ตอนที่ 4 เธอยั่วฉันเองนะ
ทิวากรกำลังอ้าปากจะปฏิเสธว่าตนไม่ใช่หนุ่มจากโฮสต์คลับ ทว่าหญิงสาวกลับขยับสะโพกลงไปนั่งทับน้องชายของเขา มิหนำซ้ำเธอยังโยกสะโพกไปมาเบาๆ อีกต่างหาก “อ๊า... หยุดขยับเดี๋ยวนี้ ถ้ายังไม่หยุดอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“หืม ทำไมถึงนอนนิ่งล่ะ” อินทุภาเอียงคอมองสุดหล่อที่เธอเก็บมาได้จากหน้าบาร์โฮสต์ด้วยความสงสัย “เหนื่อยเหรอ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่สาวทำเอง พี่สาวเรียนทฤษฎีมาแล้ว เชื่อมือได้เลย”
ทิวากรเริ่มปวดหัวตุบๆ ขึ้นมาเมื่อได้ฟังคำพูดนั้น ผู้หญิงคนนี้ไปเรียนทฤษฎีอะไรมา แล้วไปเรียนมาจากไหน เธอเริ่มจัดการเปลื้องผ้าเขาอย่างทุลักทุเล ปากก็บ่นพึมพำจนฟังไม่ได้ศัพท์ “หยุด อย่าฉีก” เขาร้องเสียงหลงยามเห็นว่าเธอกำลังจะฉีกเสื้อของเขา
“ก็มันถอดไม่ออกนี่นา” หญิงสาวยู่ปากขึ้นเล็กน้อยอย่างกำลังแง่งอน ตาก็ปรือจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ “ลุกขึ้นมา แก้ผ้าออกเร็วสุดหล่อ ให้พี่สาวได้เชยชมกล้ามท้องชัดๆ หน่อย ดูสิ กล้ามแน่นน่ากัดไปทั้งตัวเลย”
สองแก้มของทิวากรร้อนผ่าวขึ้นมา เขาไม่เคยถูกผู้หญิงพูดจาลวนลามแบบนี้มาก่อนเลย เธอเป็นคนแรกที่ทำกับเขาเช่นนี้ ทว่าแทนที่จะโกรธ แต่ทำไมเขากลับรู้สึกเขินแปลกๆ “เธอลุกออกจากตัวฉันไปก่อนสิ” ไหนๆ ก็ยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธอีกต่อไป
แต่แทนที่อินทุภาจะทำตามที่เขาบอก เธอกลับโน้มใบหน้าลงมาจูบปากเขาเบาๆ แล้วผละออกไปหัวเราะชอบใจ “ปากนุ่มจัง มาให้พี่สาวจุ๊บอีกทีสิมา”
ความอดทนของทิวากรขาดผึงลงทันใด เขาลุกขึ้นนั่งประจันหน้ากับร่างอรชรที่กำลังคร่อมตักตนอยู่ จากนั้นก็จับท้ายทอยหญิงสาวไว้มั่น พลางมองริมฝีปากอิ่มของเธอตาไม่กะพริบ “อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ เธอเป็นฝ่ายยั่วฉันเองนะ” ขาดคำริมฝีปากบางรูปกระจับก็เข้าครอบครองปากจิ้มลิ้มน่าจูบของเธอ กลิ่นหอมจากกายสาวยิ่งกระตุ้นเพลิงปรารถนาของชายหนุ่มให้ลุกโชน มืออีกข้างที่ว่างก็เลื่อนไปรูดซิปด้านหลังชุดของคนตัวเล็กออก ฝ่ามือแกร่งเข้าสำรวจแผ่นหลังนวลเนียนทันที
อินทุภาทิ้งสะโพกลงบนตักของทิวากร พลางร้องครางออกมาเบาๆ มือเรียวยึดบ่าแกร่งไว้ แหงนหน้าขึ้นให้เขาจูบได้อย่างถนัดถนี่มากขึ้น เธอจูบตอบเขาไปอย่างเงอะงะ เรียวลิ้นอุ่นที่กำลังหยอกเย้าเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอนั้นช่างให้ความรู้สึกซาบซ่านเหลือเกิน เขาถอนริมฝีปากจากเรียวปากเธอ จากนั้นก็เข้าสำรวจซอกคอหอมกรุ่นต่อ ริมฝีปากร้ายพรมจูบไปทั่วลำคอขาวเนียนและใบหูเล็ก ก่อนจะขบเม้มซอกคอเธอเบาๆ ประหนึ่งว่ากำลังลงโทษเด็กดื้อ
“อื้ม... เจ็บนะ”
ทิวากรชะงักจูบไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงร้องว่าเจ็บเป็นภาษาไทย เขาผละออกจากลำคอหอมกรุ่นของเธอ แล้วกระซิบถามข้างใบหูเล็กน่ารักเป็นภาษาไทยว่า “เป็นคนไทยเหรอครับ”
“ค่ะ” อินทุภาตอบราวกับละเมอ ท่าทางของเธอเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่นที่แยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นความฝันและอันไหนคือความจริง สมองของเธอเบลอไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือว่าเพราะจูบของเขากันแน่ ความรู้สึกแปลกใหม่นี้ทำให้เธอตื่นเต้นจนแทบจะสร่างเมาเลยทีเดียว
มุมปากสวยได้รูปยกยิ้มบาง นัยน์ตาคมกริบจับจ้องดวงหน้าสวยที่กำลังหลับตาพริ้ม ปากของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างเชิญชวน เขาไล้นิ้วโป้งบนกลีบปากสาวแผ่วเบา “ชื่ออะไรครับคนสวย”
แต่แทนที่อินทุภาจะตอบคำถามนั้น เธอกลับลืมตาขึ้นแล้วจับใบหน้าหล่อเหลาไว้ จ้องหน้าเขาด้วยท่าทางขึงขัง ถามเสียงอ้อแอ้ว่า “ฉันสวยอย่างนั้นเหรอ ไม่จริงหรอกอย่ามาโกหก ใครๆ ก็ว่าฉันจืดชืด เอิ๊ก!” ถามเสร็จก็ซบหน้าลงไปบนซอกคอเขาแล้วขบเม้มเนื้อส่วนนั้นจนเกิดรอยแดง หนำซ้ำมือเรียวยังซุกซนลูบไล้แผงอกเปลือยเปล่าของเขาเล่นไม่หยุด
“อื้ม ซนจริงๆ เลยนะครับคนสวย” ใครกันที่มันตาถั่วว่าผู้หญิงคนนี้จืดชืด เขาอยากจะพาไปตัดแว่นจริงๆ เธอออกจะเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ ยิ่งท่าทางออดอ้อนของเธอที่ทำอยู่ตอนนี้ ทำให้ใจเขาเหลวเหมือนเทียนไขที่ถูกไฟลนก็มิปาน
“จะไม่บอกชื่อจริงๆ เหรอครับ”
อินทุภาเงยหน้าขึ้นจากซอกคอของเขา แล้วยิ้มทะเล้น “เรียกคนสวยนั่นแหละ ส่วนฉันก็จะเรียกนายว่าสุดหล่อ”
อินทุภาคิดว่าทิวากรเป็นแรงงานไทยที่มาทำงานยังฮ่องกง สำเนียงที่เขาพูดกับเธอบ่งบอกว่าเป็นคนไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ความสัมพันธ์เพียงชั่วข้ามคืนเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อกันหรอก อย่างไรเสียเธอกับเขาก็ไม่มีทางได้พบกันอีกแล้ว พรุ่งนี้เธอก็กลับบ้าน ส่วนเขาก็คงทำงานอยู่ที่นี่ต่อไป
ทิวากรยิ้มเย็นเมื่อได้ยินคำตอบของคนบนตัก เธอไม่บอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร เขาค่อยถามอีกทีตอนที่คนสวยสร่างเมาแล้วก็ได้ จากที่เคยคิดว่าจะมีวันไนท์สแตนด์กันแล้วต่างคนต่างไป ทว่าชายหนุ่มกลับเปลี่ยนใจอยากรู้จักหญิงสาวให้มากขึ้น ใจของเขาไม่ได้เต้นแรงแบบนี้มานานแล้ว และแน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นเพราะฤทธิ์ยา
“ผมจะถามเป็นครั้งสุดท้าย คุณแน่ใจใช่ไหมว่าจะนอนกับผม”
อินทุภาชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ ร่างกายของเธอรู้สึกแปลกๆ อยากให้เขาสัมผัสมันเหมือนเมื่อครู่อีก แต่หนุ่มหล่อจากบาร์โฮสต์ที่เธอเก็บกลับห้องมามัวแต่ถามอะไรก็ไม่รู้ น่ารำคาญ “ลีลาจริงๆ เลย” สิ้นคำก็ผลักเขาลงนอนบนเตียง พร้อมกับส่งยิ้มยั่วยวนไปให้ ก่อนจะก้มลงไปงับยอดอกเขาเบาๆ อย่างหยอกเย้า แล้วลุกขึ้นมาเหมือนเดิม
ชุดเดรสเกาะอกที่ถูกรูดซิปออกร่นลงไปกองอยู่ที่เอวคอดกิ่ว สองเต้าเต่งตึงถูกโอบอุ้มไว้ด้วยบราซิลิโคนจนร่องอกเบียดชิดกัน กระโปรงก็ร่นขึ้นมาหมิ่นเหม่กับสะโพกกลมกลึง เผยให้เห็นเรียวขาขาวสวย ทิวากรหายใจสะดุดเมื่อเห็นความงดงามที่อยู่ตรงหน้า น้องชายของเขาปวดหนึบจนทรมานไปหมด มือหนายื่นออกไปปลดบราออกจากอกอิ่ม นัยน์ตาคมกริบจ้องก้อนเนื้อหยุ่นนุ่มขนาดเต็มไม้เต็มมือตาไม่กะพริบ พลางกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“ผมต้องการคุณ คนสวย” กล่าวจบก็จับหญิงสาวพลิกตัวให้มาอยู่ด้านล่าง แล้วตัวเองก็ขึ้นไปคร่อมร่างของเธอไว้แทน “ผมจะพยายามอ่อนโยนนะ จะทำให้คุณเจ็บน้อยที่สุด”
“อืม” อินทุภาครางตอบเสียงแผ่ว เธอรั้งคอเขาลงมาแล้วจูบเขาอย่างไม่ประสีประสา นิ้วเรียวสอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มลื่นของเขาอย่างเพลิดเพลิน
ทิวากรบดจูบกลีบปากนุ่มนิ่มของคนใต้ร่างอย่างดูดดื่มเร่าร้อน เรียวลิ้นรุกไล้หยอกเย้ากันจนแทบจะไม่เหลืออากาศให้หายใจ เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้างาม จากหน้าผากมนลงมายังจมูกเชิดรั้น จากนั้นก็พวงแก้มเนียนใส แล้วเลื่อนลงไปชิมลำคอระหง ชายหนุ่มจูบเม้มทิ้งรอยรักสีกุหลาบไว้ทั่วซอกคอและเนินอกอิ่ม มือก็ทำหน้าที่ถอดชุดของเธอออกให้พ้นทาง
อินทุภาหอบหายใจกระเส่า ร่างของเธอกระตุกทุกครั้งที่เขาขบเม้มเนื้อนวล มือของเขาเคล้นคลึงหน้าอกเธอหนักเบาสลับกัน นิ้วแกร่งก็ลูบวนแผ่วเบารอบๆ ยอดถันเธอประหนึ่งว่ากำลังกลั่นแกล้งกัน ความเสียวซ่านวิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย เธอรู้สึกว่าตรงหว่างขากำลังกระตุกเบาๆ ทุกครั้งที่เขาดูดดึงปทุมถันของเธอ
ทิวากรกอบกุมสองเต้าอวบไว้เต็มมือ เขาบีบมันเบาๆ ความหยุ่นนุ่มนี้ทำให้เขาแทบคลั่ง เธอสวยไปทั้งตัว ผิวขาวราวน้ำนมเนียนนุ่มมือ เรียวลิ้นร้อนปัดป่ายขึ้นลงบนยอดถันอย่างหยอกเย้าสลับกับดูดดึงหนักเบา ชายหนุ่มเล่นกับปทุมถันคู่งามอยู่อีกครู่ใหญ่ จากนั้นก็ไล่จูบไปตามหน้าท้องแบนราบไร้ซึ่งไขมันส่วนเกิน ก่อนจะมาหยุดลงตรงโหนกเนื้อกลางกายสาว มือหนารูดกางเกงชั้นในลูกไม้ตัวจิ๋วออกจากเรียวขาสวย เขาขยับตัวลงไปนั่งอยู่ตรงขาของเธอ จากนั้นก็ดันขาเรียวให้แยกออกจากกัน ความงดงามที่ถูกซุกซ่อนไว้ก่อนหน้านั้นถูกเปิดเผยแก่สายตาของเขาโดยพลัน
