ตอนที่5 : ซวยของจริง
เรียกได้ว่าถ้าข้อมูลนี้ตกไปอยู่ในมือของคู่แข่ง ทุกอย่างที่เขาสร้างมาเป็นอันต้องจบลงเป็นแน่ และที่ข้อมูลถูกขโมยออกมาได้ก็เพราะฝีมือสองคู่ซี้แฮกเกอร์ขององค์กรที่เขาเคยไว้ใจ
"ไม่มีครับนาย" เอเดนเริ่มคิ้วขมวด เราเริ่มคิดหนักเพราะชิปนั่นมันสำคัญกับเขามาก
"หรือแกเอาไปขายให้พวกร็อคเชลแล้ว?"
"ถ้าผมทำแบบนั้นผมคงไม่ต้องมาอยู่ที่รูหนูแบบนี้จริงไหมครับ" เอเดนเริ่มคิดตาม ถ้าอดีตลูกน้องของเขาเอาข้อมูลไปขายแล้วจริงๆ คงใช้ชีวิตดีกว่านี้เพราะทางฝั่งนั้นคงส่งคนมาคุ้มกันอย่างแน่นหนา
"ลากตัวมันไป!" เมื่อหาของไม่เจอก็ต้องพาตัวคนคิดทรยศกลับไปด้วย ชายหนุ่มเริ่มลนลานเพราะรู้ว่าถ้ากลับไปเขาต้องถูกเอาตัวไปห้องเชือดแล้วก็จบชีวิตเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา
"แต่ผมบอกได้ว่าชิปนั่นอยู่ที่ไหน!" ชายที่เริ่มจนตรอกคิดวิธีเอาตัวรอด ทีแรกตั้งใจจะรอให้เรื่องเงียบแล้วค่อยเอาข้อมูลไปให้คู่อริของเอเดน เขาจึงเอาชิปไปซ่อนไว้ที่ใครบางคน แต่ตอนนี้เห็นทีโอกาสรอดคงมีแค่ทางเดียวคือบอกที่ซ่อนชิปเจ้าปัญหานั้นเสีย
"อยู่ที่ไหน?"
"มีผู้หญิงคนหนึ่งเอาไปครับ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนของร็อคเชล"
"ผู้หญิง?" เอเดนได้ฟังยิ่งขมวดคิ้วเพราะเริ่มมีบุคคลที่สามที่สี่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
"ครับ เป็นผู้หญิงเอเชีย ตัวเล็ก" อันดาที่แอบดูเหตุการณ์อยู่หูของเธอได้ยินชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคำพูดของชายคนนั้นทำให้เธอได้แต่คิ้วขมวด
"ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน?"
"เธอทำงานที่ร้านอาหารแถวนี้ครับ" เอเดนฟังก่อนจะจำรายละเอียดเอาไว้แม่น ส่วนอันดาพอได้ยินแล้วก็เริ่มคิดตาม ผู้หญิงเอเชียทำงานละแวกนี้ก็มีเธอและก็พี่ที่เป็นเจ้าของร้านเท่านั้น แต่เธอไม่รู้เรื่องชิปอะไรนั่นที่มาแอบดูก็เพราะเป็นห่วงชายที่คิดว่าไร้บ้านเท่านั้น
"ถ้าแกโกหกรู้ใช่ไหมว่าจุดจบจะเป็นยังไง?"
