บท
ตั้งค่า

Chapter 3 คุณอีกแล้ว

กิ่งกมลถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่าทำไมลลิตาถึงได้ไม่ชอบหน้าเธอนัก ถึงแม้จะอยู่คณะเดียวกันแต่ก็เรียนคนละสาขาวิชา ทว่าพอพบกันโดยบังเอิญหรือมีเหตุให้ต้องเรียนวิชาเดียวกัน ลลิตาก็ชอบจ้องเธอเขม็งแล้วทำสีหน้าเย็นชาใส่ เธอจำได้ว่าไม่เคยไปทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจเลยด้วยซ้ำ

“ใส่อะไรไว้เนี่ย” มือเรียวเปิดแง้มฝาลังออกดู พบว่าเป็นผ้าสีฟ้าพับใหญ่ “คงไม่หนักเท่าไหร่หรอกมั้ง”

น้ำหนักของลังไม่มากอย่างที่คิด แต่ว่าด้วยขนาดของลังที่ใหญ่ เวลายกขึ้นมามันเลยบดบังหน้าเธอจนมิด หญิงสาวยกลังไปอย่างทุลักทุเล ครั้นมาถึงหน้าลิฟต์ก็วางลงแล้วกดเรียกลิฟต์

ทินกรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่ถืออยู่ในมือเมื่อลิฟต์มาหยุดลงที่ชั้นสี่ หญิงสาวในชุดนักศึกษายกลังกระดาษที่ขนาดใหญ่กว่าตัวคนถือเดินเข้ามาในลิฟต์ เขาขยับไปยืนเสียจนแทบจะติดผนัง ลิฟต์สำหรับพนักงานของบริษัทไม่ได้กว้างมาก เข้าได้เต็มที่ก็สิบคนเท่านั้น ดีหน่อยก็ตรงที่มันมีอยู่สองตัวนี่แหละ ปกติแล้วเขาต้องใช้ลิฟต์สำหรับผู้บริหาร แต่ว่าขี้เกียจเดินไกลจึงใช้ลิฟต์สำหรับพนักงานเป็นประจำ

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

เสียงข้อความไลน์เข้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกิ่งกมลต้องวางลังลงแล้วหยิบโทรศัพท์ที่ห้อยคออยู่ขึ้นมาดู แก้วตาส่งข้อความมาหาเธอรัวๆ บอกให้รีบกลับไป “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ”

ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว...

ทินกรมองร่างอรชรซึ่งกำลังก้มหน้ามองจอมือถืออยู่ เธอเป็นคนเดียวกันกับหญิงสาวที่เขาพบโดยบังเอิญที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้ เพราะโหมทำงานมากเกินไปจึงเกิดอาการวูบจนถูกแม่ไล่ไปหาหมอ พอนอนให้น้ำเกลือหมดไปหนึ่งขวดอาการจึงดีขึ้น ในระหว่างที่เดินดูสินค้าโอทอปอยู่นั้นเอง เขาได้เข้าไปช่วยเหลือเธอไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ วันนี้เธอก็อยู่ในชุดนักศึกษาดังเช่นเมื่อวานไม่มีผิด ผมสั้นประบ่าถูกเกี่ยวไปทัดใบหูเล็กน่ารักไว้ เผยให้เห็นแก้มเนียนใส แต่ว่าที่ต่างออกไปคือ เธอห้อยบัตรสำหรับนักศึกษาฝึกงานของบริษัทไว้ที่ลำคอระหง

ครั้นลิฟต์มาหยุดลงที่ชั้นหนึ่ง กิ่งกมลก็เลิกสนใจข้อความไลน์ เธอย่อตัวลงเตรียมจะยกลังขึ้นมาทว่ากลับมีมือหนามาฉวยยกมันตัดหน้าไปเสียก่อน ใบหน้าจิ้มลิ้มหันไปมองด้านข้าง จำได้ในทันทีว่าเขาคือคนที่ช่วยเธอไว้เมื่อวาน ใครจะไปลืมหนุ่มหล่อมาดเข้มขนาดนี้ได้กัน

‘ทำไมเป็นเขาอีกแล้ว’

“ออกไปสิ รออะไรอยู่” ทินกรสั่งเสียงขรึมเมื่อเห็นเธอเอาแต่จ้องหน้าเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ อยู่อย่างนั้น

“อะ อ๋อค่ะ” กิ่งกมลเหมือนจะรู้ตัวว่าเผลอเสียมารยาทจ้องเขานานเกินไป จึงรีบดึงสายตากลับมา “ขอโทษค่ะ” นิ้วเรียวยื่นไปกดเปิดประตูลิฟต์ค้างไว้เพื่อให้เขาเดินออกไปก่อน จากนั้นเธอก็เดินตามไปไม่ห่าง

“จะเอาลังนี่ไปที่ไหน” น้ำเสียงที่เอ่ยถามยังคงเคร่งขรึมเหมือนเดิม

“คือว่า... ดิฉันยกไปเองได้ค่ะ คุณไม่ต้องช่วยก็ได้” กล่าวอย่างเกรงใจ

ร่างสูงชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน คิ้วเข้มขมวดมุ่นมองหญิงสาวที่สูงเลยอกของตนเล็กน้อยด้วยสายตาพิจารณา “เอาไปที่ไหน”

เมื่อเห็นว่าคนตัวโตไม่ยอมคืนของให้ง่ายๆ จึงได้แต่จำใจตอบเขาไป “ห้องอบรมใหญ่ค่ะ”

ทินกรเดินนำไปยังห้องที่ใช้สำหรับจัดอบรมพนักงานในบริษัท ซึ่งพรุ่งนี้จะใช้เป็นสถานที่จัดงานครบรอบของบริษัท ทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้อง เสียงเซ็งแซ่ก่อนหน้านั้นพลันเงียบลง กิ่งกมลเองก็ถึงกับมึนงงไปชั่วขณะ ทำไมทุกคนต้องมองเธอเป็นตาเดียวกันแบบนี้ล่ะ แถมบางคนยังหันไปซุบซิบกันแล้วมองมาอย่างไม่ชอบใจอีก

“ขอบคุณค่ะ” มือเรียวพนมไหว้ขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยเหลือตนไว้เป็นครั้งที่สอง เขาทำเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อยแล้วเดินจากไป

“น้องกิ่ง! ไปเจอคุณทิมได้ยังไงจ๊ะ” แก้วตาทิ้งงานที่กำลังทำอยู่แล้ววิ่งมาหาหญิงสาวทันใด

“ใครเหรอคะคุณทิม” เธอถามตาใส

“โอ๊ยหนู ก็หนุ่มหล่อที่ยกลังมาให้หนูไงคะ คุณทินกรลูกชายคนโตของคุณธนินเจ้าของบริษัทที่เราทำงานอยู่นี่ไง”

“อ๋อค่ะ” เขาชื่อทินกรนี่เอง เมื่อวานหลังจากขอบคุณเขาแล้วเธอก็จากมาทันที เลยไม่ได้ถามไถ่ชื่อเสียงเรียงนามอะไรกัน

แก้วตาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เด็กน้อยของเธอนี่ไม่สนใจผู้ชายเอาเสียเลย ปกติหากได้พบลูกชายเจ้าของบริษัทเข้าละก็ สาวๆ ถึงกับดีใจจนเนื้อเต้นแล้วก็กรี๊ดกร๊าดกันไปสามวันห้าวันเชียวล่ะ “สีหน้าเรียบเฉยแบบนี้คืออะไร ได้เจอหนุ่มหล่อที่เจอตัวได้ยากสุดๆ ในบริษัทแต่กลับไม่ดีใจ โน่นๆ ดูแม่พวกนั้นสิ ตาลอยกันหมดแล้วนั่นน่ะ”

“ต้องดีใจด้วยเหรอคะ” กิ่งกมลถามอย่างพาซื่อ

“คุณทิมนั่นเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ ในบริษัทเลยนะคะคุณน้อง คุณทิมน่ะได้นั่งในตำแหน่งกรรมการบริหารตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบ ทั้งหล่อ รวย ทำงานเก่ง แบบนี้ยังไม่ใช่ที่หมายปองของสาวๆ อีกเหรอ ไม่รู้รึไงว่านั่นน่ะแรร์ไอเทมของบริษัทเชียวนะ หากพี่เกิดช้ากว่านี้สักสิบปี พี่ก็จะลองอ่อยคุณทิมเหมือนกัน” แก้วตาเอ่ยอย่างติดตลก เป็นเพราะทินกรต้องออกไปตรวจงานที่ไซต์งานก่อสร้างด้วยตัวเองบ่อยๆ จึงไม่ค่อยเข้าบริษัท นานๆ ถึงจะโผล่หน้ามาให้เห็นเป็นอาหารตาสักที

“ถ้าเป็นอย่างที่พี่ตาพูดมา คุณทินกรก็เป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ จริงๆ นั่นแหละค่ะ” แต่เขาคงไม่ชายตามองผู้หญิงบ้านๆ แบบเธอหรอก ทำไมพอคิดแบบนี้แล้วเธอกลับรู้สึกวูบโหวงในใจแปลกๆ กันนะ กิ่งกมลปัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป “กิ่งไปช่วยงานทุกคนต่อก่อนนะคะ”

“เฮ้อ!” แก้วตาถอนหายใจอีกครั้งด้วยความเหนื่อยใจ เมื่อไหร่แม่สาวน้อยของเธอจะรู้จักมองเพศตรงข้ามบ้างนะ “ไปทำงานต่อเถอะ ไม่ดีใจก็ไม่ดีใจ”

ทางด้านคนที่เพิ่งเดินออกจากห้องอบรมใหญ่มานั้นก็เอาแต่นั่งนิ่งอยู่บนรถ ทินกรเพิ่งหาข้ออ้างหนีจากพ่อมาได้ ท่านมีนัดกับเกษมสันต์ผู้ที่เป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนคนสำคัญ แต่ว่าเขาอึดอัดกับสายตาของรุจิราลูกสาวของหุ้นส่วนคนนี้เวลาที่เธอมองมา จึงเลือกหลีกเลี่ยงการพบปะกับอีกฝ่าย มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเลขา

“คุณพิทักษ์ ช่วยส่งข้อมูลของนักศึกษาฝึกงานของรอบนี้มาให้ผมทางเมลหน่อยครับ”

เพียงไม่นานข้อมูลที่ต้องการก็ถูกส่งเข้ามาในอีเมล ทินกรเปิดไล่อ่านทีละไฟล์ จนในที่สุดก็พบสิ่งที่ตามหา นัยน์ตาคมสีนิลไล่อ่านประวัติของหญิงสาวอย่างช้าๆ มุมปากยกโค้งขึ้นเล็กน้อยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “กิ่งกมล”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel