5.เจ้าเล่ห์
*** ทักทายคร้า ***
ตกตอนเย็นคุณนายสายใจกลับจากสวนส้ม เข้าไปดูอาการชายหนุ่มที่ช่วยไว้เมื่อสองวันก่อน ร่างสูงสง่าของเหมราชยืนนิ่งที่ระเบียงหน้าห้องนอน สายตาทอดมองออกไปยังสวนส้มด้านนอกที่กำลังออกลูกสีเหลือง เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ๆ ทำให้เหมราชหันกลับไปอย่างระวังตัว
“แข็งแรงขึ้นแล้วนะคุณ สีหน้าดีกว่าเดิม” สายใจพูดทักทายคนตรงหน้าและส่งรอยยิ้มให้อย่างเอ็นดู ใบหน้าชายหนุ่มเหมือนใครคนหนึ่งที่เธอรู้จัก และก็รู้สึกเห็นใจชายหนุ่ม ยังหนุ่มแน่นแท้ๆ กลับต้องมาตาบอดมองอะไรไม่เห็น
“ผมขอบคุณคุณยายสายใจอีกครั้งนะครับ ที่ช่วยผมกับเพื่อนไว้…” มือใหญ่ยกมือไหว้แบบไทยอย่างสวยงาม
“รู้วิธีการไหว้แบบไทยด้วยเหรอพ่อคุณ…” สายใจยิ้มอย่างดีใจ
“แม่ผมเป็นคนไทยครับ เป็นคนที่นี่ ผมแวะเอาของฝากมาให้เพื่อนคุณแม่แต่ก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน” เหมราชบอกเสียงสุภาพ สายใจเดินเข้ามาประคองร่างสูงพาเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องนั่งเล่นกลางเรือนหลังใหญ่ ร่างสูงมองรอบๆ
บ้านน่าอยู่ทีเดียว...ชายหนุ่มคิดยิ้มๆ ถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อเจ้าของบ้านจะว่ายังไงบ้างนะ
“แล้วเพื่อนแม่พ่อหนุ่มชื่ออะไรล่ะ เผื่อยายรู้จักจะได้ช่วยอีกแรง” คุณนายสายใจรับน้ำเย็นจากส้มแป้นขึ้นดื่มแล้ววางไว้บนโต๊ะ เหมราชขยับจะบอก แต่เสียงหวานใสที่ชายหนุ่มรอมาทั้งวันดังขึ้นเสียก่อน
“คุณยายทำไมวันนี้กลับมาถึงบ้านก่อนกัญล่ะคะ” กัญนราเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผู้เป็นยาย มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นโอบกอดร่างอวบของคุณนายสายใจพร้อมหอมแก้มที่เหี่ยวย่นตามวัย ใบหน้าสวยของหญิงสาวยิ้มหวาน
“วันนี้หยุดให้คนงานครึ่งวัน ยายก็เลยกลับมาเร็ว” มือกร้านแดดยกขึ้นลูบศีรษะหลานสาวอย่างเอ็นดู
เหมราชมองความรักความผูกพันของคนทั้งสองด้วยแววตาเศร้า คิดถึงมารดาขึ้นมา ป่านนี้คงเป็นห่วงเขามากทีเดียว
“ไปอาบน้ำอาบท่าไปลูก จะได้กินข้าวเย็นกัน” สายใจพูดกับหลานสาวยิ้มๆ
“อาการเป็นยังไงบ้างคะ วันนี้คุณปวดหัวอยู่หรือเปล่า” กัญนราหันไปถามคนที่นั่งเงียบอยู่ตรงข้ามกับเธอ นัยน์ตาลอยหันมองมาที่เธอเมื่อได้ยินเสียงถาม
“ไม่ปวดแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง” เขาบอกพลางยิ้มกว้างอย่างยินดีที่หญิงสาวยังคงห่วงเขาเสมอต้นเสมอปลาย
“ที่ถามไม่ได้ห่วงอะไรหรอกนะ แต่กลัวมาเป็นอะไรในบ้านฉัน” หล่อนบอกเสียงขึ้นจมูก
“ยัยกัญทำไมพูดแบบนั้นล่ะลูก” สายใจต่อว่าหลานสาวไม่จริงจังนัก ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อย่นเข้าหากันอย่างขัดใจ
เหมราชมองการกระทำของหญิงสาวยิ้มๆ อย่างชอบใจ
“โอ๊ย!” เสียงเหมราชดังออกมาจากห้องนอนทำให้กัญนราที่เดินผ่านมาได้ยิน เธอผลักประตูเข้าไป เห็นร่างของเหมราชกองอยู่ข้างๆ ม้านั่งหน้าระเบียงห้องนอน กัญนราค่อยๆ ประคองร่างสูงลุกขึ้น มือบางโอบเอวหนาไว้ เหมราชอมยิ้มอย่างดีใจ แววตากรุ้มกริ่ม หญิงสาวมัวแต่ห่วงเขาเลยไม่ทันได้สังเกตว่าตัวเองกำลังถูกลำแขนแกร่งโอบประคองไว้ต่างหาก ร่างสูงทำท่าจะล้มก่อนถึงเตียงนุ่ม ทำให้กัญนรากระชับวงแขนแน่นขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มทรงตัวได้ เธอจึงเบียดกายเข้ามาแนบชิดทำให้เลือดในกายของเหมราชพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
กัญนราค่อยๆ ประคองชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงนอน เหมราชถ่ายน้ำหนักมาที่หญิงสาว ทำให้เธอรับน้ำหนักไม่ไหวเสียหลักล้มลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงของเหมราชล้มลงมาด้วย
“ว้าย! คุณ!” กัญนราอุทานเสียงหลง ร่างทั้งร่างเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ใบหน้าสวยซบอยู่กับอกกว้าง วงแขนแข็งแรงโอบรัดเธอไว้แน่น
“คุณอย่าดิ้นสิ เดี๋ยวก็ถูกแผลผมเลือดไหลอีกหรอก”
ชายหนุ่มบอกเธอ นัยน์ตาพราวระยับเหมือนคนปกติ
“ปล่อยนะคนบ้า ชอบฉวยโอกาส” หญิงสาวต่อว่าเขาพลางดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอด แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดรัดแน่น
เหมราชยิ้มที่มุมปาก มองใบหน้าเนียนที่แดงระเรื่อ ผงกศีรษะขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่อย่างอดใจไม่ไหว
“ก็โอกาสน่าฉวยนี่นาคนสวย” เขาพึมพำเบาๆ กับตัวเอง
“นี่คุณ ปล่อยนะ!” หล่อนสั่งเสียงเข้ม ดิ้นออกจากอ้อมกอดแข็งแรง
***
