บท
ตั้งค่า

ep12

“ใครกันที่ยืนอยู่เบื้องหลังข้า” แม้สติถูกครอบด้วยน้ำเมา หากแต่ไม่หมดเสียทีเดียว เมื่อมีสิ่งผิดปกติทำให้พราหมณ์หนุ่มรับรู้ได้ในทันที

“เป็นเจ้าอีกแล้ว” หางตาที่ชำเลืองมองมายังสะเรียจากเมืองอนินทิตปุระดูเย็นชา เพิกเฉย

“ถ้าเจ้ามิรังเกียจ จะร่วมดื่มอวยพรกับข้าก็ได้” พราหมณ์หนุ่มยกจอกสุราชวนเชิญ มิคิดว่าสะเรียจากเมืองอนินทิตะปุระ ก้าวนั่งเคียงข้าง คว้าจอกสุราสาดลงลำคอรวดเร็ว

“ฉันอยากกลับบ้าน”

“เฮ่อะ.... มินานการศึกจะเริ่มต้น เจ้าจะอยู่บนนี้ หรือลงไปตายเบื้องล่างที่เมืองอนินทิตปุระกันเล่า”

อนินนาถไม่ตอบกลับยื่นจอกสุราเบื้องหน้าชายหนุ่ม เขามองนิ่งเพียงชั่วครู่ ก่อนรินสุราให้อีก

“เจ้าคงเป็นพระญาติขององค์หริ อยู่ที่นี่ให้สบายใจเถิด พ้นการศึก พวกเขาคงมารับเจ้า”

อนินนาถนิ่งเงียบ เธอได้รับอนุญาตให้เข้ามาคุยกับชายขี้เมาคนนี้ได้ แต่ห้ามกล่าวคำใดในเรื่องราวของเธอ นอกจากเธอต้องเป็นชาวอนินทิตะปุระตามคำสั่ง

“พิธีอภิเษกสมรสของใครกัน”

“เฮอะ! นี่เจ้าใยไม่รู้เรื่องการอภิเษกสำคัญนี่”

“เอ่อ ฉันเป็นเพียงคนร่วมขบวนของเมืองอนินทิตะปุระน่ะคะ”

“เจ้าพูดแปลก เมืองเจ้าพูดเยี่ยงนี้ฤา”

“ใช่ค่ะ ที่นี่คือที่ไหน แล้วงานนี่ คืองานอภิเษกของใครกัน”

“แล้วเจ้าไม่ได้เข้าไปถวายพระพรหรอกรึ”

“เอ่อ ฉันเหมือนกับว่าฝันว่าอยู่ในงานพิธีและในห้องหอของคู่บ่าวสาว”

ไม่ทันขาดคำ ดาบเงาวับก็จ่อที่ลำคอของอนินนาถเร็วปานงูฉก เธอได้แต่เหลือกตาเบิกกว้างอย่างลนลาน ไม่มีเสียงร้องอันใดให้ได้ยิน

“เจ้าบังอาจซ่อนตัวในห้องหอได้เยี่ยงไร” เสียงพราหมณ์หนุ่มคำรามน่ากลัวนัก

“เปล่า ๆ ฉันมิได้เข้าไปในห้องหอ ฉันเพียงรู้สึกว่าฉันฝันไป”

“นิมิต หรอกหรือ” ชายหนุ่มจ้องตาสะเรียเมืองอนินทิตะ

ปุระ เพียงชั่วครู่ ก็ลดดาบลง

น่าแปลกนัยน์ตาของสะเรียผู้นี้ ไม่เหมือนสะเรียคนอื่นๆ สีตาน้ำตาลเข้มไม่ดำขลับเหมือนชาวเมืองล่าง แววตาดูฉลาดเฉลียว แต่กลับถามคำถามที่งี่เง่าราวไม่รับรู้อันใด

“เจ้ามาจากเมืองอนินทิตะปุระจริงฤๅ” พูดพลางรินสุราส่งให้สะเรียต่อ เขาจะล่อหลอกถามสะเรียคนนี้ดูว่า นางเป็นใครกันแน่

“ฉันเป็นคนไทย เอ่อ อยู่เมืองอนินทปุระนานแล้ว แต่ไม่รู้จักอะไรเท่าไหร่เลยค่ะ” อนินนาถพูดปดเอาตัวรอด เพราะถูกกำชับมา

“คนไทย งั้นรึ ข้าไม่เคยได้ยินชื่อเมืองนี้”

“แล้วงานอภิเษกนี่ละ ฉันอยากรู้” อนินนาถยังคงไม่ลืมคำถาม

“องค์หริปรเมศวร ผู้เสด็จกลับจากชวา พระนัดดาของอดีตเจ้าเมืองอนินทิตะปุระ พระเจ้านฤบดินทราทิตย์ กับเจ้าหญิงปราณแห่งเมืองวิเภทะ ที่เจ้านั่งอยู่นี่ ยังไงล่ะ”

วิเภทะ เมืองใดกัน อนินนาถนิ่งคิด เธอไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์ ไม่ได้รับรู้เมืองเก่า เมืองแก่ นอกเหนือไปจากเขาพระวิหารที่เธอเคยไปทำข่าว แล้วมาเวลานี้ เธอมาอยู่ที่เมืองวิเภทะได้อย่างไรกัน เธอจำได้ว่า ครั้งสุดท้ายที่เธอล้มตัวลงนอน คือ เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา แล้วที่นี่ มันที่ใดกัน

“แล้วตอนนี้ พ.ศ. อะไรคะ”

“เจ้าพูดถึงเรื่องอันใดกัน” พราหมณ์หนุ่มขมวดคิ้วฉงนฉงาย

“ปีนี้ พุทธศักราชเท่าไหร่คะ”

“พุทธหรือ ลัทธินักบวชห่มกายด้วยผ้าสีกลัก ยังไม่มีที่นี่ดอก คนนับถือยังอยู่ห่างจากที่นี่นัก ที่นี่ยังนับถือพระศิวะและทวยเทพ”

พราหมณ์หนุ่มรินสุราให้ตัวเอง แววตานิ่ง เศร้า เขานึกรำคาญสะเรียนางนี้ แต่ใจหนึ่งก็ไม่อาจไล่พ้นไปได้ นางดูน่าสงสารและงดงามแปลกตา

“คุณเสียใจ” อนินนาถหยั่งเชิง ผมยาวหยิกสลวยของเธอทำให้ใบหน้าแตกต่างจากคนเมืองนี้

“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ”

“เจ้าหญิงพระองค์นั้น คนรักคุณหรือ”

ไกวัลย์นิ่งอึ้ง สะเรียนางนี้ อ่านใจเขาได้เสียแล้ว ไกวัลย์ไม่เข้าใจตัวเองว่า ในยามนี้ สีหน้าเขาอ่านง่ายนักหนา เพราะความเศร้า เสียใจ ฉายชัดบนใบหน้าคร้ามเข้มอย่างไม่อาจปิดบัง

“เจ้าไปได้แล้ว ข้าอยากอยู่คนเดียว” เมื่อคำถามแทงใจ ไกวัลย์ตัดใจไล่นางออกไป ไม่อย่างนั้นแม่นี่คงซักถามเขาราวคนโง่เง่าที่ไม่รับรู้เรื่องอันใดเลย

“ฉันไม่มีเพื่อน อยู่กับคุณมิได้หรือ” อนินนาถต่อรอง

ไกวัลย์ เหลือบตาดูนาง ไม่กล่าวคำหากยกโถสุราและจอกวางบนมืออนินนาถแล้วลุกเดินจากไป

“คุณ คุณ “อนินนาถขยับจะวิ่งตาม แต่ถูกรั้งไว้ด้วยข้าพระบาททั้ง 4 นาง

“นอกจากพวกคุณแล้ว ฉันคุยกับเขาได้เพียงคนเดียวหรือ”

“ท่านได้รับอนุญาตเพียงเท่านี้” ข้าพระบาทผู้มีวัยสูงสุดกล่าวคำ อนินนาถทรุดตัวนั่งที่เดิม รินสุราจอกแล้ว จอกเล่าจนหลับฟุบไป

ไกวัลย์ แอบดูอยู่ไม่ห่าง นิ่งคิด พี่เลี้ยงทั้ง 4 นางนี้ ล้วนคุ้นเคยกับเขาเป็นอันดี ไยต้องมาดูแลสะเรียขี้เมาคนนี้ด้วย นางมาจากเมืองอนินทิตะปุระ ใยไม่อยู่กับชาวเมืองอนินทิตะปุระ กลับต้องให้นางทั้ง 4 ของปราณคอยดูแลรับใช้

บางที นางอาจถูกทำให้เลอะเลือนด้วยยาพิษ หรือนางเป็นอดีตคนรักของหริปรเมศวร ซึ่งทำใจไม่ได้กับพิธีอภิเษกสมรสจนถึงขั้นไม่รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น มิน่าล่ะ นางจึงเฝ้าถามเขาเกี่ยวกับพิธีนี้ นางช่างน่าสงสาร ไม่ต่างจากเขา ที่หลงรักคนที่เขาไม่เลือก ด้วยฤทธิ์สุราและความเศร้าเสียใจเกินระงับ ไกวัลย์ สัญญากับตัวเองแล้วร่ำไห้ สาปแช่งไปยังห้องหอด้วยสายตาเจ็บแค้น

“ด้วยข้าตั้งมั่นคำสัตย์ บ้านเมืองแลอาณาจักรนั้นสำคัญ แลมิตรสหายร่วมดื่มโลหิตนั้นต้องแทนคุณ แต่เรื่องรักของข้ามิเกี่ยวข้องและมิอาจปล่อยวาง หากข้ามิได้สุขในรัก ผู้ใดก็อย่าหวังสุขแห่งรักนั้นเลย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel