บท
ตั้งค่า

บทที่2

แก้วใสทรงยาวในมือเรียวหนา ถูกง้างขึ้นก่อนจะลอยว่อนไปในกลางอากาศอย่างแรง โดยเจ้าของใส่ความอัดอั้นไว้เต็มแรง เมื่อสิ่งบอบบางที่เปาะง่ายถูกส่งออกไปปะทะกับพื้นพรมนิ่มหยุ่น ก็ไม่เหลือรูปเดิมให้เห็น แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้คนที่ทุกข์หนักคลายความตึงเครียดลงได้

เศษแก้วกระจัดกระจายเต็มพื้น มันยิ่งสร้างความปวดเจ็บที่กำลังกรีดลงไปในร่องหัวใจ ห้องแล้วห้องเล่า

“หากคุณอยากให้บริษัทของคุณอยู่รอด” ริมฝีปากหนารุ่นลูกยกยิ้ม ปรายตามองผู้สูงวัยกว่า “ยกลูกสาวให้เป็นนางบำเรอผม แลกกับการอยู่รอดของบริษัทของคุณ...คุณกล้าไหมล่ะ” ใบหน้าชายหนุ่มรุ่นลูกเอ่ย สายตาเย้ยหยัน คนฟังได้แต่กัดฟันกรอด เหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ทับลงบนร่างจนแตกละเอียด ไร้ชิ้นดี

“ที่ผมมานี่ ไม่ใช่มาเสนอข้อตกลงแบบนี้ และเป็นไปไม่ได้ ที่ผมจะยกลูกสาวของผมให้เป็นนางบำเรอของคุณ” ชายสูงวัยหน้าแดงก่ำ แต่พยายามทำใจให้เย็นไว้ เพื่อความอยู่รอด ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เพิ่งขาดทุนไป

...เมื่องบหมดและสร้างไม่เสร็จตามกำหนด และนั่นหมายถึงอีกฝ่ายจะต้องเรียกร้องค่าเสียหาย งบหมดเงินหมุนเวียนไม่มี และโดนฟ้องร้องในที่สุด!

วิธีไหนที่พอจะยื้อบริษัทไว้ได้ เขาจึงทำทุกอย่าง และนั่นหมายถึงคนในครอบครัวด้วย ที่จะอยู่อย่างสุขสบายต่อไป

เสียงหึในลำคอถูกส่งออกมาเบาๆ หากแต่คนที่นั่งอยู่ใกล้ได้ยินชัดเจน

“แค่มาเสนอให้ผมช่วยถือหุ้นครึ่งหนึ่ง ในบริษัทที่ใกล้จะล่มเต็มที มันไม่เป็นความคิดที่ทำให้ผมสนใจหรอกคุณดิษกุล ณรงค์พล” น้ำเสียงหนักแน่น หากฟังให้ดีเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เอ่ยเรียกอีกคนเต็มยศ โดยไม่คิดสนจะถนอมน้ำใจคนสูงวัยกว่า

ใบหน้าถือดีท่าทางจองหองของนาย อนาธิป ธนเกียรติ ที่เคยฟังจากเพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน การทำงานรุ่งเรืองข้ามหน้านักธุรกิจรุ่นก่อนๆ ไปหลายก้าว อีกทั้งแนวการตลาดส่งออกอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องประดับไปยังต่างประเทศ ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้ธุรกิจขยายสู่วงกว้าง เป็นคนละเอียดไม่ยอมเสียเปรียบให้ใคร ทุกคนชอบว่าใจแคบและเหลี่ยมจัด หากไม่เจอกับตัวเองคิดว่าเขาคงไม่เชื่อคำพูดนั้น กระทั้งตอนนี้ เขาเชื่อคำพูดที่ได้ยินมาอย่างไม่มีข้อกังขา

“ว่าไง...” อนาธิปถามย้ำเมื่อคนสูงวัยเงียบไป “หากคุณไม่สนใจข้อเสนอของผมก็ไปหาที่อื่น เพราะธุรกิจของผมก็รายได้ดีมาก ถึงมากที่สุด จนผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องหาอย่างอื่นทำให้ยุ่งยาก”

คำพูดนั้น ทำให้ผู้สูงวัยถึงกับหันหลังให้ชายหนุ่มรุ่นลูกทันที โดยคิดว่าประตูห้องทำงานห้องนี้ คือทางออกที่ผู้สูงวัยอย่างเขาจะกลับไปตั้งหลักใหม่ โดยไม่หวนกลับมาที่นี่อีกเป็นอันขาด

ให้ตาย เขาก็ไม่ยอมยกลูกสาวคนเดียวให้เป็นนางบำเรอใคร...! ดิษกุล ย้ำชัดกับตัวเอง ผละออกจากห้องสี่เหลี่ยมหรูตกแต่งและประดับไว้อย่างดี

และตอนนี้...คำพูดนั้น ตามมาตอกย้ำอยู่ในโสตประสาทที่ทำงานปกติอยู่ ทุกคำพูด ทุกสีหน้าและท่าทางของชายหนุ่มรุ่นลูกรวมทั้งคำพูดถากถาง สร้างความเจ็บช้ำไม่คลาย

ใบหน้าผู้สูงวัยที่เคยเต็มไปด้วยความสุข ไม่เหลือร่องรอยเค้าเดิมไว้ให้เห็น ใบหน้าเครียดตึง บ่งบอกถึงเรื่องภายในสมองที่รวมตัวกันกดดันให้เขาต้องรีบหาทางออกให้เร็วที่สุด

สายตาหรี่แคบได้แต่มองขวดสีอำพันนิ่ง ตอนนี้ไม่มีอะไรดับทุกข์ได้ดีกว่าเจ้าสิ่งนี้ แก้วใหม่จึงถูกหยิบออกมาจัดการรินของเหลวใส่ลงไป กระดกขึ้นดื่มทีเดียวอย่างไม่รอช้า

ในห้องโถงที่เงียบสงบ หากวันนี้กลับทำให้คนที่อยู่ประจำร้อนรนด้วยคำพูดปลายสายจากแดนไกล “ธิป แม่ไม่เห็นด้วยที่จะทำแบบนั้นนะลูก แม่ขอ...คิดให้ดีก่อนทำ แม่เป็นห่วงรู้ไหม” เสียงร้องห้ามปลายสายทำเอาคนที่เพิ่งรับสายคิ้วขมวดเป็นปม

วันนี้คุณนายปรางวลัยมาแปลก?... อดแปลกใจไม่ได้ ที่อยู่ๆ โผล่มาถามคำถามที่เขาไม่รู้คำตอบ จะตอบว่าอย่างไรดี

“แหม...แม่ครับ ยิงคำถามผิดไปหรือเปล่า ปกติจะสั่งสอนอะไรผม ต้องถามสภาพความเป็นอยู่ของลูกชายก่อนเสมอนี่ครับ” เอ่ยน้ำเสียงเย้าต้นสาย มีเสียงอีกฝ่ายดัง หึ! ทำเอาคนหนุ่มถึงกับใจแป้ว สงสัยงานนี้มารดาเขาจะเอาจริง...!

“ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดี คนอย่างนายอนาธิปทำอะไรลงไป แม่คิดว่าสภาพความเป็นอยู่ของร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ดีแล้วถึงคิดจะทำ แต่แม่ไม่เห็นด้วยหรอกนะ”

ก็ข่าวที่รับรู้มามันน่าฟังซะที่ไหน แล้วนี่เมืองไทยข่าวคงดังกระฉ่อนไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ขนาดนางอยู่ถึงต่างเมือง ยังดังข้ามน้ำข้ามทะเลให้ตกใจเล่น ผู้หญิงเปรี้ยว รู้แต่แต่งตัวนางไม่ชอบ!...

คิ้วขมวดงุนงง จนเจ้าของวัย 30 หน้าผากเกิดเป็นรอยหยัก “อะไรครับ ที่คุณแม่บอกว่าไม่เห็นด้วย” คนที่มีเรื่องให้ตัดสินใจทำบางอย่างฉุกคิดว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ เพราะมันหลายเรื่องจนเขาไม่รู้ว่าแม่จะเห็นด้วยกับเรื่องอะไรบ้าง และมีเรื่องในอดีตรวมอยู่ด้วย

“ก็เรื่องนั้นไง” เสียงปลายสายเอ่ยอย่างร้อนใจ คิดว่าคนที่คุยสายด้วยเข้าใจเช่นเดียวกัน

“แล้วมันเรื่องไหนล่ะแม่ ผมมีตั้งหลายเรื่อง คิดว่าแม่ได้ฟังแล้วคงห้ามจนหูผมร้อนแน่ๆ” คนมีเรื่องจริงๆ เริ่มไม่ไว้ใจคำขอ เพราะเรื่องบางเรื่องเขาต้องปิดคนในครอบครัวให้ถึงที่สุด

ใบหน้าเข้มงอง้ำปรับท่าทางเพื่อผ่อนคลายไปในตัว สองขาแกร่งยกพาดไปบนโต๊ะทำงาน เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยขบ โดยในใจครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะโทรมา

“วันนี้แม่ใจดีจัง โทรทางไกลมาหาผม” เขาทำเฉไฉไปเรื่องอื่น เพื่อเลี่ยงคำขอ ที่เขาไม่รู้จะหาคำตอบไหนมายืนยันและให้ได้

“ตาธิป! นี่แม่เพิ่งกลับนะลูก จะให้แม่บินกลับไปจัดการกับแกอีกรอบหรือไง?” ต้นสายเอ่ยบอกลูกชายเสียงขุ่น

... ใช่นางเพิ่งกลับไปได้ไม่ถึงเดือน ข่าวคราวลูกชายก็เริ่มดังเข้าหูให้ได้ยินอีกระลอก ทั้งที่เพิ่งจัดการเรื่องแต่งงานให้น้องสาวไปไม่นาน

“คร้าบบบ” เขารับเสียงยานคาง ไม่คิดว่าแม่จะเอาเรื่องเขาจริงๆ หรอก

“อย่าทำเป็นเล่น แม่ไม่ชอบ ลูกต้องดูให้ดีไม่ใช่ไปคว้าใครมาก็ได้แม่ไม่ชอบ ไม่ว่ารวยหรือจน แม่รับได้ แต่ขอให้ลูกรักจริง ไม่ใช่แค่ฉาบฉวย ลูกกำลังเอาเปรียบผู้หญิงลูกรู้ตัวหรือเปล่า...?”

“แม่...!” เสียงทุ้มเรียกออกไปไม่เบานัก แต่ก็ไม่ใช่ตวาด เมื่อเห็นต้นสายเงียบไป คิดว่าสิ่งที่คนเป็นแม่ต้องการจะพูด คงพูดออกมาหมดแล้ว

“แม่จะไม่พูดซ้ำ... ลูกโตพอที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้แล้ว เรื่องทุกเรื่องตัดสินใจให้ดี เพราะนั้นมันหมายถึงทั้งชีวิตที่ลูกจะอยู่กับมัน” ตู๊ดๆๆ

“แม่ แม่!” ไม่ทัน เมื่อคนเป็นแม่วางสายไปแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel