ตอนที่3 ทุกอย่างที่เข้ามา
ณ โรงพยาบาล
ใบหน้าเศร้าของณิชาเผยออกมาหลังจากที่นำบิดาส่งโรงพยาบาล คนตัวเล็กก็เอาแต่นั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความกลัวมากมายที่กำลังก่อเกิดขึ้นมา เธอกลัวเหลือเกินว่าคนที่เธอรักที่สุดจะไม่ได้อยู่กับเธอ กลัวว่าในชีวิตจะไม่เหลือใครอีกแล้ว น้ำตาหยดใสไหลออกมาไม่ขาดสายไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่อับอายผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างนี้ ภายในใจของเธอได้แต่ภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาช่วยให้บิดาของเธอรอดพ้นปลอบภัย จนกระทั่งร่างสูงของหมอวัยกลางคนเดินออกมาก็ทำให้คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นถลาไปหาคุณหมอทันที
"ฮึก พ่อของชาเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ"หมอศุภรุจมองญาติคนไข้ด้วยความสงสาร เพราะเขาเจอเธอมานานหลายปีแล้ว บิดาของณิชาอยู่ในความดูแลของเขานั่นเอง
"ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ แต่ก็ต้องดูอาการแทรกซ้อนทีหลังว่าจะเกิดขึ้นรึเปล่า หมออยากให้คนไข่ผ่าตัดอีกครั้งแต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าค่ารักษาไม่ใช่น้อยๆ เลย หมอพยายามหาทางช่วยแต่ต้องรออีกนานหลายปีเกรงว่าคนไข้จะทนไม่ไหว"
"ค่ารักษาประมาณเท่าไหร่คะคุณหมอ"
"หมอพูดตามตรงรวมต่างๆ แล้วก็เกือบล้าน"เพราะโรคที่นายสุพจน์เป็นไม่ใช่โรคที่ใครจะเป็นง่ายๆ ที่ผ่านมาเขาแจ้งไปหลายรอบแล้วว่าหนทางการรักษาอีกหนึ่งวิธีคือการผ่าตัดซึ่งค่ารักษาก็มากมายจริงๆ เขาพยายามหาทางช่วยเหลือเอาชื่อคนไข้เข้าโครงการต่างๆ แต่ก็ต้องรอเกือบสามปีเกรงว่าถ้ายื้อไปนานกว่านี้คนไข้คงไม่ไหว
"ล้านเลยเหรอคะ"คนตัวเล็กตกใจไม่น้อย เธอบีบมือเข้าหากันแน่นพยายามคิดหาทางที่จะหาเงินมากมายมารักษาบิดาแต่ก็ไม่ง่ายเลย ในระหว่างที่ยืนพูดคุยอยู่เสียงโทรศัพท์ของหมอศุภรุจก็ดังขึ้นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดรับสายทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของรุ่นพี่คนสนิท
"ครับ"
"(ฉันอยากหาผู้หญิงมาอุ้มบุญหลานของฉัน นายพอมีใครแนะนำรึเปล่า ขอผู้หญิงที่สะอาดหน่อยนะ)"
"หมายความว่าไงครับ นี่ลูกชายพี่ไม่ยอมมีเมียจริงๆ เหรอครับเนี่ย"เพราะก่อนหน้าได้ยินรุ่นพี่บ่นให้ฟังว่าลูกชายคนเดียวของรุ่นพี่คนสนิทไม่ยอมมีภรรยามีทายาทสักที เขาก็แค่พูดถึงเรื่องนี้ออกไปขำๆ ไม่คิดว่าวันนี้ท่านคณินจะเอาจริง
"(ใช่ ขืนฉันรอมันมีเมียมีหลานฉันตายก่อนแน่นอน)"
"แบบนี้ลูกชายพี่จะยอมเหรอครับ นิสัยเป็นยังไงใครๆ ก็รู้"
"(เดี๋ยวฉันจัดการเองเรื่องนี้ ที่โทรมาเพราะต้องการให้นายช่วยหาผู้หญิงให้ก่อน ฉันให้ค่าจ้างล้านนึง แต่ถ้าหลานคนแรกของฉันเป็นผู้ชายฉันจะให้อีกล้านเป็น 2 ล้าน)"ท่านคณินพูดออกไปโดยนำเสียงจริงจังทำให้หมอวัยกลางคนเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าที่ยังคงร้องไห้อยู่นั้นมันก็ทำให้เขาคิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมโทรกลับนะครับ"เขาพูดจบก่อนจะวางสาย
"หนูชาไปคุยกับหมอในห้องหน่อยหมอมีเรื่องจะคุยด้วย"
"ได้ค่ะคุณหมอ"
หญิงสาวเดินตามหมอวัยกลางคนที่คอยรักษาบิดาเธอมานานหลายปี สิ่งที่หมอวัยกลางคนเคยทำให้มันทำให้เธอสำนักบุญคุณไม่น้อย บางครั้งเธอก็หาเงินไม่ทัน ค่ารักษาบางอย่างก็มีหมอศุภรุจคนนี้นี่แหละที่ช่วยเหลือ
"หมอจะไม่พูดอ้อมค้อมนะ ถ้าหนูชาอยากมีเงินรักษาพ่อ มันก็มีทางอยู่"
"ทางอะไรคะ"คนตัวเล็กเหมือนมีความหวังขึ้นมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่ทว่าพอเห็นสีหน้าดีใจของหญิงสาวมันก็ทำให้หมอวัยกลางคนชะงักไปเล็กน้อย ทบทวนว่าควรจะพูดออกไปดีไหม
"คุณหมอพูดออกมาได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรถ้ามันเป็นทางเดียวที่สามารถหาเงินมารักษาพ่อได้ชาก็จะทำ"เมื่อรับรู้ถึงสีหน้าวิตกกังวลมันก็ทำให้หญิงสาวพูดย้ำออกไปอีกครั้ง
"เอาล่ะ รุ่นพี่ที่หมอนับถือต้องการหาผู้หญิงอุ้มท้อง แน่นอนทุกอย่างทำโดยทางการแพทย์ หน้าที่ของหนูชาก็คือการอุ้มท้องให้ทายาทแลกกับเงิน 1 ล้านบาทแต่ถ้าเด็กในท้องเป็นผู้ชายหนูชาจะได้อีก 1 ล้านบาท"
"อะ อุ้มท้องเหรอคะ"นับว่าสิ่งที่ได้ยินมันทำให้เธอตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้ อุ้มท้องนั่นหมายความว่าเธอต้องมีลูกนั่นเอง
"ถ้าหนูชาไม่สะดวกใจที่จะทำก็ปฏิเสธมาได้เลย"พอเห็นหญิงสาวมีท่าทีอึดอัดหมอวัยกลางคนจึงพูดออกไปแต่ทว่าคนตัวเล็กที่กำลังขบคิดไตร่ตรองอยู่ในใจนั้นจู่ๆเธอก็สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนที่เธอจะเงยหน้ามองยังหมอวัยกลางคน
"ชาทำค่ะ ถ้าบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามทางการแพทย์ ชาก็จะทำ"ถึงแม้เธอจะมีคนรักมาก่อนแต่ทว่าความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่มก็ไม่เคยลึกซึ้งไปมากกว่ากอดจูบกัน ถ้าการอุ้มบุญทุกอย่างเป็นไปตามทางการแพทย์เธอก็ยอมเพื่อแลกกับเงินจำนวนนั้นที่ในชีวิตเธอคงหาไม่ได้
"หนูชาแน่ใจใช่ไหม"
"ค่ะคุณหมอ ชาแน่ใจ"เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับการที่ได้มีเงินมารักษาบิดา ต่อให้จะเป็นการทำเรื่องที่เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะทำก็เถอะ
"งั้นหมอจะคุยให้ หนูชาไม่ต้องเป็นห่วงรุ่นพี่หมอเขาเป็นคนมีเงินมีหน้ามีตาในสังคมไม่ใช่พวกมิจฉาชีพอะไรพวกนั้นหรอก หมอรับประกันได้"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ"พอได้ยินอย่างนั้นคนตัวเล็กก็มีความหวังขึ้นมาแล้ว บางทีถ้าผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีบิดาเธอก็คงจะหายขาดจากโรคร้ายนี้
อีกด้านของบ้านหลังใหญ่
หลังจากที่ท่านคณินได้รับสายจากรุ่นน้องคนสนิทว่ามีผู้หญิงแนะนำมาอุ้มบุญให้แล้ว มันก็ทำให้ความหวังอันริบหรี่ส่องสว่างขึ้นมาอีกครั้ง เขาอยากมีหลานจริงๆ ถ้าหลานชายก็ยิ่งดีหลานสาวก็ไม่แย่ แต่เอาจริงๆ หลานคนแรกก็อยากได้ผู้ชายนั่นแหละ ยิ่งพอได้ยินว่าผู้หญิงคนที่เพื่อนรุ่นน้องแนะนำมาให้เป็นคนดี แถมชีวิตน่าสงสารเขาก็ยิ่งอยากจะช่วยเหลือเหมือนกัน ถ้าหากเธออุ้มท้องหลานของเขาอย่าว่าแต่เงินล้านนึงเลยค่ารักษาพ่อของเธอท่านคณินก็จะจัดการให้เอง
เสียงรถหรูที่เลี้ยวเข้ามาจอดทำให้ชายวัยกลางคนที่กำลังอารมณ์ดีอยู่นั้นหันไปมองบุตรชายทันที ท่าทางของคนเป็นพ่อทำให้คุณานนท์เลิกคิ้วสูงขึ้นอย่างสงสัยที่เห็นบิดาดูอารมณ์ดีอย่างนี้
"มานั่งก่อนสินนท์"
"ครับ พ่อมีอะไรรึเปล่าหรือไปเจอเพื่อนคนไหนขิงมาอีก"
"เหอะ วันนี้พ่อไม่ได้ออกไปไหนไม่มีใครมาขิงอะไรหรอก แต่พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับนนท์"
"เรื่องอะไรครับ"ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน มองใบหน้าบิดาด้วยสีหน้าจริงจังทันที เพราะคำว่ามีเรื่องจะคุยกับเขานั้นต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน
"พ่ออยากให้นนท์มีลูกกับผู้หญิงอุ้มบุญที่พ่อหามาให้ ทุกอย่างทำโดยทางการแพทย์"
"อะไรนะครับ นี่พ่ออยากมีหลานขนาดนั้นเลยเหรอ"เรื่องที่ได้ยินทำให้ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าบิดาจะจริงจังขนาดนี้
"เออสิวะ พ่อแก่ขนาดนี้แล้วนะ ถ้าลูกไม่คิดที่จะมีครอบครัวก็มีหลานให้พ่อ"
"ไปจ้างมาเท่าไหร่ครับเนี่ย แล้วพ่อแน่ใจมากแค่ไหนที่ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนมาไม่รู้จะให้มาเป็นแม่อุ้มบุญลูกของผม"
"เออจะเท่าไหร่ก็ชังเถอะ พ่อต้องการได้ยินว่านนท์จะยอมทำตามที่พ่อต้องการรึเปล่า ในชีวิตพ่อเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรแล้วเหลืออย่างเดียวนี่แหละคือหลานสักคนก่อนที่พ่อจะตาย"คำพูดมากมายของชายวัยกลางคนทำเอาชายหนุ่มชะงักไปทันที เพราะยังเจ็บปวดกับความรักมันทำให้เขาไม่อยากจะมีครอบครัวหรือแต่งงานกับผู้หญิงคนไหน พอมาได้ยินคำขอร้องของบิดาก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนกัน
"ถ้างั้นก็แล้วแต่พ่อเถอะครับ อย่าให้มีปัญหาตามมาทีหลังก็พอ ผู้หญิงคนนั้นมีหน้าที่อุ้มบุญลูกของผมแค่นั้น จะไม่มีสถานะเกี่ยวข้องกับผม"
"จริงนะลูก"
"ครับ ผมเองก็อยากให้พ่อสมหวังเหมือนกัน รอผมมีเมียคงหมดหวัง"
"นี่ลูกไม่ได้เป็นเกย์ใช่ไหม"ท่านคณินถามขึ้นอีกครั้ง มันอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ที่ลูกชายของเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนแบบนี้
"ไม่ได้เป็นครับ อันที่จริงเรื่องผู้หญิงก็มีบ้างนะแต่พ่อไม่เคยรู้อีกอย่างผมเองก็ไม่เคยคิดจริงจังอะไร ผมคงเป็นพวกไม่เชื่อในความรักมั้งครับ"ถึงเขาจะไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนเลยแต่เวลาเครียดๆ ไปเที่ยวหรืออะไรกับพวกกลุ่มเพื่อนเขาก็มีผู้หญิงขึ้นเตียงด้วยตลอดอาจจะแค่ไปไม่ได้บ่อยอะไรขนาดนั้นก็เท่านั้นเอง
"ได้ยินแบบนั้นพ่อก็สบายใจ แค่รู้ว่าลูกยอมมีหลานให้พ่อก็ดีใจแล้ว เดี๋ยวยังไงจะนัดให้แม่หนูคนนั้นมาเจอลูกก็แล้วกัน"
"เจอกันวันที่ไปปรึกษาหมอก็ได้ครับ ผมไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว"
"ไม่อยากทำความรู้จักหน่อยเหรอ"
"ไม่จำเป็น ผู้หญิงที่ยอมอุ้มบุญให้กับคนที่ไม่เคยรู้จักไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเห็นแก่เงิน ซึ่งเป็นผู้หญิงประเภทที่ผมเกลียดที่สุด แต่ที่ผมยอมก็เพราะว่าพ่อก็เท่านั้นเอง"
"เฮ้อ ได้ๆ เจอกันวันนั้นก็ได้"
