บทที่ 2.กลับมาสักที
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถก็พาทั้งสองกลับมาถึงบ้าน บ้านที่เป็นเรือนหอของพวกเขาตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว พอรถจอดสนิทและดับเครื่องยนต์ประตูรถก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ลงรถไปก่อน ส่วนหญิงก็ได้แต่มองดูบ้านหลังใหญ่ที่ตนจากไปเมื่อสามปีก่อนและไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่จะได้กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกครั้ง
“ถึงบ้านเราแล้ว”
“บ้านของคุณค่ะ ไม่ใช่บ้านฉัน” เธอตอบกลับ แต่ก็ยอมก้าวขาลงจากรถ แล้วแม่บ้านสองคนที่อยู่ดูแลบ้านก็พากันเดินออกมาจากบ้านเพื่อทักทายทั้งสองพร้อมกับนำกระเป๋าเดินทางของนายหญิงของบ้านเข้าไปเก็บในบ้าน
“น้าคะ ไม่ต้องเอากระเป๋าฉันเข้าบ้านค่ะ เพราะเดี๋ยวคุยเสร็จ ฉันก็จะกลับบ้านตัวเองค่ะ” หญิงบอกแม่บ้าน
“ไม่ต้องไปสนใจเธอครับน้าใจ น้าแข เอากระเป๋าเธอไปเก็บไว้ในห้องนอนของผม” เมื่อเห็นว่าแม่บ้านทั้งสองที่ตนเพิ่งจ้างมาเมื่อต้นปีลังเลว่าจะนำกระเป๋าข้าวของของภรรยาของเขาเข้าบ้านดีไหมก็รีบสั่งย้ำและทั้งสองก็รีบทำตามคำสั่งของเจ้าของบ้านอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลแบบตอนแรก
“เอ๊ะ! คุณแสบ ทำไมคุณพูดไม่เข้าใจแบบนี้คะ”
“เธอต่างหากไม่เข้าใจ เข้าไปคุยกันในบ้าน ส่วนสมคิดก็กลับได้เลยนะ วันนี้ฉันไม่มีงานอะไรแล้วใช่ไหมนอกจากเรื่องเมียฉันตอนนี้”
“ไม่มีแล้วครับท่านประธาน” สมคิดตอบแล้วรีบเดินออกจากตรงนี้เพื่อจะไปหน้ารั้วใหญ่ของบ้านเพื่อจะเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านของตน
“ทำไมยังไม่เข้าบ้าน หรือรอให้ฉันอุ้มฮึ” เขาเห็นว่าหล่อนยังยืนนิ่งที่เดิมไม่ยอมเดินเข้าบ้านจึงย่อตัวตวัดแขนจะรวบร่างเล็กช้อนอุ้ม แต่เธอก็รีบสะบัดหน้าเดินเร็วๆ เข้าบ้านไป
หึหึ
แสบเดินตามร่างเล็กที่เดินลงส้นเท้าเข้าไปในบ้านนำหน้าตนพร้อมกับสองมือล้วงกระเป๋ากางเกง อยากรู้นักว่าหล่อนจะหนีไปไหนได้อีก สามปีมันก็มากพอแล้วกับการเล่นสนุกเป็นเด็ก เมื่อเธอบอกว่าเขาพรากชีวิตวัยรุ่นของเธอไป เขาจึงยอมแกล้งหย่าปลอมๆ กับเธอ วันนี้ก็ถึงเวลาที่เธอต้องกลับมาเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว เธอไม่ใช่ ‘อดีตภรรยา’ เพราะเขาไม่เคย ‘หย่า’ กับเธอ แต่เธอจะคิดว่าตัวเองเป็น ‘ภรรยาเก่า’ ตนและมองว่าเขาคือ ‘อดีตสามี’ ก็แล้วแต่จะคิด ก็ในเมื่อทะเบียนสมรสก็ยังคงอยู่
ภายในบ้านยังคงเหมือนเมื่อสามปีก่อน แม้จะจากไปสามปีแล้ว แต่ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ยงคงเป็นความทรงจำ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องจดจำทุกอย่างในช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนผยองคนนี้ด้วย ในบ้านยังคงมีรูปแต่งงานของเธอกับแสบติดอยู่ผนังห้อง ห้องโถงใหญ่ เดินเลยผ่านมาจนถึงห้องรับแขก เธอหย่อนก้นนั่งลงแล้วมองไปรอบๆ ห้องที่เป็นโต๊ะโชว์ก็เต็มไปด้วยรูปพรีเวดดิ้งของตนและอดีตสามี
“คุณต้องการอะไรคุณแสบ ทำไมถึงทำแบบนี้” เธอถามเมื่อนั่งลงและมองสำรวจห้องจนทั่วแล้ว
“ก็ต้องการเธอกลับมาอยู่ด้วยกันยังไงล่ะ”
“คุณบ้ารึเปล่า เราหย่ากันแล้ว”
“เรายังไม่ได้หย่ากัน ที่เซ็นไปเมื่อสามปีที่แล้วคือการหย่าปลอมๆ เท่านั้น ตอนนี้เธอยังคงเป็นเมียฉันเด็กน้อย” แสบดึงสองมือที่ล้วงกางเกงออกมาแล้วเดินตรงไปหาคนตัวเล็กที่นั่งบนโซฟา
“ไม่รู้แหละ ยังไงฉันก็ถือว่าเราหย่ากันแล้ว ตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วคุณแสบ” เธอพูดตอบกลับแล้วลุกขึ้นยืน แต่คนที่เดินมาหยุดตรงหน้ากลับผลักเธอให้ล้มลงไปนั่งอีกครั้ง
ตุ้บ!
“ทำอะไรของคุณ”
“เธอต้องอยู่ที่นี่ เพราะเนี่ยคือบ้านของเรา”
“ฉันไม่อยู่”
“ต้องอยู่ อย่าดื้อน่าหญิง ฉันให้เธอไปเที่ยวสามปียังไม่พออีกเหรอ เธอควรทำหน้าที่ของ ‘เมีย’ ได้แล้ว”
“ฉันไม่ใช่เมียคุณ อีกอย่างสำหรับฉันคือเราหย่ากันไปแล้ว ฉันไม่มีทางกลับมาใช้ชีวิตคู่กับคุณอีกแน่นอน”
“อย่าให้ฉันต้องใช้กำลังกับเธอหญิง”
“ฉันก็สู้เหมือนกัน มาสิ คิดว่าฉันจะนิ่งเฉยให้คุณรังแกงั้นเหรอ”
“เพิ่งรู้ว่าปล่อยเธออยู่ข้างนอกบ้านสามปีแล้วทำให้เธอปากเก่งกับฉันได้ขนาดนี้” เขาไม่อยากเชื่อว่านี่คือคนที่ตนแต่งงานด้วยเมื่อสามปีก่อน เมื่อก่อนหล่อนไม่กล้าแม้แต่จะสบตาตนเวลาคุยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ไม่หลบตา แถมยังจ้องตากลับอย่างเอาเรื่องด้วย ‘เธอโตแล้วเด็กน้อย’
“ฉันโตและรู้ว่าควรจะอยู่กับใคร และฉันก็ไม่มีทางเลือกคุณมาเป็นสามีแน่นอน เมื่อก่อนฉันแต่งงานกับคุณเพราะว่าเป็นความต้องการของผู้ใหญ่”
“อือ...ฉันก็เหมือนกัน แต่รู้ไหมว่าคนอย่างฉันไม่มีใครบังคับได้ ถ้าฉันไม่เต็มใจ ที่ฉันแต่งงานกับเธอ ฉันเต็มใจ” เขาพูดพร้อมโน้มตัวก้มหน้าลงไปใกล้หน้านวลเนียนจนลมหายใจเป่ารดใบหน้าสวยของคนตัวเล็กที่หดคอหนีไปด้านหลัง
“อย่ามาทำเหมือนเราสนิทกัน”
“แน่นอน เราเป็นผัวเมียกัน ยังไงซะ เธอก็ต้องอยู่ที่นี่กับฉัน บ้านหลังนี้ร้างนายหญิงมาสามปีแล้ว ตอนนี้เธอก็กลับมาแล้วควรจะอยู่ดูแลบ้านให้ฉัน”
“ฉันไม่ใช่แม่บ้าน”
“ใช่ แต่เป็นเมียของเจ้าของบ้าน และบ้านนี้ก็เป็นของเธอด้วยเด็กน้อย” เขาตอบสวนหล่อนทันควัน
“บ้าอำนาจ!”
“ไม่กล้าเถียง เพราะบ้าอำนาจจริง อะไรที่เป็นของฉัน มันก็ต้องเป็นของฉัน ไม่ว่าจะหายไปนานแค่ไหนหรือจากไปนานแค่ไหน ถ้าฉันต้องการ ยังไงก็ต้องเป็นของฉันเด็กดี” เขายื่นมือขึ้นจะลูบจับแก้มนวลเนียน แต่สาวเจ้ารู้ทันจึงยกมือตวัดปัดมือใหญ่ออก
เผียะ!
“รู้ทันแบบนี้ยังคิดว่าตัวเองจะไปเป็นเมียใครได้อีก นอกจากเมียฉัน หญิง”
หล่อนสบจ้องดวงตาสีทมิฬแล้วก็เม้มปากแน่น ได้ เมื่อเขาต้องการแบบนี้ เธอก็จะอยู่ที่นี่ เมื่อการหย่าในตอนนั้นเป็นแค่ฉากลวงเท่านั้น เธอก็จะทำให้เขายอมหย่าจริงๆ กับเธอ
“งั้นก็ให้สินสอดอีกครั้งสิ สิบล้าน กล้าไหมล่ะ?”
“เงินแค่สิบล้าน ขนหน้าแข้งผัวไม่ร่วงหรอกทูนหัว ให้ยี่สิบล้านว่าไง วันนี้ก็ขึ้นเตียงทำหน้าที่เมียด้วย จากที่ควรจะทำหน้าที่เมียตั้งแต่ตอนแต่งงานกันแล้ว”
เธอรู้ว่าเขานั้นรวยมากมีเงินมาก เงินสิบล้าน ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงจริงนั่นแหละ หล่อนไม่คิดว่าแสบจะยอมเสียเงินกับค่าสินสอดตัวเองรอบสองแบบนี้
แสบเห็นภรรยาสาวตนเงียบและหัวคิ้วขมวดใช้ความคิดก็แย้มยิ้มแล้วเอ่ยต่อ
“จัดงานแต่งงานอีกรอบก็ได้นะ จัดงานใหญ่กว่าเดิมก็ได้ เชิญแขกมาเยอะๆ ให้คนรู้กันทั่วว่าเธอเป็นเมียฉัน”
“มะ...ไม่ต้อง ขอแค่โอนเงินเข้าบัญชีฉันก็พอ อีกอย่างสิบล้านก็พอ อีกสิบล้านที่เพิ่มให้เก็บไว้เถอะ ฉันรู้ว่าคุณรวย”
“ก็นะ ฉันผัวเธอนี่ ไม่รวยจะมีเงินให้เธอผลาญเงินเล่นที่ต่างประเทศได้ตั้งสามปีเหรอ”
“หมายความว่ายังไง”
“เงินค่าเรียน ค่าเช่าบ้านและใช้จ่ายของเธอน่ะคือเงินผัวจ้ะที่รัก ไม่ใช่เงินพ่อตาแม่ยายอย่างที่เข้าใจหรอกนะ อีกอย่างไปทำงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารไทย มีเหรอจะได้เงินเยอะขนาดนั้นถ้าผัวไม่ช่วยเจ้าของร้านจ่ายเพิ่มให้อีกน่ะ”
ถึงว่าทำไมได้ค่าจ้างเยอะ ที่แท้เขานี่เองที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง แสดงว่าเรื่องทุกอย่างพ่อกับแม่เธอก็รู้กับเขาด้วยสิแบบนี้
เห็นหญิงสาวนิ่งเงียบไม่ตอบ ตนก็ทิ้งตัวนั่งลงเบียดข้างคนตัวเล็กแล้วตวัดแขนโอบหัวไหล่เล็กแล้วก็รั้งเธอเข้ามากอด ฉวยโอกาสจังหวะที่หญิงกำลังขบคิด
