บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ราพณ์หิรัญ (2)

หลังจากนั้นก็มีข่าวลือแพร่ไปมากมาย ข่าวที่กระจายออกไปกลายเป็นว่าเขาคือยักษ์เกเรไปทวาภพ ไปโผล่สวรรค์ก็ถูกหมางเมิน ไปโผล่บาดาลก็ถูกเพิกเฉย

เฮ้อ... เจ้าพวกปล่อยข่าวปากไร้หูรูด สักแต่พูดมิรู้จักไตร่ตรองโดยแท้ ช่วงเวลานั้นเขาไม่เคยมีสหายให้คบหาเลย จนกระทั่งวันหนึ่งขณะท่องเวหาก็ได้พบกับ ‘นางสินีภักดิ์’ โดยบังเอิญ

นางยักษ์ผู้นี้กำลังตามหานกการเวก สัตว์เลี้ยงแสนรักที่นางจับได้จากป่าหิมพานต์ เพราะหน้าตาอันแฉล้มแช่มช้อยและกิริยานุ่มนวลของนางพาให้ก้อนเนื้อในอกซ้ายสั่นคลอน

นางช่างงามยั่วยวนหัวใจอสุราหนุ่มอย่างเขาเสียเหลือเกิน...

แม้นางจะร่างหนาไปนิด ผิวคล้ำไปเสียหน่อย แต่องค์รวมจัดว่าเด็ด เพราะอยากรู้จักนาง เขาจึงเสนอหน้าอาสาจับนกการเวกให้นาง ซึ่งสินีภักดิ์ก็ยินดีเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง

‘ขอแค่ท่านจับนกตัวนี้กลับมาให้ข้าได้ ข้าจักตอบแทนท่านอย่างงาม’

ยิ่งได้ยินวาจาและน้ำเสียงนุ่มหูของนาง หัวใจของเขายิ่งพองโต เขาไม่เคยหวังรางวัลตอบแทนใด ๆ แค่นางไม่หมางเมิน ยินดีหยิบยื่นมิตรภาพมาให้ เพียงเท่านี้เขาก็พึงพอใจมากแล้ว

ดังนั้นเมื่อรับปากนางแล้วเขาต้องทำได้!

ทว่าระหว่างไล่ล่าเจ้านกตัวแสบ มันก็ดันหนีกลับไปยังป่าหิมพานต์ซึ่งเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด เจ้านกตัวนี้ว่องไวเสียเหลือเกิน งานล่านกจึงบังเกิด

กว่าจะจับเจ้านกตัวนี้ได้ก็สร้างความเสียหายให้ป่าหิมพานต์อยู่พอสมควร ฝูงสัตว์ต่างพากันหนีตายกระเจิดกระเจิง แม้แต่เหล่าคนธรรพ์ เทพาอารักษ์ก็ต้องหาที่อยู่ใหม่

รู้แหละว่าทุกที่ที่เขาย่างกรายต้องบังเกิด ‘ความฉิบหาย’ แม้จะเกิดเสียงก่นด่าตามมาเซ็งแซ่ว่าเจ้ายักษ์เกเรออกอาละวาด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

หลังจากไล่จับเจ้านกการเวกตัวนั้นได้ เขาก็รีบนำตัวมันส่งคืนให้นางยักษ์สินีภักดิ์โดยบัดดล ซึ่งนางยักษ์สินีภักดิ์ก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก นางถึงกับยิ้มอวดฟันซี่ขาวให้เขาได้ยล เห็นรอยยิ้มอันงดงามของนางก็พาให้หัวใจแข็งแกร่งราวหินผาของเขาอ่อนยวบ

นางช่างงดงามจับจิตจับใจเหลือคณาเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยเป็นคำพูด

‘ท่านช่วยนำนกตัวนี้กลับมาให้ข้าตามที่รับปากไว้ ไม่ทราบว่าท่านต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน’

แค่นางส่งยิ้มมาให้ เขาก็ไม่ปรารถนาสิ่งใดแล้ว แต่ในเมื่อนางมีน้ำใจเอ่ยถาม เขาก็ยินดีที่จะเรียกร้อง

‘ขอเพียงเจ้ายอมรับข้าเป็นสหาย เพียงเท่านี้ข้าก็พึงพอใจมากแล้ว’

‘ได้สิ ข้ายินดีรับท่านเป็นสหาย ว่าแต่ท่านมีนามว่าอะไรหรือ?’

‘เรียกข้าว่าราพณ์’

‘ราพณ์รึ นามท่านช่างไพเราะนัก’

ทั้งรอยยิ้ม น้ำเสียง สายตาอันงดงามของนางครามองมานั้น มันทำให้เขามีความสุขแย้มยิ้มได้ทั้งวันจนดูคล้ายยักษ์สติแตก อะไรจะสุขใจเท่าสตรีที่หมายปองหยิบยื่นไมตรีจิตมาให้ไม่มีอีกแล้ว

ในเมื่อสะพานได้ทอดมา เขาก็ไม่รั้งรอที่จะก้าวข้ามไป

ยักษ์อย่างเขาสมควรแก่เวลาที่จะมีชายาคู่ใจไว้คลายเหงาได้แล้ว ดังนั้นงานเกี้ยวพาราสีนางสินีภักดิ์จึงเริ่มต้นขึ้น

นางยักษ์สินีภักดิ์คือยักษ์เวหา นางมีวิมานลอยอยู่กลางอากาศ เขาซึ่งเป็นยักษ์สมุทรจึงต้องเป็นฝ่ายดั้นด้นขึ้นจากน้ำมาหานางเอง เมื่อมีรักความคิดถึงย่อมบังเกิด แม้เส้นทางจะไกลเป็นร้อยโยชน์พันโยชน์ขอเพียงมีใจปฏิพัทธ์ เส้นทางก็มิใช่อุปสรรค

เขาไปมาหาสู่กับนางอยู่เนืองนิตย์เพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกับนาง ยิ่งได้ชิดใกล้ก็ยิ่งเกิดความรักใคร่เสน่หา ก่อเกิดเป็นสายใยความผูกพัน

เกิดมาไม่เคยเจอนางยักษ์ตนใดที่งามแช่มช้อยเยี่ยงนี้ แม้นางสินีภักดิ์จะเป็นยักษ์เจ้าเนื้อไปนิด ดูอวบอิ่มไปสักหน่อย ใบหน้าแฉล้มกลมเหมือนดวงจันทราคราถูกพระราหูอม แต่คราที่นางแย้มยิ้มก็พาให้หัวใจของเขากระตุกแรงเบิกบานสำราญใจเสียทุกครั้งไป

เขาชอบสตรีเจ้าเนื้อ คราได้กอดนอนจะได้อบอุ่นทั้งกายใจ นางยักษ์สินีภักดิ์นี่แหละคือนางในดวงใจที่เขาใฝ่ฝันถึง แค่สบตานางเพียงครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจละเมอหานางเสียยกใหญ่ วันใดไม่พบหน้าอุรายิ่งร้อนรุ่ม ความรักเป็นเช่นนี้เอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel