4.ดื้อรั้น
*** ทักทายคร้า ***
เหมราชรู้สึกตัวอีกครั้งในตอนเช้าของอีกวัน กัญนราจึงถูกตามให้มาตรวจร่างกายชายหนุ่มอีกครั้ง หากครั้งนี้หัวใจของเธอเต้นระรัวเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม
ร่างสูงนั่งมองใบหน้าเนียนสวย ตาคมแทบไม่กะพริบ มือเล็กหยิบไฟฉายดวงเล็กในกระเป๋าอุปกรณ์ตรวจส่องเข้าไปในดวงตาคมของชายหนุ่ม ใบหน้าเนียนขยับเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มได้กลิ่นแป้งเด็กอ่อนลอยเข้ามาในจมูก ร่างสูงยังคงนั่งนิ่งให้หญิงสาวแตะโน่นแตะนี่อย่างพอใจ พอตรวจเสร็จเธอปล่อยมือจะลุกขึ้น แต่มือใหญ่กลับคว้าข้อมือบางไว้ ใบหน้าสวยก้มลงมองอย่างฉงน...เขามองไม่เห็นนี่นา
“เดี๋ยวก่อน!” เสียงทุ้มเข้มถามขึ้นอย่างวางอำนาจ
“คุณกัญนราเป็นพยาบาลในตัวอำเภอนะเหมราช เธอกับคุณยายสายใจช่วยพวกเราไว้”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้
“นี่คุณ! ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้” กัญนราบอกเสียงดุ หากแต่ในใจกลับรู้สึกวาบหวามอย่างไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ใบหน้าสวยแดงระเรื่อน่ามองยิ่งนัก เหมราชปล่อยมือนุ่มอย่างเสียดาย
“ฉันว่าคุณอลันพาเขาไปตรวจให้ละเอียดที่โรงพยาบาลดีกว่าค่ะ”
“ผมขอเวลาสักสองวันนะครับ แล้วผมจะไปตรวจทันที” เสียงเหมราชดังขัดขึ้นอย่างไม่พอใจที่หญิงสาวเรียกอลันอย่างเป็นกันเอง ทำให้อลันและกัญนราหันไปมอง
“ทำไมต้องรอ อาการคุณมันรอไม่ได้นะ” หล่อนบอกเสียงแข็งใส่คนที่เริ่มวางอำนาจ
“ผมก็อยู่ใกล้หมออย่างคุณอยู่แล้วทำไมต้องรีบ” เหมราชบอกใบหน้าเรียบเฉย
“ฉันไม่ใช่หมอ คงช่วยอะไรคุณไม่ได้”
ชายหนุ่มยิ้มกับคำพูดของหญิงสาว
“ผมขอเช็กกับคนของเราที่กรุงเทพฯ ก่อนนะครับคุณกัญ แล้วเราจะรีบไปทันที” อลันบอกเสียงเรียบ มองไปที่ใบหน้าคมเข้มของผู้เป็นนายอย่างแปลกใจ เพราะปกติคนอย่างเหมราชไม่เคยต่อล้อต่อเถียงกับใคร ทำไมกับหญิงสาวตรงหน้าถึงมีอาการแบบนี้หลุดออกมา
“ตามใจ ถ้าไม่ห่วงตัวเองก็ไม่ต้องไป ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ว่าแล้วเธอก็เดินออกไปจากห้อง โดยมีสายตาคมมองตามแผ่นหลังบางที่เดินจากไป
“คุณชายมองเห็นใช่ไหมครับ” อลันถามหลังจากที่เดินไปปิดประตูเพื่อป้องกันบุคคลอื่นเข้ามา
“อือ!”
“แล้วทำไมต้องโกหกคุณกัญนราเธอด้วยครับ”
“ฉันโกหกที่ไหนกัน ไม่มีใครถามสักคำว่าฉันมองไม่เห็นใช่ไหม” เหมราชบอกยิ้มๆ นึกถึงใบหน้าเนียนที่ตกใจจนหน้าซีด เขาตื่นขึ้นมาแรกๆ มองไม่ค่อยชัดเพราะสายตายังไม่คุ้นกับแสง
“คุณชายปวดที่ท้ายทอยหรือครับ” อลันถามเสียงตระหนกขยับเข้ามายืนใกล้ๆ มองไปที่แผล เหมราชยกมือกุมไว้และพยักหน้ารับเบาๆ
“จิมไปไหน แล้วเป็นยังไงบ้าง”
“จิมเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานครับ วันนี้น่าจะได้เรื่อง” อลันตอบผู้เป็นนาย
“ท่านพ่อกับท่านแม่รู้เรื่องแล้วใช่ไหม”
“ครับ ท่านชีคกับพระชายากำลังเดินทางมารับคุณชายที่เมืองไทย”
“รู้หรือยังฝีมือใคร” เหมราชถามเสียงเข้ม แววตาแข็งกร้าวน่ากลัว
“คุณชายอิสมาอิลครับ”
อลันบอกพลางก้มหน้ามองพื้น เพราะเขาไม่อยากเห็นแววตาเจ็บปวดของผู้เป็นนายที่ถูกพี่ชายต่างมารดาลอบทำร้ายมาถึงสองครั้ง สาเหตุมาจากทรัพย์สมบัติและอำนาจที่คุณชายของเขาจะได้รับต่อจากบิดานั่นเอง
“แล้วเหตุการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” เหมราชหลับตาลงอย่างเจ็บปวดที่คนในครอบครัวต้องมาฆ่าฟันกันเองเพียงเพราะทรัพย์สมบัติและอำนาจ
“ที่ตำหนักพระนางมาลาไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร คงคิดว่าคุณชายตายอยู่ในรถคันนั้น”
“ดี...ปล่อยให้มันชะล่าใจไปก่อนแล้วค่อยหาหลักฐานทีหลัง”
“แล้วที่นี่ที่ไหน” เหมราชถามขึ้นอย่างใคร่รู้
“สวนส้มกัญนราครับ คุณยายสายใจช่วยเราสามคนไว้” อลันตอบเสียงเรียบ
“แล้วผู้หญิงคนนั้น...” เหมราชถามพลางหลบสายตาองครักษ์คู่ใจ
“คุณกัญนราเป็นหลานของคุณยายสายใจ” อลันมองหน้านายหนุ่ม เขาเห็นแววตาเจ้าเล่ห์เหมือนตอนสมัยเด็กๆ ที่เล่นซนด้วยกันปรากฏบนใบหน้าคม
“คุณชายสนใจเธอหรือครับ” อลันถามยิ้มๆ
“ก็สวย น่ารักดี” เหมราชบอกนัยน์ตากรุ้มกริ่มและน้ำเสียงอ่อนโยน
“แล้วเรื่องดวงตา คุณชายจะบอกเธอว่ายังไงครับ”
“ไม่ต้องบอกอะไร ถึงเวลาเดี๋ยวฉันจะบอกเอง” เหมราชสั่งลูกน้องคนสนิท เพราะอยากใกล้ชิดกับหญิงสาวมากกว่านี้ แต่อลันกลับเห็นความยุ่งยากที่จะตามมาเมื่อกัญนรารู้ความจริง
***
