บท
ตั้งค่า

อ่อยครั้งที่ 6

เด็กชายมอปลายที่กำลังลงทะเบียนเรียนด้วยความตื่นเต้นแต่ไม่แสดงออกทางหน้าตาต่างเป็นที่สนใจในกลุ่มของคนในคณะและเด็กรุ่นเดียวกันคนอื่นๆ ที่มาสมัคร

“อ่ะ เสร็จแล้วจ้ะ ที่เหลือก็แค่มาสอบตามกำหนดถ้าสอบผ่านก็ได้เข้าเรียนแล้ว” ขวัญเด็กบริหารปีหนึ่งพูดแล้วส่งเอกสารทำเสร็จแล้วให้กับเมลิค

“ขวัญ บอกน้องด้วยนะว่าต่อไปอย่าหลงทางน่ะ” ขวัญและเมลิคชะงักก่อนจะหันไปตามเสียงพร้อมกัน

“อ้าวพี่เฮเลน มาหาพี่ครามหรอคะ” เฮเลนพยักหน้าแล้วหันไปมองเมลิค ร่างสูงทำหน้านิ่งไม่ค่อยพอใจที่อีกฝ่ายแซว

“สองคนนี้รู้จักกันหรอ?” เฮเลนส่ายหน้าก่อนจะเดินไปหาครามเพราะคิดว่าเมลิคคงไม่สนใจตัวเอง แต่กลับกันเมลิคมองตามคนตัวเล็กจนเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นเดินไปหาผู้ชายใจคน จู่ๆ ในอกก็รู้สึกตื้อๆ ขึ้นมา...

“เฮเลน เด็กนั่นมองคุณใหญ่เลยคุณไปทำอะไรไม่ดีรึเปล่า?” ครามเอ่ยถามแล้วพยักเพยิดหน้าไปหาเมลิค เฮเลนหันกลับไปมองแล้วยิ้มให้ร่างสูงเล็กน้อย แต่เมลิคส่ายหน้าหนี

“อ้าว...อือ เราแค่แซวที่น้องหลงทางเอง น้องคงไม่พอใจไปขอโทษดีมั้ยนะ” คนตัวเล็กเริ่มลังเล ครามถอนหายใจ

“ไม่ต้องหรอก ไม่ใช่คนรู้จักกันนี่” เฮเลนคิดมากเล็กน้อยและพอหันกลับมามองอีกทีเมลิคที่จ้องอยู่ก็ชะงักก่อนจะวิ่งออกไป

“เราว่าเราไปขอโทษน้องเขาดีกว่านะ”

“เฮ...” ครามถอนหายใจที่รั้งคนตัวเล็กไม่สำเร็จนึกไม่ชอบหน้าไอ้เด็กคนนั้นขึ้นมาทำไมมันต้องมองคนตัวเล็กแบบนั้นนะ...

“เป็นอะไรพี่ อ้าว เมียพี่หายไปไหนแล้วอ่ะ?” ภาค รุ่นน้องปีสองที่สนิทกับครามเอ่ยถาม ครามส่ายหน้าไปมา

“เฮเลนไม่ใช่เมียกู”

“เดี๋ยวก็ได้เป็นน่าพี่ จีบต่อๆ ไปแบบนี้แหละสักวันพี่เฮเลนเขาก็จะรับรู้ถึงความรู้สึกของพี่ที่หวังดีต่อเขา เชื่อผมแล้วจะรุ่ง” ภารกอดอกทำหน้าภูมิใจ

“ร่วงมากกว่ามั้งเฮีย” สงครามรุ่นน้องปีหนึ่งพูดแทรกขึ้นทำเอาครามหัวเราะ

“อ้าวไอ้ครามพูดงี้มึงก็สวยสิวะ” ภาคหันไปว่ารุ่นน้อง

“มึงด่ากู?” แต่ครามก็นึกเล่นตลกแล้วหันไปทำหน้าโหดใส่ ภาคสะดุ้งแล้วมองครามกับสงครามสลับกันไปมา

“เว้ย! ทำไมครามกับสงครามต้องมายืนด้วยกันวะ แล้วกูจะเรียกอะไรล่ะทีนี้ แม่ง!” ภาคร้องโวยวายแล้วหนีไปทำให้ครามและสงครามหัวเราะออกมาเบาๆ

ตึกๆ

เสียงฝีเท้าเบาๆ ที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เมลิคที่กำลังเดินอยู่ชะงักก่อนจะหันมามองก็พบว่ารุ่นพี่คนตัวเล็กกำลังวิ่งมาทางนี้

“แฮ่กๆ เดินเร็วชะมัด....” เฮเลนว่าแล้วเงยหน้ามองร่างสูง เมลิคเผลออ้าปากค้างเมื่อภาพที่เห็นคือใบหน้าหวานที่แก้มสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความเหนื่อย และหยาดเหงื่อที่ผุดตามใบหน้ายิ่งตอนที่คนตัวเล็กเช็ดเหงื่อด้วยหลังมือช่างเป็นภาพที่ตรึงใจของร่างสูง

“เมลิค....โกรธพี่หรอ?” เมลิคชะงักหลุดออกจากห้วงความคิดและทวนคำถามจากอีกฝ่ายก่อนจะทำหน้างง

“โกรธอะไร?” พอดูท่ารุ่นน้องไม่ได้โกรธคนที่คิดเองเออเองก็ทำหน้าช็อค

“เอ้า! พี่คิดว่าเราโกรธที่พี่ล้อเรื่องเราหลงทางซะอีก นี่ก็วิ่งมาขอโทษ แหะๆ ไม่น่าแซวเลยเนอะ” เมลิคมองคนตัวเล็กที่ยกยิ้มกว้างพลางเช็ดเหงื่อก่อนจะล้วงกระเป๋าและส่งผ้าเช็ดหน้าของตนให้

“เอาไปใช้ดิผมยังไม่ได้ใช้ ไม่สกปรกหรอก” เฮเลนมองผ้าเช็ดหน้าสีเข้มแล้วรับมาในมือ

“เดี๋ยวนี้ไม่คิดว่าจะมีคนพกผ้าเช็ดหน้า ยิ่งเป็นผู้ชายแล้ว....” เฮเลนอมยิ้มแล้วซับมันลงที่แก้ม

“หอมจัง”

“เหอะ” เมลิคร้องในลำคอแล้วหันไปทางอื่นแต่ใบหน้าก็แดงขึ้นมาเพราะความเขิน

“สรุปไม่ได้โกรธเรื่องพี่แซวใช่มั้ย?” เมลิคพยักหน้า

“แล้วทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะ มองแบบนี้ อย่างกับจะจับพี่กิน” เฮเลนทำหน้านิ่งตาแข็งอย่างที่เมลิคทำให้ดูเป็นภาพตัวอย่างแล้วพูด เมลิคอมยิ้มก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้โดยไม่รู้ตัว

“ก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน” เฮเลนชะงักใบหน้าแดงระเรื่อก่อนจะถอยห่างออกมา

“เด็กบ้า...”

“ก็ไม่เด็กเท่าไหร่มั้งห่างกับพี่ไม่น่าเกินสองสามปี” เฮเลนเลิกคิ้วเล็กน้อย

“ปีนี้พี่อยู่ปีสี่แล้วนะ” เมื่อพูดจบเมลิคก็ทำหน้าตกใจก่อนจะมองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างอึ้งๆ

“มองแบบนี้หมายความว่าไง คิดว่าพี่อยู่ปีไหนล่ะ”

“สอง...คิดว่าน่าจะอยู่ปีหนึ่งปีสอง” เฮเลนกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น

“บ้า! เห็นพี่เตี้ยใช่มั้ย!” มือเรียวตีไปที่แขนของเด็กน้อยมอปลายที่สูงกว่าอย่างลืมตัว เมลิคหัวเราะก่อนจะจับมือเรียวขาวไว้ ทั้งสองคนหันมาสบตากันอีกครั้ง

“ไม่ใช่แบบนั้น...แค่เห็นว่า..น่ารัก เหมือนเด็กเลย” เมลิคพูดอย่างที่ใจคิด เฮเลนอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเสไปมองทางอื่น

“เด็กบ้า”

“เรียกผมว่าเด็กบ้า ผมมีชื่อนะ เมลิคไง” เฮเลนทำปากจู๋แล้วพยักหน้าหงึกหงัก

“รู้แล้วน่า”

“แต่ผมยังไม่รู้จักชื่อพี่เลย” คนตัวเล็กนิ่งไปก่อนจะพูดอ้อมแอ้ม

“เฮเลน”

“ชื่อโคตรคุณหนู”

“ชื่อเราก็เหมือนกัน เมลิค” ทั้งสองหัวเราะกันอย่างไม่ได้นัด เมลิคกระชับมือที่จับอีกคนไว้แน่นก่อนจะมองตากลมโตหวาน

“พี่เฮเลน...”

“อะ...อะไรเล่า...” เมลิคส่ายหน้าแล้วก้มมองมือของตนเองที่จับกับคนตัวเล็กไว้

“ทำไมถึง...ทำให้ผมยิ้มและหัวเราะได้” เฮเลนเลิกคิ้วงงๆ

“หมายถึง?”

“ผมน่ะ...ไม่ค่อยได้หัวเราะ และไม่ชอบที่จะยิ้มแบบนี้เลย แต่ว่าทำไม...” เมลิคช้อนตามองอีกคนแล้วเผลอพูดออกมา

“พอเห็นหน้าพี่แล้วทำไมถึงอยากยิ้มจังวะ” เฮเลนหน้าแดงก่อนจะบ่นอู้อี้

“จะไปรู้หรอเด็กบ้า” ทั้งสองหัวเราะเบาๆ เมลิคหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะกดอะไรเล็กน้อยและส่งให้อีกคน

“ขอเบอร์ได้มัั้ย”

“จะเอาไปทำอะไร?”

“จีบ” คำตอบตรงๆ ของรุ่นน้องทำเอาเฮเลนเบิกตากว้าง คนตัวเล็กเม้มปากกลั้นยิ้มจนแก้มแทบปริตัวก็ส่ายไปมาเพราะความเขิน

“ให้ไม่ได้หรอ”

“ก็...ไม่ได้บอกว่าไม่ให้” เฮเลนพูดเบาๆ ก่อนจะรับมือถือมาและกดเบอร์ของตัวเองลงไปและยื่นให้อีกฝ่าย

“คืนนี้..” เมลิคมองที่ตัวเลขสิบหลัฝก่อนจะพูด

“คืนนี้อะไร”

“คืนนี้...จะโทรไป รอรับด้วย”

“อื้อ!” ทั้งสองยิ้มหวานและใบหน้าแดงไม่ต่างกันก่อนจะลากันไปเพราะเมลิคเองก็ต้องรับกลับบ้าน เฮเลนก็กลับไปที่คณะบริหารเพื่อไปหาครามอย่างเดิม

เมลิคมองตัวเองสิบหลักในมือถือด้วยหัวใจที่เต้นระรัว และเพราะแบบนั้นจึงทำให้เด็กชายชนเข้ากับเด็กอีกคน

ปึก!

เอกสารมากมายหล่นกระจายเต็มพื้น เมลิคหยุดชะงักมองคนตัวเล็กที่ล้มลงไป

“ขอโทษนะครับ ขอโทษนครับ ผม...ฮึก ไม่ได้มองทาง ขอโทษนะครับ” คนตัวเล็กรีบกล่าวขอโทษพร้อมๆ กับหยิบมือถือขึ้นมาแนบหูเพราะยังคุยกับเพื่อนค้าง มืออีกข้างก็เก็บเอกสารที่จะมาสมัครเรียน

เมลิคไม่พูดอะไรก้มลงเก็บเอกสารแผ่นหนึ่งที่อยู่ข้างเท้าก่อนจะส่งไปให้อีกคน คนตัวเล็กที่เก็บเอกสารทุกอย่างเสร็จเหลือแผ่นที่อยู่กับคนแปลกหน้าก็ลุกขึ้นมาและรับมันไว้

“ฮึก ขอโทษนะครับ...ขอโทษ..” ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาจนเมลิคมองหน้าอีกคนไม่ชัดรู้เพียงแค่ว่าถ้าผู้ชายคนนี้ไม่มีน้ำตาบนหน้าคงจะหน้ารักไม่น้อย...

โรงเรียนอะไรน่ะ ไม่เคยเห็น...

“ผม..ขอโทษ”

“อย่าเอาแต่พูดขอโทษ น่ารำคาญ” ร่างสูงตอบอย่างไม่ใส่ใจ นี่คือตัวจริงของเมลิค เยือกเย็น สุขุม และ...โหดร้าย

ร่างสูงเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดผ่านมือถือ

“ฮึก ผิง เรา ฮึก เจอคนน่ากลัว...ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ เนม..ฮึก เนมกลัว เนมอยากกลับบ้านแล้ว ฮึก ผิงมารับเนมหน่อยนะ...”เมลิคขมวดคิ้วไม่ชอบใจที่อีกคนเอาแต่ร้องไห้แต่ก็ไม่คิดจะสนใจอะไรนัก ร่างสูงนึกถึงใบหน้าหวานของเฮเลนแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาก็เดินต่อ..

มายเนมที่คุยกับเพื่อนอยู่มองซ้ายมองขวาอย่างคนระแวง

“เนม เรากำลังไป เนมไม่ต้องขยับไปไหนนะเรากับเพื่อนๆ กำลังไป” ปลายสายว่าพร้อมกับเสียงวิ่งอย่างร้อนรน คนตัวเล็กสะอื้นไห้แล้วมองซ้ายมองขวา ไม่นายเพื่อนรักทั้งสองก็มาถึง

“ฮื้ออ!!” มายเนมวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนผู้หญิงทั้งสองด้วยหัวใจที่พองโตรู้แล้วว่าตัวเองคงจะปลอดภัย ผิงกอดปลอบเพื่อนรักอยู่นานจนคนตัวเล็กหยุดร้องไห้

“เนม ไหนขอผิงดูหน้าหน่อย” ผิงเพื่อนของมายเนมจับใบหน้าหวานเชิดขึ้นมา ไอซ์เพื่อนอีกคนรีบเอาทิชชูมาซับน้ำตาให้

“เห้ยเนม! แดงขนาดนี้เลยหรอ!” ผิงร้องอย่างตกใจ

“ฮึก”

“ไหนขอดูหน่อย เห้ย! ทำแบบนี้ได้ไงวะ...ผิงเอาไง” ไอซ์หันมามองหน้าเพื่อน ผิงทำหน้าไม่พอใจมือเรียวกำไหล่เพื่อนแน่นอย่างไม่รู้ตัว

“กูไม่ไหวแล้วนะ เนมไม่ได้ทำอะไรทำไมเบียร์ต้องทำแบบนี้วะ แม่งเล่นตบกันในสถานที่แบบนี้ได้ไง กูจะไปตบมัน” ผิงว่าอย่างเด็ดขาด มายเนมที่ได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าไปมาสะอื้นไห้อีกครั้ง

“ฮึก อย่า ผิงอย่าง เราขอ..ฮึก”

“แต่...” เพื่อนสาวทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ

“คุณเฮเลนคะ รับของหวานต่อมั้ยคะ?” แม่บ้านสาวคนสนิทเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม เฮเลนส่ายหน้าไปมา

“ไม่เอาครับ ผมอยากขึ้นห้องแล้ว ครามเดี๋ยวพรุ่งนี้มาปลุกด้วยนะ” ครามเลิกคิ้วงงๆ

“ทำไมขึ้นห้องเร็วจัง” เฮเลนชะงักก่อนจะตอบอ้อมแอ้ม...

“ไป...ฝึกวาดรูปน่ะ” คนตัวเล็กว่าแล้ววิ่งขึ้นห้องทันที เฮเลนไม่อยากบอกครามเรื่องของเมลิคเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเป็นกังวล คุณหนูเฮเลนวิ่งขึ้นมาในห้องก็รีบล็อคห้องและกระโดดขึ้นเตียงก่อนจะหยิบมือถือมารอสายอีกฝ่ายทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าอีกคนจะโทร.มารึเปล่า

เวลาผ่านไปจนเลยเวลานอนของคนตัวเล็ก เฮเลนหันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงคืนคนตัวเล็กก็ถอนหายใจ

“เรา...รออะไรนะ” คนตัวเล็กพูดอย่างไม่เข้าใจตัวเองแล้วเก็บมือถือก่อนจะปิดไฟและหลับตานอน แต่ในเวลานั้นเอง

Rrrrrrrrr

เสียงเรียกเข้าจากมือถือก็ทำให้คนตัวเล็กรีบหยิบมันขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกที่ปกติเขาจะไม่รับแต่พอคิดว่าอาจจะเป็นเมลิคเฮเลนก็กดรับสายทันที

“สะ สวัสดีครับ...” คนตัวเล็กกรอกเสียงลงไปอย่างเกร็งๆ

“พี่เฮเลน..รึเปล่า?” เมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ตอบกลับมาเฮเลนก็ยิ้มกว้าง

“อื้อ...”

หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มความสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ เฮเลนใช้ชีวิตอยู่กับการออกแบบชุดต่างๆ เพื่อขายให้กับห้องเสือเป็นการฝึกงาน ส่วนเมลิคเองก็ทั้งเรียน สอบ ทั้งสองใช้เวลาว่างในตอนดึกเพื่อคุยกัน เฮเลนชอบที่จะมองร่างสูงเวลาอ่านหนังสือผ่านมือถือแต่ชอบมากกว่าคือการที่เขาได้ไปนั่งข้างๆ เมลิคเวลาที่อีกคนอ่านหนังสือสอบ....

“มองอะไร หื้ม?” เมลิคทำเสียงทะเล้นแล้วมองอีกคนผ่านวิดีโอคอล เฮเลนทำแก้มป้องใส่

“มองเด็กที่เอาแต่อ่านหนังสือไม่ยอมพูดไม่ยอมจา” เมลิคหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะปิดหนังสือ

“ไม่อ่านแล้ว”

“ไม่เอาซิ ไม่ได้ว่าเลย อ่านต่อก็ได้ใกล้สอบแล้ว” เฮเลนว่าด้วยน้ำเสียงสีหน้าตื่นตกใจ เมลิคส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้ม

“ไม่เอา อยากมองคนตรงหน้ามากกว่า” เฮเลนกลั้นยิ้มเขินก่อนจะแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย

“พี่เฮเลน” คนตัวเล็กชะงักเมื่ออีกฝ่ายเรียกว่าพี่ เพราะปกติหลังจากที่รู้จัก คุยกันมานานกว่าสามเดือน มีน้อยมากที่เมลิคจะเรียกเฮเลนว่าพี่ จะเรียกก็ต่อเมื่อขออะไรบางอย่างเท่านั้น

“อะไรหรอเมลิค”

“ถ้ารอบนี้ผมสอบผ่าน...ขอของขวัญได้มั้ย?” เฮเลนหัวเราะมองใบหน้าคมที่ดูจะเลิ่กลั่ก

“ขออะไรเป็นเด็ก”

“ก็ผมเด็กกว่า” เฮลนอมยิ้มและทำท่าคิด

“อื้ม...ไม่เอาสอบผ่าน เอาเป็นว่า ถ้าสอบได้คะแนนสูงที่สุดจะให้อะไรก็ได้ที่เมลิคอยากได้” อีกฝ่ายที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างก่อนจะชะงัก

“สูงสูดเลยหรอ”

“อื้อ!” เมลิคหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้า

“ตกลง! ถ้าผมสอบได้คะแนนสูงสุดพี่ต้องให้สิ่งที่ผมอยากได้นะ” เฮเลนพยักหน้า

“แล้วอยากได้อะไรล่ะ?” เมลิคไม่ตอบหยักไหล่กวนๆ ใส่จนเฮเลนทำแก้มป่อง

เพราะว่าเฮเลนกับครามฝึกงานคนละที่ ทำให้เวลาแปดเดือนที่ทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลาแปดเดือนที่เฮเลนได้ออกมาเจอกับเมลิคโดยไม่ต้องให้ครามรู้ เพราะถ้าครามรู้...แม่ก็รู้!

ทั้งสองจะนัดเจอกันบ่อยๆ ในวันหยุดที่เมลิคหยุดเรียน บางครั้งก็ไปเที่ยวห้าง เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ถ่ายภาพบันทึกความทรงจำ หรือไม่ก็พากันไปหาที่เงียบๆ อ่านหนังสือและทำงาน ทุกๆ อย่างล้วนทำให้ทั้งสองมีความสุข และยิ้มไปกับมันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เมลิคเองเขาไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันที่ยิ้มกว้างและมีความสุขขนาดนี้ เฮเลนเองก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งเขาจะได้มีความสุขโดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องต่างๆ ทั้งสองมอบความรักที่บริสุทธิ์ให้แก่กันและกันโดยไม่หวังผลตอบแทน

แต่ถึงอย่างนั้น...

“ผลสอบออกแล้วนะ ได้คะแนนสูงสุดจริงๆ ด้วย” เมลิคว่าอย่างดีใจแล้วยื่นใบประกาศผลสอบให้กล้องเห็นชัดๆ เฮเลนพยักหน้า

“แล้วอยากได้อะไรล่ะ?”

“พรุ่งนี้มาเจอกันได้มั้ย ที่เดิม” เมลิคว่าพร้อมรอยยิ้ม เฮเลนชะงักใบหน้าหวานดูหง๋อยลงไป

“พรุ่งนี้ครามอยู่...คงไปไม่ได้ เมลิคก็รู้นี่” เมลิคได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ

“ก็แอบๆ มาไม่ได้หรอ บอกว่ามาคุยกับลูกค้า คุยเรื่องขายแบบชุดก็ได้นี่” เฮเลนส่ายหน้า

“ไม่ได้หรอก พรุ่งนี้วันเกิดครามด้วย สัญญากับครามแล้วว่าจะอยู่ด้วยทั้งวัน” เมื่อได้ยินแบบคนร่างสูงก็ทำหน้าไม่พอใจ

“แต่พี่บอกว่าจะให้ของขวัญผม พี่สัญญาแล้ว!”

“แต่....ไว้วันอื่นไม่ได้หรอ นะเมลิค ถ้าเป็นวันอื่นพี่มีเวลาให้เราทั้งวันเลย” เมลิคขบฟันแน่น

“ไม่เป็นอะไร” ร่างสูงพูดเสียงเย็นแล้วกดตัดสายทันทีก่อนจะปิดเครื่องหนี

มือหนากำกล่องผ้ากำมะหยี่ในมือแน่น

“พี่จำไม่ได้หรอ...ว่าพรุ่งนี้วันเกิดผม” เมลิคนั่งกอดเข่ามองกล่องกำมะหยี่อย่างน้อยใจ ก่อนจะเปิดขึ้นมา มันเป็นกำไรข้อมือที่เขาสั่งทำเพื่อให้คนตัวเล็ก และเขาตั้งใจที่จะขอเฮเลนเป็นแฟนหลังจากที่ทั้งสองคุยกันมานานหกเดือน

“แม่ง....อะไรๆ ก็คราม...กูคงไม่ใช่คนสำคัญเท่ามันไง” เมลิคว่าก่อนจะโยนกล่องนั้นทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี...

100%

#โปรดติดตามตอนต่อไป..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel