ตอนที่ 3 หนุ่มโฮสต์สุดหล่อ
ค็อกเทลแก้วแรกหมดไปแก้วที่สองและสามก็ตามมา ความคิดของอินทุภาก็เช่นกัน เธอหวนคิดไปถึงพลกฤตอีกแล้ว น้ำตาหยดหนึ่งตกลงบนหลังมือ แม้จะแสร้งทำเป็นว่าตัวเองไม่เป็นอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ใจของเธอก็ยังเจ็บปวดอยู่ดี มือบางปาดน้ำตาออกจากแก้ม เธอดึงสมาธิให้อยู่กับสิ่งตรงหน้า ทว่าความพยายามนั้นต้องสูญเปล่าเมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นแฟนหนุ่มกับผู้หญิงคนนั้นเดินควงแขนกันไปนั่งยังเคาร์เตอร์บาร์ พวกเขาหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม มือของฝ่ายชายไม่ห่างไปจากสีข้างของหญิงสาวเลย เขาลูบวนมันอยู่อย่างนั้น บางครั้งก็เลื่อนลงมายังสะโพก
“บ้าจริง ที่อื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมถึงมาที่นี่ได้นะ” อินทุภาสบถเบาๆ ความเสียใจเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธทันใด แต่เธอก็มีสติมากพอที่จะไม่เดินเข้าไปกระชากพวกเขาออกจากกันแล้วตบสักเปรี้ยงให้หายแค้น หญิงสาวสูดหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง จากนั้นก็ยกมือเรียกพนักงานเพื่อสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม เธอจะดื่มแก้วสุดท้ายแล้วกลับไปนอน แต่คงต้องสั่งอะไรที่แรงสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่
“ดรายมาร์ตินี่สองแก้วค่ะ” ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันถูกเปล่งออกจากปากจิ้มลิ้ม เพียงไม่นานเครื่องดื่มก็ถูกยกมาเสิร์ฟ อินทุภายกค็อกเทลขึ้นกระดกทีเดียวจนหมดแก้ว แล้วก็ทำเช่นนั้นกับแก้วที่สองก่อนจะเดินออกจากบาร์ไป
ร่างอรชรเดินเซเล็กน้อยเพราะฤทธิ์เครื่องดื่ม หัวก็เริ่มรู้สึกมึนขึ้นมา นึกด่าตัวเองในใจที่ไม่น่าสั่งเครื่องดื่มที่ไม่เคยดื่มเลย แม้เธอจะมานั่งดื่มที่บาร์บ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะคอแข็ง ทุกครั้งจึงเลือกสั่งแต่พิ้งค์เลดี้ แต่เพราะโมโหพลกฤตวันนี้เธอจึงสั่งดรายมาร์ตินี่มาดื่ม ซึ่งผลที่ได้มาคือเธอเมานั่นเอง เป็นครั้งแรกเลยที่อินทุภาเมาแบบนี้
“อดทนไว้ยายเอม เดินแป๊บเดียวก็ถึงโรงแรมแล้ว” แม้ปากจะบอกตัวเองไปแบบนั้น แต่ขาของเธอกลับไม่ยอมทำตามที่ใจคิด หญิงสาวเดินไปได้อีกไม่กี่ก้าวก็ชนเข้ากับบางอย่าง “โอ๊ย!”
ทิวากรคว้าคนที่เข้ามาชนเขาไว้ไม่ให้ล้มก้นจ้ำเบ้า เธอดูจะเมามากเลยทีเดียว แต่ว่าตอนนี้เขาเองก็ไม่อยู่ในสถานการณ์ที่จะใกล้ชิดเธอได้เหมือนกัน ขืนอยู่ใกล้สาวสวยแบบนี้ต่อไป คงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่ “คุณยืนไหวไหมครับ” เขาถามอีกฝ่ายด้วยภาษาอังกฤษ อยากไปจากตรงนี้เสียให้พ้นๆ ตอนนี้ร่างกายของเขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ เสียแล้ว
“หล่อจังเลย ทำงานที่นี่เหรอจ๊ะสุดหล่อ”
เสียงถามอ้อแอ้ของคนเมาส่งผลให้ร่างสูงคิ้วกระตุก ทิวากรหรี่ตามองคนที่กอดเขาไม่ยอมปล่อยอย่างพิจารณา เธอน่าจะอายุน้อยกว่าเขาหลายปี และยังเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยทีเดียว ซ้ำร้ายสองเต้าอวบอิ่มที่เบียดกับอกเขาอยู่นี่มันยิ่งกระตุ้นอาการของเขาให้กำเริบหนักกว่าเดิม
“บ้าเอ๊ย! ทำไมถึงซวยแบบนี้วะ” ทิวากรสบถอย่างหัวเสีย พยายามดันหญิงสาวออกห่างจากตัวเอง แต่เธอกลับขืนตัวไว้ หนำซ้ำยังกอดเอวเขาไว้แน่นอีกด้วย หากก่อนหน้านี้ไม่ถูกวางยา ตอนนี้เขาคงพาเธอไปส่งแล้ว แค่สภาพตัวเองยังจะเอาไม่รอดเลย แล้วจะมีปัญญาไปดูแลใครได้ ความอดทนของเขาจวนเจียนจะหมดแล้วเหมือนกัน
“สุดหล่อ เลิกงานหรือยังจ๊ะ ไปต่อกับพี่สาวไหม” เธอแหงนหน้าขึ้นมองเขาแล้วยิ้มกว้างจนตาหยี ก่อนจะซบศีรษะลงบนหัวไหล่แกร่ง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้อินทุภาขาดสติ ความโกรธส่งผลให้เธอคิดเพียงว่าพลกฤตยังนอนกับผู้หญิงอื่นได้ แล้วทำไมเธอจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ เธออุตส่าห์ซื่อสัตย์ต่อเขา แต่เขากลับไม่เห็นค่าของมัน “ไปส่งพี่สาวหน่อยนะ พี่สาวเดินไม่ไหวเลย เดี๋ยวให้ทิป”
“คุณครับ ตั้งสติก่อนเถอะ หากยังกอดผมไม่ปล่อยแบบนี้มันอันตรายนะ” ลำพังแค่ถูกลูกค้ารายใหญ่ลากมากินเลี้ยงที่บาร์โฮสต์ก็หงุดหงิดมากพออยู่แล้ว แต่นี่เขายังพลาดท่าถูกอีกฝ่ายวางยาอีก ใครจะไปรู้ว่ามาดามหวังคิดจะเคลมเขา ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงตอบปฏิเสธเธอไปตั้งแต่เซ็นสัญญาเสร็จแล้ว หากไม่ใช่เพราะสัญญาก่อสร้างพันล้านนั่นล่ะก็ เขาไม่มีทางยอมให้แม่หม้ายสาวคนนั้นเล่นตลกกับตัวเองเช่นนี้หรอก คิดแล้วมันน่าโมโหจริงๆ
แต่คนที่เมาอยู่ไหนเลยจะสนใจฟังคำเตือนนั้น อินทุภายิ้มกริ่มปรือตามองคนที่เธอเข้าใจว่าเป็นหนุ่มจากบาร์โฮสต์ “ไปเร็วสุดหล่อ โรงแรมที่พี่สาวพักอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ไม่ต้องห่วงนะ พี่สาวจะจ่ายให้อย่างงาม ขอแค่บริการถูกใจก็พอ”
ยิ่งอินทุภาขยับกายเบียดคนตัวโตมากเท่าไหร่ ความต้องการของทิวากรก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเลขาของพี่ชายที่เดินทางมาทำสัญญากับมาดามหวังด้วยกัน เพื่อขอความช่วยเหลือให้หลุดไปจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมรับสายเสียที
ลมหายใจของทิวากรหอบถี่ขึ้นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเนินอกอิ่มที่โผล่พ้นเกาะอกสีแดง ซึ่งกำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจของหญิงสาว “บ้าฉิบ! จะไปมองให้ลำบากตัวเองทำไมวะ”
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เพื่อระงับเพลิงปรารถนาที่กำลังปะทุออกมา สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือพาผู้หญิงคนนี้ไปส่งแล้วก็รีบกลับไปจัดการกับตัวเอง หากจะทิ้งเธอไว้ตรงนี้คงได้ถูกใครพาไปทำมิดีมิร้ายเป็นแน่ เธอดูไม่เหมือนขาเที่ยวที่เจนจัดกับการท่องราตรี เหมือนคนที่ออกมาดื่มเพราะมีเรื่องทุกข์ใจมากกว่า คราบน้ำตาที่ยังติดอยู่บนแก้มและหางตาเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี
“เอาวะ รีบไปส่งให้เสร็จๆ แล้วจะได้กลับไปจัดการเจ้าทิวน้อยให้สงบลง”
คิดได้ดังนั้นทิวากรจึงถามถึงที่พักของอินทุภาแล้วพาไปส่ง แต่ว่าแผนการที่ชายหนุ่มคิดไว้แต่แรกกลับล่มไม่เป็นท่า เมื่อหญิงสาวไม่ยอมปล่อยเขาออกจากห้อง เธอดึงเขาลงไปนอนบนเตียงด้วยกัน
“จะรีบไปไหนจ๊ะ ไม่ใช่ว่าเราตกลงกันเรียบร้อยแล้วเหรอว่านายจะอยู่กับฉัน” อินทุภากดทิวากรลงบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมเอวเขาไว้ เพื่อกันคนหลบหนี “คืนนี้เราจะมีวันไนท์สแตนด์กัน” พูดจบก็หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ มือเรียวพยายามปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขา แต่กลับถูกมือหนาปัดป้อง
“อยู่เฉยๆ สิ อย่าเล่นตัว” คนเมาสั่งเสียงขรึม ตีมือเขาไปหนึ่งที “นายควรจะดีใจนะที่ฉันยกครั้งแรกให้กับบาร์โฮสต์อย่างนาย มามะมาสนุกกันดีกว่า มาสนุกให้ลืมเรื่องเฮงซวยนั่นไปให้หมดเลย”
ทิวากรเผลอปล่อยมือที่กำเสื้อตัวเองไว้ออก นอนมองเธอนิ่งงัน ผู้หญิงคนนี้ไปเจอเรื่องที่ทำร้ายจิตใจมาแน่ๆ ถึงได้กินเหล้าเมาขนาดนี้ หนำซ้ำยังมาชวนผู้ชายขึ้นเตียงอีก ไม่ใช่ว่าเธอกำลังประชดชีวิตอยู่หรอกนะ?
“เธอแน่ใจเหรอว่าอยากมีวันไนท์สแตนด์กับฉัน เก็บไปทำกับแฟนไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเกิดสร่างเมาแล้วเธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปตอนเมาทีหลังอย่างไรล่ะ”
ประกายตาของอินทุภาวาวโรจน์ขึ้นมาทันใด “อย่าไปพูดถึงไอ้คนเฮงซวยนั่น นายเป็นบาร์โฮสต์จริงๆ หรือเปล่า ไม่ใช่ว่ารับงานนอกเวลาแบบนี้บ่อยๆ รึไง แล้วทำไมยังลีลาอยู่อีก กลัวว่าฉันจะไม่จ่ายเงินให้เหรอ ฉันไม่เสียใจหรอก ละนายก็ไม่ได้ข่มขืนฉันด้วย ฉันสมยอม ได้ยินไหมว่าฉันสมยอมเอง ฉันไม่แจ้งตำรวจมาจับนายทีหลังหรอกน่าพ่อหนุ่มบาร์โฮสต์รูปหล่อ”