"ครับ!" สิ้นสุดคำขู่ก็รีบตอบรับทันที อย่างน้อยๆ วันนี้ก็รอดแล้ว อันดาพยายามทำตัวลีบๆ ออกจากซอกกำแพงก่อนจะค่อยๆ เดินย่องๆ ออกจากตรอกมืดนี้ให้เร็วที่สุด เธออาศัยความตัวเล็กและความมืดในการหลบออกมา
ตุบ! แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมพาความซวยมาให้ดันหลุดมือล่วงลงพื้นจนเสียงดัง ชายนับสิบคนหันขวับพร้อมกันเป็นตาเดียว แม้จะมืดสนิทแต่เธอก็สัมผัสได้ถึงพลังงานที่พร้อมจะฆ่าเธอตลอดเวลาออกมาจากคนพวกนั้น
"ซวยแล้ว" อันดาสบถก่อนจะเริ่มออกตัววิ่งสุดแรงเกิดเพื่อหนีออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดโดยที่ไม่ทันได้ก้มเก็บโทรศัพท์ของตัวเอง
ถ้าเธออดทนรอให้คนพวกนั้นกลับไปก่อนก็คงไม่ซวยเหมือนตอนนี้ ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอเอาตัวเองมาซวยจนถูกกลุ่มคนตัวโตไล่ล่าแบบนี้ แต่ชีวิตเธอก็พบเจอแต่ความโชคร้ายมาตลอด ตั้งแต่เล็กจนโต
"นายครับ?" วาดิมเรียกผู้เป็นเพื่อรอฟังคำสั่ง
"ไปตามจับตัวมันมา!" สิ้นสุดเสียงคำสั่งผู้เป็นนายลูกน้องนับสิบคนรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
"ลากมันไปด้วย" หันไปสั่งลูกน้องอีกสามคนที่ยืนอยู่ให้พาอดีตลูกน้องที่คิดทรยศกลับไปด้วย
"ครับนาย!" ขานรับก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาในกระเป๋าออกมาแล้วจัดการแทงเข้าที่คอของอดีตลูกน้องอย่างคาเมลจนสลบไป ส่วนเอเดนเขาค่อยๆ ก้าวขายาวๆ ออกจากตรอกมืดเพื่อไปจัดการคนที่บังอาจมาแอบดูเรื่องของเขา ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าได้เห็นแล้วเป็นต้องตายสถานเดียวเท่านั้น
หญิงสาววิ่งเร็วสุดชีวิตเท่าที่จะทำได้เพื่อหนีกลุ่มคนตัวโตในชุดสูทสีดำที่กำลังวิ่งตามเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
"แฮกๆ" เสียงหอบดังระรัวบ่งบอกถึงความเหนื่อยของคนที่วิ่งอยู่ อันดาไม่หันหลังกลับไปมองเป้าหมายเดียวของเธอก็คือสถานีตำรวจที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้
ปึก! หน้าผากสวยชนเข้าอย่างแรงที่วัตถุบางอย่างที่แข็งราวกับหิน
"กรี๊ด!!" เสียงแหลมกรี๊ดสุดเสียงเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เจอคนหน้าตาน่ากลัว หนวดเคราเฟิ้ม แถมด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยมกับสายตาที่มองต่ำลงมาเหมือนกับจะฆ่าเธอให้ได้เสียตอนนี้
"จับตัวไปถ้าไม่พูดความจริงก็ฆ่าได้เลย" เสียงเข้มสั่งลูกน้องด้านหลังให้ลากตัวเธอไปในขณะที่เธอมัวแต่ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง
"กรี๊ด! ปล่อยนะไอ้พวกคนเลว!!" อันดาทั้งดีดดิ้น ทั้งพยายามผลักทุกคนที่จะเข้ามาจับตัวเธอ
"ฤทธิ์เยอะนักนะ หลบไป!" เสียงเข้มเอ่ยสั่งลูกน้องก่อนจะก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอ
"ว้าย! ปล่อยนะไอ้ยักษ์!" เขาจัดการอุ้มเธอพาดบ่าก่อนจะเดินตรงไปที่รถคันหรูที่จอดรออยู่โดยไม่สะทกสะท้านกับมือน้อยๆ ที่กำลังทุบหลังรัวๆ แม้แต่น้อย
"กรี๊ด! อื้อ" ริมฝีปากสวยถูกปิดด้วยผ้าสีดำก่อนที่ผ้าสีดำอีกผืนจะปิดที่ตาของเธอ
"ออกรถเลย ไม่ต้องสนใจ!" มือหนาหยิบเชือกที่อยู่ข้างตัวขึ้นมามัดแขนเธอไว้แน่นจนเลือดที่ข้อมือแทบไม่เดิน ร่างบางนั่งหยุกหยิกพยายามแกะเชือกที่รัดออกแต่ก็ไม่เป็นผล
