน้ามาถามคนที่นั่งขับรถเงียบ ๆ อย่างงุนงงเพราะตลอดทางบนถนนโล่ง ๆ ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยแมกไม้เขียวขจีเธอมีความสุขและตื่นเต้นมากถึงขนาดยื่นหน้ายื่นตาออกไปสัมผัสลมด้านนอก เพราะนาน ๆ ทีถึงจะมีโอกาสได้นั่งรถสี่ล้อแบบนี้เธอเคยชินแต่จักรยานสองล้อหรือไม่ก็แมงกะไซด์แก่ ๆ คอเอียง ๆ ที่เป็นของใช้มีค่าที่สุดของพ่อเธอ
“เหนื่อย” แกล้งตอบไปอย่างนั้นเอง เพราะเห็นเธอตื่นเต้นเลยตั้งใจจะพาลงไปดูน้ำตกเล็ก ๆ แต่มีผีเสื้อแสนสวยแปลกตาเต็มไปหมดเพียงแค่เดินเข้าไปไม่ถึงห้าสิบเมตรจากตรงนี้
“นะ..เหนื่อย...อืม...หมอแก่แล้วนี่เนอะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“อ๊ะ !.....” เหมียวเบิกตากว้างจู่ ๆ ก็โดนรวบตัวเข้าไปจูบแบบไม่ทันได้หายใจหายคอ...หมอร้ายยยย........
“พูดใหม่ซิ...ใครแก่” หมอทิวอยากจะเขกกะโหลกแม่ตัวดีที่บังอาจดูถูกในเรื่องของอายุแต่เกรงว่าเธอจะเจ็บเสียเปล่า ๆ จึงเลือกลงโทษริมฝีปากนุ่ม ๆ ด้วยจูบร้ายกาจทั้งดูดทั้งดึงถึงจะกำราบกันได้อยู่หมัด
“เจ็บ !....” เธอตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจพร้อมกับขยับตัวจนชิดประตูรถอีกฝั่งห่างจากคนขับบ่งบอกว่ากำลังงอนขั้นสุด
“เอ่อ.......” .....ซวยแล้วกู....ทำไมไม่เคลิ้มวะ...เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิดคนทำผิดได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยน ๆ ........
เมื่อเห็นเด็กมันงอนไม่ยอมพูดด้วยเขาก็ชักจะทำอะไรไม่ถูกไปไม่เป็น....สงสัยจะร้างราเรื่องแบบนี้มานานเกินสิบปีแล้วกระมังถึงได้ลดมนต์ขลังลงไป....ไม่อยากจะคุย...เฮอะ...ถ้าเป็นสมัยก่อนรายไหนรายนั้นเป็นต้องอ่อนระทวยตกอยู่ในอ้อมแขนหมอทิวไปไหนไม่รอดสักราย
“เจ็บตรงไหนเหรอเหมียว”
“ตรงขามั้งคะหมอ.......” เธอมองเขาตาวาววับ นี่เขาเป็นหมอจริงใช่ไหมเนี่ยถามมาได้ยังไงว่าเจ็บตรงไหนตัวเองทำเองแท้ ๆ ปากไม่แตกก็บุญแล้วทำอย่างกับจะกินปากเหมียวแทนข้าวอย่างนั้นแหละ…ชิ !....
“ขอโทษ......มานี่สิเดี๋ยวดูให้” เขาบอกเสียงนุ่ม รู้ว่าเธอประชดแต่ไม่โกรธเลยสักนิด...แม่งเอ้ย...กูก็ถามอะไรไม่เข้าท่าจริง ๆ นั่นแหละ.....
เหมียวนั่งนิ่งทำเป็นปั้นปึ่งทั้งที่หายโกรธตั้งนานแล้วแต่อยากรู้ว่า หมอจะง้อเธอยังไง......ในที่สุดเธอก็ต้องขนลุกเมื่อเขาเป็นฝ่ายขยับเข้าหา พร้อมกับยื่นมืออบอุ่นมาเชยคางและไล้นิ้วเบา ๆ กับริมฝีปากของเธอทำให้รู้สึกว่ามันเห่อขึ้นมาราวกับว่าเพิ่งจะกินของเผ็ด.....อืม...ความจริงมันก็แซ่บเหมือนกันนะ....
“ไปเที่ยวน้ำตกกันนะ” เขาถามอย่างเอาใจ
“หมอต้องทำงานไม่ใช่หรือไง”
“ยังพอมีเวลาสนใจไหมล่ะ”
“ไปกันเลยดีกว่าจ้ะ.....อยู่ที่ไหนหรือจ๊ะ” เล่นตัวนิดเดียวพอเดี๋ยวอดหมดสนุกกันพอดีคิดได้อย่างนี้ก็ยิ้มออกมากว้างขวางมองท้องฟ้าเบื้องหน้าแล้วใจเบิกบานไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ลงเล่นน้ำ
หมอทิวอมยิ้มพร้อมกับเปิดประตูลงจากรถ ไม่ต้องมีตาหลังก็เห็นว่าอีกคนรีบก้าวตามมาติด ๆ
“เดินเข้าไปไกลไหมจ๊ะ” เธอรีบก้าวยาว ๆ ขึ้นมาคล้องแขนเขาเอาไว้ไม่มีสายตาใครให้ต้องอาย...ก็คนมันกลัวหลงนี่นาป่าทั้งนั้นเลยแต่ก็ยังแว่วเสียงน้ำตกอยู่ไม่ไกลนัก
“นิดเดียว ไม่ไหวเหรอให้อุ้มป่ะ” เขาถามยิ้ม ๆ ถ้าต้องอุ้มจะได้เก็บค่าแรงให้หนัก
“แหมมมม......ทำอย่างกับจะอุ้มหนูไหวงั้นแหละ”
“เหมียว !” ยัง...ยังไม่เข็ดจะว่ากูแก่อีกแล้วน่ะสิยัยเด็กแสบ.....
“หนูไม่ได้หมายความว่าหมอแก่นะจ๊ะ........จริงจริ๊ง....” เธอกระพริบตาปริบ ๆ ทำเป็นยิ้มใสซื่อ.....
“มาใกล้ ๆ นี่เลย...” เขาตวัดเรือนร่างอรชรเข้ามาชิดกายกลายเป็นเดินโอบกันไปอย่างสบายอารมณ์แต่พอใกล้จะถึงแอ่งน้ำตกที่อยากอวดกลับต้องชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นคนสองคนอยู่บนโขดหิน
“อุ๊บ !...”
หมอทิวปิดปากยัยแมวเหมียวก่อนที่เธอจะอุทานเสียงดังรอจนกระทั่งเธอพยักหน้าให้จึงยอมปล่อยพร้อมกับดึงให้ย่อกายลงพร้อมกัน
“นั่นมัน....คุณภูกับ....” เหมียวยังตกใจไม่หาย แต่ก็ลดเสียงลงกระซิบกระซาบกับสามีอย่างรู้งาน เพราะไม่อยากขัดความสำราญของคู่ชายหญิงที่กำลังกอดจูบลูบคลำกันอยู่บนโขดหิน.....ผู้หญิงนั้นเธอไม่เคยเห็นแต่ไม่ใช่พี่หญ้าแน่ ๆ ส่วนผู้ชายนี่สิ ดูข้างหลังเหมือนคุณภูผามาก...โอวแม่เจ้า....ไม่นะ....
