ep21
ชาณหวี ก้มหน้านิ่ง ขยับเข้ารินยาหม้อยื่นให้กับพี่ชาย จริงอยู่ แม้เธอจักชื่นชอบองค์หริ ตั้งแต่แรกเจอ หากแต่บุรุษผู้นั้น มีเจ้าของเสียแล้ว แลเจ้าของนั้นก็เป็นสหายของเธอที่เล่นหัวมาด้วยกันยามนางเดินทางมาร่ำเรียนวิชาอยู่กลางป่า แม้หากหัวใจห้ามรักมิได้ แต่สมองต่างหากที่สั่งการว่าควรกระทำเยี่ยงใด
ชาณหวี ผู้ที่ประพฤติดีมาตลอด จึงทะนงตัวนักว่า รักของเธอนั้นจักเก็บอยู่ในหัวใจ หากสิ่งที่แสดงออกไปคือความภักดีต่อองค์เหนือหัวในอนาคต มิให้ใครรู้ นางขอแค่ได้เห็นแลรับใช้คนที่พระนางรักทั้ง 2 องค์ครองคู่และอยู่ด้วยกันด้วยความสุข นางพอใจแค่นั้น
หากแต่ใครจักรู้เล่า ว่าสิ่งที่ไม่คาดหวัง จักนำมาซึ่งความเปรมปรีดิ์ของอีกคน ขณะที่ผลักไสให้อีกคนจมสู่ความทุกข์มิรู้ลืม
อนินทิตปุระ กำลังเฉลิมฉลองครึกครื้น เตรียมงานสมโภชสถาปนาพระหริปรเมศวร ขึ้นเป็นพระเจ้าหริปรเมศวร ชยวรมัน ผู้หลอมรวมอาณาจักรจันทระเข้าด้วยกัน และเจ้าหญิงปราณ จักได้รับการอภิเษกขึ้นเป็น พระนางกัมพูชาราชเทวี มเหสีแห่งอาณาจักรจันทระ เมืองพระนครหริหราลัย
หริหราลัย ยามนี้คือ อาณาจักรที่รวมจันทระบนและจันทระล่างไว้ด้วยกัน แม้มีเทือกเขาพนมดงเร็กขวางกั้นก็มิใช่ปัญหา ทุกเมืองน้อมสวามิภักดิ์ ขณะที่ชวาเองนั้นกลับนิ่งเงียบ มิได้ส่งคนมาติดตาม มิมีใครรู้ว่า แท้จริงแล้ว หริปรเมศวร ชยวรรมัน คือลูกบุญธรรมที่ถูกอุ้มชูด้วยความรักของกษัตริย์ชวาในยามนั้น การเดินทางกลับบ้านเกิด มิใช่เรื่องลับ หากแต่ ผู้ที่คิดคดทุรยศมิยอมยกเมืองให้เขาต่างหากที่มันบิดเบือนสารจากเจ้าเหนือหัวแห่งชวา
“ปราณ ยามนี้เจ้าเป็นมเหสีแห่งเรา ไยเจ้าจึงออกบัญชาการเหล่าทหารพวกนั้นอยู่อีก”
พระนางกัมพุชราชเทวี ยิ้มเล็กน้อย เมื่อ หริปรเมศวร ชยวรรมัน เอ่ยถาม คล้อยหลังเมื่อนางกำนัลยอบตัวนำสำรับออกไป
“องค์หริ เราเพียงช่วยท่านทำการศึก บัดนี้แม้หลายเมืองสวามิภักดิ์ต่อเรา แต่ยังมีอีกหลายเมืองกระด้างกระเดื่องมิยอมรับในอำนาจแห่งเรา เราเพียงแบ่งเบาภาระท่าน”
“หึ หี เรารู้ เจ้ามิปล่อยให้เราเดียวดายในการศึก แต่เจ้ากรำงานเยี่ยงนั้น เมื่อใดกันเราจักมีผู้สืบสาย”
อ้อมกอดของภัสดาผู้เป็นที่รักนั้นอบอุ่นเสมอ พระนางเองก็ลืมไปที่จะทำหน้าที่ของมเหสี เหล่านางในที่ถวายตัวอยู่นั้น พระนางมิสู้ที่จะเดือดร้อน ด้วยพระนางเชื่อใจในองค์หริ ไม่คิดปันใจให้นางพวกนั้น แลพระองค์นั้นให้คำมั่นต่อพระนางแล้วว่า จักรักพระนางองค์เดียว
“เรามีเรื่อง ปรึกษาด้วยเจ้า”
“การใด ที่เราช่วยได้ ท่านบอกมาเถิด”
“นางที่ถวายงานใกล้ชิดต่อเจ้า ผู้นั้น เราขอได้หรือไม่”
พระนางกัมพุชราชเทวี นิ่งอึ้ง มิคาดในคำกล่าวของ พระเจ้าหริปรเมศวร ชยวรรมัน
“เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ เรามิได้ขอเจ้าหญิงนิลกาฬให้ตัวเราดอก เราขอให้สหายเจ้าต่างหาก” องค์หริฯ สรวลเสียงก้อง เพื่อจับแววตาความหึงหวงของพระนางได้
“เรา เห็นนางเป็นพระญาติคนสนิท ยกเว้นในการถวายตัวต่อเรา เพราะนางมิยินยอม แลเจ้าก็ขอเราไว้ เรายังจำได้ มิเลือน หากแต่หลายเดือนมานี่ ปุโรหิตของเรายังมิมีคู่ครอง แลเขาลอบชำเลืองนางอยู่บ่อยครั้ง”
“สายพราหมณ์จักบริสุทธิ์ด้วยเชื้อสายพราหมณ์นะเพคะ” พระนางกัมพุชฯ ตอบเบา พระนางเองแม้ระงับอาการระแวงได้โดยไว หากมิพ้นสายตาคมกริบขององค์หริฯ ไปได้
“พราหมณี เราก็จัดเตรียมไว้เช่นกัน แต่นางนั้น เราก็อยากจะจัดให้เขาด้วย”
“นิลกาฬ อาจไม่อยากร่วมวงศ์พราหมณ์ เรามิอาจบังคับฝืนใจใครได้ พระองค์ต้องตรัสถามเองแล้วเพคะ” พระนางกัมพุชฯกล่าวเลี่ยง อย่างน้อย นิลกาฬ คือ คนสนิทของพระนาง ที่รับใช้ได้ถูกใจ และฉลาดเฉลียวเก่งกาจ หากนางต้องแต่งงานไปกับใคร ก็ต้องแล้วแต่นาง
“เกศมวย เจ้าไปเรียกเจ้าหญิงนิลกาฬ มาหาเราที” พระนางกัมพุชฯ สั่นกระดิ่งเรียกข้าพระบาท เข้ามาสั่งการ ประเดี๋ยว นิลกาฬก็คลานเข้ามาเฝ้า
“น้องเรา เจ้าตรองดู เถิด ในสิ่งที่องค์หริฯ เสนอมา”
“กระหม่อม มิกล้ากราบทูล”
พระนางกัมพุชฯ เห็นดังนั้นจึ่งแน่ใจว่า นิลกาฬผู้นี้มีใจให้กับปุโรหิตของพระนางแน่แล้ว มิเช่นนั้น คนอย่างนางมีรึ จะกล่าวคำนี้ หากไม่ต้องการ นางย่อมกล่าวตรงว่า ไม่! แต่การกล่าวครึ่ง ๆ ให้คนอื่นตัดสินเช่นนี้ แสดงว่านางมีใจ
“ให้เรา ตัดสินใจให้รึ” พระนางแกล้งกล่าว
“ควรมิควร แล้วแต่จะทรงโปรด กระหม่อม” นิลกาฬหมอบนิ่ง ซ่อนตาที่อาจฉายแววบางอย่างให้พระนางจับได้
“งั้น ตามพระทัย องค์หริฯ เถิด เรามิขัดข้อง แลนิลกาฬก็มิขัดข้องในสิ่งที่พระองค์ให้เกียรติ”
“งั้นเอาตามนี้ เราจักจัดเมียพระราชทานให้ปุโรหิตของเราพร้อมกัน 2 คนเลยทีเดียว”
2 คน นิลกาฬที่ใจโลดแล่นด้วยยินดี พลันห่อเหี่ยวลงในบัดดล พราหมณ์หนุ่มที่ส่งสายตาให้มาแรมเดือนนั้น เคยเขียนเพลงยาวเกี้ยวพาหล่อน ไหนว่าจักทูลกษัตริย์ขอนางแต่งงานด้วย แล้วนี่มีใครอีกคนแทรกเข้ามาฤๅ
“นิลกาฬ เจ้าใยนิ่งเงียบ” พระนางกัมพุชราชเทวีกล่าวคำคล้อยหลังหริปรเมศวรเสด็จกลับตำหนัก
“นอกจากข้าพระองค์แล้ว มีใครอีกรึ ท่านพี่กัมพุช”
“นัยว่า เป็นพราหมณี ที่ติดตามกันมาแต่เมืองมหิธรปุระ เขาต้องดำรงตระกูลพราหมณ์ในสายเลือดบริสุทธิ์ไว้ แต่สำหรับบุตรของน้องเราที่จักเกิดในอนาคตมิต้องเป็นพราหมณ์ให้เหนื่อยยาก แต่จงมาเป็นนักรบของเรา”
