บทที่ 4. ถึงเวลาแล้ว
“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนคุณก็มีผู้หญิงมากมาย”
“มันไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนที่ฉันไม่แตะต้องเธอ เพราะต้องการอยากให้เวลาเธอ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะเป็นผัวเมียกันจริงๆ หญิง”
“ที่ผ่านมาคุณยังทนได้และไม่แตะต้องฉัน เวลาคุณต้องการ คุณก็ไปกับผู้หญิงคนอื่น ทำไมไม่ทำแบบนั้น”
“ก่อนหน้าฉันยอมรับว่าฉันมีผู้หญิงข้างนอก และสามปีมานี้ ฉันก็ไม่เคยขาดเรื่องนี้ แต่ฉันก็ไม่ได้ต้องการผู้หญิงพวกนั้นเหมือนต้องการเมียของตัวเองนี่ ฉันอยากแตะต้อง อยากสัมผัส อยากครอบครองเธอ อยากเป็น ‘ผัว’ เธอไม่ใช่ผัวแค่ในทะเบียนสมรส รู้ไหม”
เขาพูดมาได้ไม่อายปาก พูดเต็มปากเต็มคำว่าที่ผ่านมาเขาก็ยังคงมีผู้หญิงอื่น ร่างกายของเขามันสกปรกและน่าขยะแขยงที่สุด
“คุณมันน่าขยะแขยงที่สุดคุณแสบ” หล่อนเอ่ยตอบสวนกลับด้วยความเจ็บปวด ไม่เข้าใจคิดว่าสามปีที่ผ่านมา เธอจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่พอได้ยินเขาพูดก็ทำให้ใจของเธอเจ็บหน่วงและรู้ได้ทันทีว่าสามปีที่จากไปไม่ได้ทำให้เธอลืมคนเหนือร่างได้แม้แต่น้อย ความเจ็บปวดเดิมยังคงอยู่ มันไม่ได้จากไปไหน มันยังติดอยู่ในใจ มือน้อยผลักดันหน้าอกแกร่ง ผลักไสให้ออกพ้นจากร่างตนเอง แต่ก็เหมือนผลักกำแพงเนื้อ เขาไม่ขยับเขยื้อนตามแรงผลักแม้แต่น้อย
“น่าขยะแขยงงั้นเหรอหญิง” แสบถามทวนคนใต้ร่างซ้ำอีกครั้ง และเห็นหล่อนเม้มปากแน่น เขาก็ขบกรามแน่นด้วยความเดือดดาล เธอรังเกียจเขา
“ใช่ ฉันมันน่าขยะแขยง น่ารังเกียจ แต่ยังไงซะ เธอก็เป็นเมียฉันและฉันเองก็เป็นผัวเธอ แม้จะแค่ในทะเบียนสมรสก็เถอะ แต่หลังจากนี้ฉันจะเป็นผัวเธอเต็มสูตร อีกอย่างถ้าเธอยอมฉัน ฉันไม่ไปมีคนอื่นหรอก ฉันจะนอนแค่กับเธอคนเดียว มี ‘เซ็กซ์’ แค่กับเธอคนเดียวเด็กน้อย อะ...อื้อ” แล้วเขาก็ก้มหน้าลงปิดปากน้อยที่กำลังขยับจะเอ่ยตอบโต้สวนกลับตนเอง
“อะ...อื้อ” หล่อนเบิกตากว้างตกใจพร้อมกับมือทุบอกแกร่งพร้อมผลักไสให้ร่างใหญ่ออกห่างและหยุดจูบตนเอง ตอนนี้เรียวลิ้นสากอุ่นร้อนของแสบดุนดันทะลวงเข้ามาในโพรงปากของเธอ ไล่ต้อนเรียวลิ้นเล็กจนจนมุมแล้วก็ตวัดรัดคลึงเรียวลิ้นของหล่อนดูดคลึงในโพรงปาก
“อะ..อื้อ” ความหวานของภรรยามันหวานแบบนี้เอง ไม่เคยคิดว่ามันจะหวานละมุนแบบนี้ เรียวลิ้นสากดูดคลึงเรียวลิ้นของหล่อนตักตวงความหวานในปากน้อยช่างต่อปากต่อคำของเธอ
“อะ...อื้อ” จะเรียกว่านี่คือจูบแรกก็ได้ ถ้าไม่นับจูบแรกในวันเข้าพิธีแต่งงานกัน จูบครั้งนั้นเป็นเพียงแค่ริมฝีปากหนาแตะริมฝีปากบางอ่อนนุ่มของเธอเท่านั้น แต่ครั้งนี้เป็นการจูบแบบสอดลิ้นเข้ามาจนเธอแทบจะหมดลมหายใจ เธอหอบเหนื่อย เมื่อถูกปากหนาอุ่นร้อนบดจูบหนักหน่วงขึ้น สองมือที่ทุบตีอกแกร่งก็ถูกมือใหญ่จับรวบด้วยมือเดียวแล้วดึงรั้งไว้เหนือหัว
ร่างเล็กอ่อนระทวยใต้ร่างกับรสจูบดุดันของคนเหนือร่าง ตอนนี้เธอไร้แรงต่อต้านและจะดิ้นขัดขืน และยิ่งเรียวลิ้นอุ่นร้อนดูดคลึงเรียวลิ้นตนเองในโพรงปากเป็นจังหวะก็ยิ่งทำให้ลมหายใจของเธอขาดห้วงติดขัดจนจะสิ้นลมไปเพราะจูบก็ว่าได้
“อ่า...หญิง ฉันเฝ้ารอวันนี้มานานแค่ไหนรู้ไหม ฉันจินตนาการตอนเราอยู่บนเตียงด้วยกันมาตลอดแม้ว่าจะห่างกัน รู้ไหมว่าฉันอยากมีวันนี้กับเธอมากแค่ไหนทูนหัว อื้ม...” เขาผละปากหนาออกมาเอ่ยเป่ารดลมหายใจกับใบหน้าสวยหวานของภรรยาใต้ร่างที่จ้องมองหน้าตนเองอยู่เช่นกัน
“ป่าเถื่อนที่สุด อ่า...อื้อ” แล้วปากน้อยก็ถูกปากหนาครอบครองอีกครั้ง ครั้งนี้ต่างจากครั้งแรก จูบครั้งนี้ให้ความรู้สึกต่างจากก่อนหน้า ก่อนหน้ามันเต็มไปด้วยอารมณ์เดือดดาลและโหยหา แม้จะเป็นครั้งแรก แต่หล่อนก็สัมผัสได้จากริมฝีปากหนาที่บดขยี้กลีบปากตน
พอหล่อนอ่อนระทวย แสบก็เริ่มขั้นตอนต่อไป จากจูบแล้วก็ต้องเป็นสำรวจร่างกายของภรรยาจอมดื้อของตน จากเด็กสาวไร้เดียงสาขี้อายในวันเข้าพิธีแต่งงาน มาวันนี้เปลี่ยนไป ดูเป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นใจขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเด็กสาวไร้เดียงสาหรือสาวมั่น จะแบบไหน เขาก็ชอบทั้งนั้นขอแค่เป็นเธอคนนี้
หญิงพยายามจะดิ้นรนต่อต้านขัดขืน แต่มือทั้งสองถูกจับรวบตรึงรั้งไว้เหนือหัว มีเพียงตัวที่บิดส่ายไปมา และขาทั้งสองก็พยายามดุนดันตัวเองหนีจากใต้ร่างใหญ่ของสามี แต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งอ่อนระทวยไร้แรงขัดขืน เพราะถูกปากหนาพรากเรี่ยวแรงด้วยการจูบไปแล้ว
“อ่า...อื้ม” ยิ่งได้สัมผัสลิ้มรสของภรรยาตัวน้อยใต้ร่าง แสบก็ยิ่งห้ามตัวเองไม่ได้ มันเป็นเวลาที่รอคอยยาวนานแสนนานเหลือเกิน พอได้สัมผัสแตะต้องสูดดมกลิ่นกายสาวเจ้าก็ทำให้เขาปวดเกร็งไปทั่วเอ็นร้อนที่ซุกซ่อนอยู่กลางหว่างขาจนไม่อาจจะใจเย็นลีลาได้อีก มือใหญ่ข้างที่ว่างก็จัดการปลดเปลื้องถอดเสื้อผ้าตัวหนาที่หล่อนสวมใส่มาจากต่างประเทศออก เพียงเวลาไม่นานพริบตาเดียวหญิงก็เปลือยเปล่า ไร้อาภรณ์ปิดบังเนื้อหนังของตนเอง แม้แต่ชุดชั้นในก็ถูกจัดการถอดโยนทิ้งด้วยเช่นกัน
