
บทย่อ
กามเทพดลให้เธอช่วยเหลือและดูแลเขาจากคนที่หมายเอาชีวิต แต่เขาก็ตอบแทนเธอด้วยอุบายแสนร้ายเพื่อจะยึดเธอไว้กับตัว พอความจริงกระจ่างเธอหรือจะยอมยกโทษให้ง่ายๆ มือบางคนข้าวต้มให้เข้ากันแล้วนั่งลงบนขอบเตียง ก่อนจะตักข้าวต้มจ่อไปที่ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่ม สายตาคมมองใบหน้าเนียนอย่างคิดถึง “ยกโทษให้ได้ไหม” นิ้วแกร่งเช็ดน้ำตาที่ซึมออกมาให้เธออย่างนุ่มนวล “รอให้คุณหายก่อนก็แล้วกัน ก่อคดีไว้หลายเรื่องนี่คะ จะให้ยกโทษให้ง่ายๆ ได้ยังไงกัน” เหมราชถึงกับยิ้มแห้งๆ มองหญิงสาวอย่างกลัวใจ “จ้ะ” เขาตอบสั้นๆ พร้อมกับถอดเสื้อออก ทำเอาหญิงสาวตาโตมองเขาอย่างตกใจ “นี่คุณจะทำอะไร” หล่อนหน้าแดงร้องถามเสียงดัง “ก็จะให้กัญเช็ดตัวให้ไงครับ” “แล้วทำไมต้องถอดเสื้อด้วยคะ” หล่อนถามแก้มแดงระเรื่อ “ไม่ถอดเสื้อกัญจะเช็ดตัวยังไงครับ กัญเห็นผมทั้งตัวแล้วนี่นา อายทำไมครับ” เขาบอกยิ้มๆ แววตาพราวระยับ กำปั้นน้อยทุบไปที่อกกว้างอย่างขัดเขิน ชายหนุ่มจับมือบางยกขึ้นมาวางไว้บนอก “ผมสัญญานะครับว่าจะไม่ทำให้กัญเสียใจอีก” เขาบอกเสียงพร่า จูบเธออย่างดูดดื่มและอ่อนโยน กัญนราใจอ่อนยวบ หัวใจเต้นแรงระรัวอยู่ในอก “พอก่อนค่ะ คุณไม่สบายอยู่นะคะ” “ก็เพราะไม่สบายน่ะสิ อกจะระเบิดอยู่แล้ว คุณไม่อยู่ผมแทบขาดใจตายเพราะคิดถึงคุณ” “อย่ามาปากหวานหน่อยเลยคนเจ้าเล่ห์” หล่อนต่อว่าเขา “กัญเคยชิมใช่ไหมว่าปากผมหวานแค่ไหน” เขาก้มลงกระซิบบอกข้างหู “เซี้ยวจริงคุณนี่” หล่อนว่าอย่างอายๆ ดวงตาสองคู่สบตากันนัยน์ตาหวานฉ่ำ ระหว่างเขาและเธอคงเป็นบุพเพที่ดลให้มาพบกัน และเกิดเรื่องราวมากมายเพื่อพิสูจน์รักแท้
1.กามเทพเล่นกล
*** ทักทายคร้า ***
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
รถเบนซ์คันหรูส่ายไปมาบนเส้นทางถนนบางนา-ตราดที่มุ่งหน้าไปจังหวัดระยอง แต่ร่างสูงสง่าที่นั่งอยู่ด้านหลังกลับไม่สะทกสะท้าน ชายฉกรรจ์ใส่สูทสีดำที่นั่งอยู่ด้านหน้าสองคนหยิบปืนพกที่เหน็บอยู่กับเอวออกมา ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“คุณชายระวังตัวด้วยนะครับ”
เสียงภาษาอาหรับดังออกมาจากปากของอลัน องครักษ์ของเหมราช คาราซัฟ อาบีอิน ลูกครึ่งไทย-อาหรับ นักธุรกิจค้าน้ำมันและโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมาร์จาและติดอันดับมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของโลก
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนกลยิงกราดเข้าใส่หน้ารถ แต่ไม่ได้ระแคะระคายกระจกกันกระสุนแม้แต่น้อย
เหมราชกดสวิตช์ลิ้นชักหยิบปืนออกมา มือกระชับปืนไว้แน่น สบตากับอลันและดาจิมองครักษ์อย่างรู้กัน
“จะฆ่ากันให้ตายเลยใช่ไหม ได้เลย” ร่างสูงเบี่ยงตัวยิงใส่รถคันหลังที่วิ่งเบียดเข้ามาใกล้ รถอีกคันที่อยู่ด้านหลังประกบยิงเข้าที่ยางรถทำให้รถส่ายไปมา
เอี๊ยด!!!
“คุณชายหนีออกไปก่อน ผมกับจิมจะยิงคุ้มกันให้ เร็วครับ!” อลันตะโกนบอก
เหมราชพยักหน้าเปิดประตูรถกระโดดออกไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยร่างของอลันและดาจิมเปิดประตูด้านหน้ากระโดดออกมา รถวิ่งเข้าไปชนต้นไม้ข้างทางระเบิดเสียงดังสนั่น
บึ้ม!!!!!
ปังๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ระวังตัวนะอลัน จิม”
เสียงปืนยังคงดังไม่หยุด ชายฉกรรจ์หน้าตาน่ากลัวแปดคนสวมชุดสีดำเปิดประตูเดินลงจากรถมาดูผลงานพลางแสยะยิ้มนัยน์ตาเหี้ยมเกรียม เพราะคิดว่าทั้งสามติดอยู่ในรถที่กำลังมีไฟลุกท่วมทั้งคัน
ดวงตาคมกริบดุจพญาอินทรีของเหมราชมองคนที่จ้องเอาชีวิตเขาอย่างแปลกใจ มือปืนพวกนี้เขาไม่เคยเห็นแถมยังเป็นคนไทยทั้งหมด คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย การมาเมืองไทยของเขาเป็นความลับ รู้กันเฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นเอง แล้วข่าวรั่วออกไปได้ยังไง แสดงว่าภายในวังหลวงมีหนอนบ่อนไส้ปะปนอยู่แน่นอน และด้วยความที่กระโดดออกมากระแทกกับพื้นอย่างแรงจึงทำให้ชายหนุ่มไม่รู้สึกตัวอีกหลังจากนั้น
สวนส้มกัญนราเป็นสวนของคุณนายสายใจ ชยากาล ข้าราชการบำนาญที่ผันตัวเองมาเป็นชาวสวน นับว่าเป็นสวนเก่าแก่และกว้างพอสมควร ด้วยวัยหกสิบเอ็ดปีหลังเกษียณอายุราชการครู คุณนายสายใจก็ตั้งหน้าตั้งตาทำสวนที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่สามีทิ้งไว้ให้ ก่อนตายไปเมื่อหลายปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทิ้งให้เธอต้องอยู่กับกัญนรา ชยากาล หลานสาวที่เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอ
“นายแม่! นายแม่!” เสียงเรียกอย่างตกอกตกใจของจ้อยดังเข้ามาใกล้
หญิงวัยกลางคนในชุดเสื้อแขนยาวสีดำและกางเกงผ้ายืด ใบหน้าถูกปิดด้วยหมวกใบโตที่กำลังสำรวจผลส้มที่ออกลูกเหลืองไปทั้งสวนและคนงานหลายสิบคนที่กำลังขะมักเขม้นเก็บส้มอยู่ต่างหันไปมองต้นเสียงพร้อมๆ กัน
“นายแม่อยู่นี่จ้อย มีอะไร” คุณนายสายใจขานรับพร้อมกับเดินออกมาจากใต้ต้นส้มเขียวหวาน
“แย่แล้วนายแม่ มีผู้ชายสามคนนอนสลบอยู่ท้ายสวนโน่น” ร่างผอมหอบหายใจ ชี้มือไปทางด้านหลังที่วิ่งมาพลางกระซิบข้างหูสายใจด้วยท่าทางตกใจ
“เป็นคนแถวนี้หรือเปล่า” สายใจกระซิบถามอย่างตกใจ
“ไม่ใช่หรอกนายแม่ เป็นต่างชาติตัวสูงเหมือนแขก ตอนนี้ผมให้ไอ้ดอมมันเฝ้าอยู่”
“จ้อยไปตามนายชมกับนายคิดให้เอารถออกนะ แล้วให้คนไปดูคุณกัญด้วยว่ากลับจากทำงานหรือยัง ถ้ากลับมาแล้วให้ตามไปช่วยที่ท้ายสวน เร็วเข้า” สายใจสั่งเสร็จก็เดินเข้าไปในสำนักงานเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ เพื่อไปหยิบชุดปฐมพยาบาลเผื่อจำเป็นต้องใช้ แล้วรีบออกมาขึ้นรถที่นายชมติดเครื่องรออยู่
ร่างสูงใหญ่ของอลันค่อยๆ ขยับและพยุงตัวลุกขึ้นอย่างยากเย็น ชายหนุ่มมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจความปลอดภัยรอบบริเวณ
ร่างของเหมราชนอนไม่รู้สึกตัวอยู่อีกฟากของท้องร่อง อลันค่อยๆ ประคองตัวเดินเข้าไปหาร่างสูงที่นอนไม่ได้สติ มือหนาจับแขนสีน้ำตาลของนายหนุ่มอย่างเป็นห่วง เขาประมาทเกินไปไม่คิดว่าศัตรูจะกล้าตามมาทำร้ายที่เมืองไทย
“คุณชายครับ…คุณชาย” อลันออกแรงเขย่าแขนเจ้านายเบาๆ
เงียบ! ร่างสูงยังคงนอนเหยียดยาวไม่รู้สึกตัว อลันมองดูบาดแผลทั่วทั้งตัวของคุณชายแห่งวังฮาคาล ลูกชายคนเดียวของชีคนาร์ธานและชายาฟาติมา ผู้มีทั้งอำนาจและบารมี นี่ถ้ารู้ว่าลูกชายสุดรักถูกทำร้ายจะเป็นยังไงบ้างหนอ
สายตาคมของอลันมองเลือดที่แห้งกรังหลังท้ายทอยด้วยใบหน้าและแววตาที่กังวล เสียงขลุกขลักดังจากด้านหลังทำให้ อลันหันขวับและเล็งปืนไปทันที
“ฉันเองอลัน” ดาจิมเดินโซซัดโซเซเข้ามาใกล้ๆ
“นายเป็นยังไงบ้าง” อลันถามอย่างเป็นห่วง
“ฉันยังไหว คุณชายเป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่รู้สึกตัวเลย อาการหนักพอดู” สายตาคมมองผู้เป็นนาย ดาจิมตัดสินใจเขย่าแขนเหมราชอีกครั้ง
“คุณชายครับ คุณชาย”
องครักษ์หนุ่มทั้งสองเริ่มใจคอไม่ดี เพราะร่างสูงสง่าของนายหนุ่มยังคงนอนนิ่งไม่ไหวติง
***
