อ่อยครั้งที่ 5
4 ปีก่อน
ร่างสูงของเด็กมอปลายวิ่งเหนื่อยหอบหายใจแรงและถี่เมื่อใกล้ได้เวลาปิดรับสมัครลงทะเบียนเรียนมหาลัยชื่อดัง เมลิค เช็ดเหงื่อที่ไหลตามกรอบหน้าอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะเริ่มวิ่งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงประกาศว่าจะหมดเวลาลงทะเบียน
ตุบ!
เอกสารปึกหนึ่งถูกวางลงบนโต๊ะลงทะเบียนดังลั่นจนทุกๆ คนในระแวกนั้นหันมามอง รวมถึงร่างบางที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็สะดุ้งตกใจไม่แพ้กัน
“เอ่อ....” เฮเลน มองเด็กมอปลายทีก้มหน้าหอบหายใจถี่ๆอย่างงงๆ และเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาก็สร้างความตกใจให้ร่างบางไม่น้อย
หล่อ
คำเดียวสั้นๆ ที่เฮเลนคิดในใจ เหมือนเวลาหยุดลงอยู่ตรงนั้นเมื่อได้สบตากับตาคู่คม ฝ่ายเมลิค เมื่อได้มองหน้าใบหน้าหวานก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“น้อง มาสมัครเลยป้ะ?” ฝุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เมลิคได้สติจึงพยักหน้าหงึกหงัก
“ดีนะเนี่ยเหลือเวลาอีกแค่สองนาที ถ้ามาไม่ทันต้องปีหน้าแล้วล่ะ” ฝุ่นว่า เมลิคไม่สนใจผู้หญิงที่พูดเอาแต่จ้องผู้ชายน่าตาน่ารักตรงหน้าตนเองจนเฮเลนเกิดอาการเขินขึ้นมา
“มองอะไรเล่า” เสียงหวานเอ่ยพึมพำพร้อมใบหน้าแดงระเรื่อที่แสดงออกชัดเจนว่าเขินร่างสูง ความน่ารักของอีกฝ่ายทำเอาเมลิคที่ไม่ค่อยแสดงออกกลับหน้าแดงขึ้นมา
“เปล่า”
“อะแฮ่ม! จะจีบกันหรอ? ไว้มาสอบให้ผ่านก่อนนะคะ!” ฝุ่นทีาเกิดอาการหมันไส้พูดกระแทกก่อนจะแบมือมาตรงหน้าเด็กมอปลาย
“อะไร?”
“เอ้า! ก็เอกสารสมัครไง เขียนใบสมัครมารึยัง?” เมลิคพยักหน้าแล้วหยิบใบสมัครในแฟ้มเอกสารก่อนจะส่งให้อีกฝ่าย....ที่เป็นผู้ชาย
“เออ กูแบมือขอไม่สนใจกูเล้ย!” ฝุ่นชักมือกลับแล้วกรอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย เฮเลยที่รับเอกสารไปหัวเราะคิกคักก่อนจะอ่านเอกสาร
“ชื่อเท่เนอะ เมลิค” ตาหวานช้อนตาขึ้นมามองร่างสูง เมลิคชะงักแกล้งทำเป็นมองไปทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความเขินทำเอารุ่นพี่ปีสี่อย่างเฮเลนหัวเราะชอบใจ
“เดี๋ยวนะ...น้องครับ พี่ว่าน้องคงสับสน” เฮเลนว่าก่อนจะส่งเอกสารคืนให้รุ่นน้อง เมลิคเลิกคิ้วมองงงๆ
“อะไร....ครับ?” เฮเลนอมยิ้มเล็กน้อยที่อีกฝ่ายพูดว่าครับ ก่อนจะชี้ไปที่หัวกระดาษ
“อันนี้มันใบสมัครของคณะ...ไม่ใช่หรอ?” เมลิคพยักหน้า
“อื้อ ก็ใช่ไง คณะ....” เฮเลนหัวเราะก่อนจะชี้ไปที่ข้างบนที่มีป้ายชื่อคณะของตนเอง
“นี่น่ะมันคณะสถาปัตย์” เมลิคเงยหน้าขึ้นไปอ่านป้ายคณะก่อนจะเบิกตาเล็กน้อย
“แม่ง...”
“คณะ....มันเปิดรับสมัครพรุ่งนี้นะ” เมลิคพยักหน้าเข้าใจใบหน้าคมเข้มขึ้นสีระเรื่อเพราะความอายก่อนจะหยิบเอกสารกลับไปใส่แฟ้ม
“ค่อยมาพรุ่งนี้นะ เห็นว่าคณะที่เราจะสมัครเปิดรับตั้งแต่เช้า อย่ามาสายล่ะ” เมลิคพยักหน้าแล้วก็ยืนนิ่งๆ จนเฮเลนเริ่มทำตัวไม่ถูก
“วันนี้กลับไปได้แล้วล่ะ”
“อื้อ” ตอบรับแต่ไม่ขยับไปไหน เมลิคยังคงยืนนิ่งจ้องมองเฮเลนอยู่แบบนั้น
“น้องมีอะไรหรือเปล่า?” เฮเลนถามเสียงสั่น เมลิคส่ายหน้าแล้วเกาแก้มตัวเองเบาๆ
“คือ.....”
“....” คนตัวเล็กเม้มปากแน่นรอว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร สุดท้ายเมลิคก็ส่ายหน้าไปมา
“ไปก่อนนะ...ครับ” เฮเลนพยักหน้าเล็กน้อย เมลิคหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะวิ่งออกมาท่ามกลางสายตางุนงงของพวกพี่ๆ
“ฉันว่าน้องมันชอบแก” ฝุ่นสะกิดเพื่อนแล้วพูดล้อเลียน เฮเลนชะงักก่อนจะมองตามอีกคนไปด้วยแววตาเปร่งประกาย
“ไม่หรอก...น้องเขาออกจะหล่อ จะมาชอบคนแบบฉันได้ยังไง ฝุ่นแกก็พูดบ้า อย่าล้อนะ งื้อฉันเขินไปหมดแล้ว!” เฮเลนปิดหน้าปิดตาไม่ให้เพื่อนสาวรู้ว่าตัวเองเขิน ฝุ่นหัวเราะดังลั่นเมื่อแกล้งเพื่อได้สำเร็จ เฮเลนยังคงจ้องมองไปที่ถนนเปล่าที่เด็กคนนั้นวิ่งกลับไป...
“เห้อ! ฉันล่ะอยากจะบ้า แค่มาเปิดรับสมัครรุ่นน้องปีหนึ่งให้เด็กปีสอง ปีสามทำก็ได้มั้ยวะ พวกเราต้องฝึกงานเนี่ยฉันต้องลางานมาเลยนะเว้ย! โดนหัวหน้าด่าอีก!” ฝุ่นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มร้องโวยวายอย่างหงุดหงิดหลังจากเสร็จสิ้นงานของวันนี้ เฮเลนหัวเราะน้อยๆ
“เอาน่า ถือสะว่าได้มาผ่อนคลายพวกเราต้องทำงานกันตลอดแปดเดือนมันก็เหนื่อยใช่มั้ยล่ะ วันนี้ได้เจอรุ่นน้องน่ารักๆ ก็ดีนะ” ฝุ่นเบะปากก่อนจะหันไปหาเพื่อนชายอีกสองคนแล้วโม้ให้ฟัง
“ไอ้คราม ไอ้มาร์ช แกรู้ป้ะวันนี้นะมีเด็กผู้ชายมาจีบเฮเลนเพียบเลย! เด็ดสุดคือแม่งมีน้องคนหนึ่งโคตรหล่อ ชื่อ...”
“ฝุ่นอ่า!” เฮเลนเขย่งเท้าเพื่อที่จะปิดปากเพื่อนสาวที่สนิท แต่เพราะเฮเลนตัวเตี้ยกว่าฝุ่นทำให้ไม่ได้ผล
“มันชื่อเมลิคเว้ย! ผิวสีแทน หล่อ ดุ ดูเย็นชา พวกแกต้องเห็นฉากที่พวกมันสบตากัน หึ้ย! คิดแล้วอยากจะกรี๊ดๆ” ฝุ่นว่าแล้วกอดอกอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินมาควงแขนครามเพื่อนสนิทที่อยู่คนละคณะ
“คราม! เมียแกมีชู้นะ แกทนได้หรอ!” ครามปรายตามามองเพื่อนสาวแล้วถอนหายใจ
“ไร้สาระ”
“ฮ่าๆ ทำดีมากคราม!” เฮเลนหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินมาควงแขนครามอีกข้าง
“เดี๋ยววันนี้เราเลี้ยงขนม” ครามหันมามองเพื่อนพ่วงตำแหน่งเจ้านายแล้วพยักหน้า มาร์ชมองเพื่อนๆ แล้วยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาสนใจหนังสือในมือ
“มาร์ชแกอ่านอะไรอยู่หรอ?” ฝุ่นชะโงกหน้าไปดูหนังสือที่เพื่อนอ่านก่อนจะเบ้หน้า
“หยี! มีแต่ภาษาต่างประเทศ เอาออกไปไกลๆ ฉันนะ ตัวฉันร้องไปหมดแล้ว!” พวกเพื่อนๆ หัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มอย่างสนุกสนาน
“จริงซิ พรุ่งนี้วันหยุดฝ่ายเอกสารขอแรงมาจัดเอกสารรับสมัครเรียนวันนี้หน่อยน่ะ” เฮเลนที่นึกขึ้นได้พูดขึ้นมา
“อีกแล้วหรอ ไม่เอาอ่ะพรุ่งนี้ฉันต้องทำงานถึงจะวันหยุดก็เถอะ ถ้าลาอีกล่ะก็คราวนี้ฉันได้หาที่ฝึกงานใหม่แน่ๆ” ฝุ่นปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมสีหน้าเบื่อหน่าย
“แล้วมาร์ชล่ะ?” คนตัวเล็กหันไปถามเพื่อนชายอีกคน มาร์ชส่ายหน้าไปมา
“มาไม่ได้เหมือนกัน เรานัดกับครอบครัวไปต่างจังหวัดรอบนี้คงเบี้ยวไม่ได้น่ะ ขอโทษนะเฮเลน” เฮเลนส่ายหน้ายิ้มๆ
“ไม่เป็นอะไรหรอก คราม...” ครามเลิกคิ้วมองงงๆ
“ไม่ได้อยู่คณะเดียวกันนะ”
“ก็มาเป็นเพื่อนหน่อยได้มั้ย?” เฮเลนมองอีกคนอย่างอ้อนๆ ครามถอนหายใจ
“แล้วไอ้ท๊อปอ่ะ”
“ท๊อปไปดูงานต่างประเทศไง วันนี้ก็ไม่ได้มาใช่มั้ยล่ะ พรุ่งนี้จะให้เรามาคนเดียวหรอ นะ น้าาา” เฮเลนเอื้อมไปจับมืออีกฝ่ายแล้วโยกไปมา ครามพยักหน้าส่งๆ
“รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอว่ายังไงผมก็ต้องไปกับคุณ ก็คุณเป็นเจ้านายผม” เฮเลนทำแก้มป่อง
“เราถามในสถานะเพื่อนไง ถามใจแกจริงๆ ว่าอยากมารึเปล่า?” ครามพยักหน้า
“ครับ อยากมา อยากมามากกก” เฮเลนเผยยิ้มกว้างแล้วกอดอีกฝ่าย
“เย้! ครามนี่ใจดีใจ ไม่เหมือนฝุ่น แบร่!” คนตัวเล็กหันไปแลบลิ้นใส่เพื่อนสาว ฝุ่นอ้าปากค้างง้างกำปั้าขึ้นมาตรงหน้าแล้วถกแขนเสื้อขึ้น
“หน็อย! อย่าคิดว่ามีผัวอยู่ใกล้ๆ แล้วจะรอดนะเว้ยเฮเลน! มาให้ฉันต่อยเดี๋ยวนี้!”
“ไม่เอา! ฮ่าๆ!” เฮเลนหัวเราะก่อนจะออกวิ่งไปหลบหลังเพื่อนๆ เพื่อหนีฝุ่นที่ทำท่าจะแกล้งเขา
“อย่าหนีนะไอ้เตี้ย!”
“อย่าว่าเราเตี้ยนะทอมฝุ่น! แบร่ๆ”
“หึ้ย!!”
“ฮ่าๆ” ทั้งสองคนวิ่งไปมาทั่วบริเวณอย่างสนุกพาให้เพื่อนๆ หัวเราะชอบใจไม่เว้นแม้แต่ครามที่หันมาอมยิ้มน้อยๆ
“คราม..” มาร์ชเอ่ยเรียกเพื่อนสนิม ครามชะงักก่อนจะตีหน้าเรียบนิ่งต่างจากเมื่อกี้แล้วหันมามองคนตังเล็กพอๆ กับเฮเลน
“คือ...พรุ่งนี้....ครามเองก็ไม่ว่างไม่ใช่หรอคณะบริหารเขาเรียกปีสี่ทุกคน ทำไมไม่บอกเฮ...”
“ไม่ต้องเสือก” คนตัวเล็กยังพูดไม่ทันจบครามก็พูดตัดบทขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก มาร์ชชะงักกึกทันที ริมฝีปากบางที่เผยยิ้มอยู่ค่อยๆ หุบลงช้าๆ
“ขอโทษเราแค่...”
“มึงเลิกตามส่องกูสักทีได้มั้ยวะไอ้มาร์ช ขยะแขยง” มาร์ชชะงักเม้มปากแน่นตากลมโตลื้นไปด้วยน้ำตา
“ระ เรา...ฮึก..ขอโทษ...” คนตัวเล็กว่าเสียงสั่นๆ แล้วรีบเช็ดน้ำตาเมื่อเพื่อนทั้งสองคนวิ่งมาทางนี้
“แฮ่กๆ! ตัวเล็กวิ่งเร็วชะมัดเฮเลน คอยดูนะ ปีนี้ฉันจะเอาแกไปลงวิ่งแข่งที่ชลบุรี แฮ่กๆ” ฝุ่นว่าแล้วหอบหายใจ เฮเลนทำหน้างง
“วิ่งแข่งชลบุรี?”
“วิ่งควาย!”
“ฝุ่นบ้า!” เฮเลนตีหลังเพื่อนแรงๆ ก่อนจะมองหน้าครามกับมาร์ชสลับกัน
“มีอะไรกันหรือเปล่า?” คนตัวเล็กเอ่ยถามเมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศอบอวน ครามส่ายหน้าก่อนจะเดินนำคนตัวเล็กและเพื่อนๆ
“รีบกลับบ้านเถอะ”
“อื้อ ป่ะมาร์ชกลับบ้านกันๆ” เฮเลนหันมามองเพื่อนชายอีกคนแล้วยิ้มหวาน มาร์ชชะงักก่อนจะยกยิ้ม
“อื้อ แต่พวกแกกลับกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันจะไปร้านหนังสือน่ะ บาย ไว้เจอกัน” มาร์ชโบกมือลาก่อนจะเดินไปทางอีกฝ่าย
“อะไรวะสองคนนี้ ช่างเถอะ เฮเลนกลับด้วยดิวันนี้ไม่ได้เอารถมา” ฝุ่นสะกิดเพื่อนเบาๆ เฮเลนปรายตามองก่อนจะพูดพร้อมหัวเราะ
“ไม่!”
“หึ้ยยยย!!”
“ขอบใจนะเฮเลนที่มาช่วย วันนี้ปีสี่มากันสองสามคนเองส่วนใหญ่ก็ไปทำงาน นี่ก็ให้เพื่อยเรียกปีสามมาแล้วคงงานเบาลงแล้วล่ะ” หญิงสาวประธานภาคของปีสี่พูดขึ้นด้วยความซาบซึ้งในน้ำใจของเฮเลน คนตัวเล็กยิ้มหวานแล้วส่ายหน้าไปมา
“ไม่หรอก เราว่างเลยมาช่วยน่ะ จะได้ลดภาระเพื่อนๆ ด้วย”
“เฮเลนนี่เป็นคนดีจังเลยน้า เราล่ะอิจฉาครามคณะบริหารจริงๆ ที่ได้เฮเลนเป็นแฟน” เฮเลนชะงักก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่ๆ เรากับครามไม่ได้เป็นแฟนกันนะ เพื่อนกันต่างหาก” หญิงสาวทำหน้างง เจ้าตัวถึงจะไม่ได้สนิทกัยเฮเลนแต่ก็เห็นว่าทุกครั้งที่ครามมาหาเพื่อนตนมักจะมองเฮเลนด้วยสายตาหวานเสมอๆ
ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย
“พูดถึงคราม หมอนั่นหายไปไหนก็ไม่รู้เห็นบอกว่าจะไปหาที่จอดรถทำไมถึงนานจัง” เฮเลนบ่นพึมพำมือก็จัดเรียงเอกสารไปด้วย
“อ้าว ไม่ใช่ไปคณะบริหารหรอ วันนี้เขาเรียกรวมปีสี่นี่” เฮเลนขมวดคิ้วงงๆ ไม่เห็นครามจะบอกเลย ก็หมอนั่นสัญญาจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขานี่นา ครามนี่นะเป็นแบบนี้ตลอดเลยมีอะไรไม่เคยพูด....เฮเลนคิดในใจ
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงที่คนตัวเล็กมาช่วยทำงานให้กับคณะ บรรดารุ่นน้องก็เริ่มทยอยมามากขึ้นจนคนตัวเล็กแมบจะไม่ต้องทำอะไร
“เฮเลนกลับเลยก็ได้นะ น้องๆ มากันเยอะมากคงไม่มีงานแล้วล่ะ” ประธานภาคบอก
“จะดีหรอ เราเพิ่งมาเองนะยังไม่ค่อยช่วยอะไรเลย”
“ไม่เป็นอะไรๆ เราขอโทษนะที่ขอให้เฮเลนมาช่วย ดูซิเสียเวลาหมดเลย ขอโทษจริงๆ นะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดจริงๆ เฮเลนส่ายหน้าแล้วยิ้มกว้าง
“ไม่เป็นอะไรเดี๋ยวเราไปคณะบริหารนะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ติดต่อมาได้เลย”
“ขอบคุณนะเฮเลน” คนตัวเล็กโบกมือลาเพื่อนร่วมคณะแล้วเดินไปที่คณะบริหารที่อยู่ไม่ไกลนัก ระหว่างทางตากลมโตก็เหลือบไปเห็นเด็กชายในชุดนักเรียนมอปลายที่คุ้นหน้า
“เม....ลิค รึเปล่านะ?” เฮเลนพึมพำไม่แน่ใจก่อนจะเดินเข้าไปดู ร่างสูงกำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งริมสวนและถอนหายใจเฮือกใหญ่ พอเห็นว่าใช่เด็กคนเมื่อวานคนตัวเล็กจึงเดินเข้าไปทักทายตามประสาคนอัธยาศัยดี
“ถอนหายใจหนึ่งครั้งเขาว่ากันว่าอายุจะสั้นลงหนึ่งปีนะ...เมลิค” ร่างสูงสะดุ้งก่อนจะหันมามองตามเสียง และเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ชายแสนน่ารักคนเมื่อวานใบหน้าคมก็แดงขึ้นมาทันที
“อะ...อื้อ...”
“นั่งด้วยได้มั้ย?”
“ใครห้ามล่ะ...ครับ” เฮเลนอมยิ้มเล็กน้อยแล้วนั่งลงข้างๆ ร่างสูฃที่ขยับไปชิดอีกฝั่ง
“เป็นอะไรรึเปล่าพี่เห็นเราถอนหายใจแรงเหมือนคนอารมณ์ไม่ดี” เมลิคพยักหน้า
“อือ หาคณะ....ไม่เจอ” เฮเลนเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ถามจริง หาคณะที่ตัวเองจะไปสมัครไม่เจอจริงๆ หรอ?” เมลิคพยักหน้าก่อนจะเปิดกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา
“เมื่อเช้าได้แผนที่มหาลัยมา คิดว่าวันนี้ไม่หลงแน่ๆ แต่พอมาตามทาง...ก็หาไม่เจอแล้ว” เมลิคพูดอย่างอารมณ์เสีย เมื่อได้ยินรุ่นน้องพูดแบบนั้นเฮเลนก็หัวเราะออกมา
“หัวเราะอะไร?” ร่างสูงหันไปมองอย่างไม่พอใจก่อนจะชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานสดใส
“หัวเราะเราไง เมลิค ไอ้คณะที่เราหาอยู่...ก็นี่ไง” เฮเลนว่าแล้วชี้ไปข้างหลังสวนที่มีอาคารใหญ่อยู่ เมลิคหันไปมองก่อนจะก้มลงมองแผนที่และสลับไปมา
“สวนแม่งบัง...” เมลิคว่าอย่างอารมณ์เสีย เฮเลนเช็ดน้ำตาที่หางตาเพราะหัวเราะมากเกินไปก่อนจะหันมาทองคนข้างกาย
“นี่อย่าบอกนะว่าที่เมื่อวานเรามาสายเพราะหลง?”
“ใครจะไปหลง!” เมลิครีบตอบทันที เฮเลนเลิกคิ้วมองเล็กน้อย
“ถ้าโกหกขอให้ไม่มีแฟนเลยนะ?” เมลิคชะงัก
“ก็...ไม่ได้อยากมีอยู่แล้ว” พอร่างสูงตอบคราวนี้กลายเป็นเฮเลนเองที่ชะงัก ก่อนคนตัวเล็กจะขำแห้งๆ ออกมา
“แหะๆ งั้นหรอ เสียดายนะหล่อขนาดนี้สาวๆ คงชอบเยอะเลยล่ะซิ” เมลิคเงยหน้ามามองคนข้างๆ ก่อนจะพูดเบาๆ
“ไม่ได้ชอบ...ผู้หญิง” คนตัวเล็กเบิกตากว้าง
“อะ อื้อ....” จู่ๆ ทั้งสองก็เงียบลงไปทันที สายลมพัดผ่านเบาๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย...แต่ไม่ใช่ในสถานะการณ์นี้...
“จริงซิ ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวเขาจะปิดรับสมัครนะ” คนตัวเล็กพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เมลิคพยักหน้าและลุกขึ้น เฮเลนจึงลุกและเดินตาม
“ผมไม่หลงแล้ว ไม่ต้องมาตามก็ได้” เมลิคที่เห็นว่าคนตัวเล็กเดินตามก็หันไปบอก เฮเลนส่ายหน้าไปมาแล้วอมยิ้ม
“พี่มาหาเพื่อน...ไม่ได้ตามสักหน่อย” คนตัวสูงหน้าขึ้นสีเพราะความอายก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปที่ตึกเพื่อไปลงทะเบียนทิ้งคนตัวเล็กให้หัวเราะอยู่คนเดียว
“ไม่ชอบผู้หญิง....แล้วทำไมใจเราต้องเต้นด้วย..” เฮเลนจับที่อกของตัวเองแล้วพูดเบาๆ อย่างสงสัยก่อนจะเดินตามทางเพื่อไปหาคราม...ที่คณะบริหาร คณะที่เมลิคมาสมัครเรียน.....
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป...
