22 | อย่าเรียกร้อง
“เช็คอยู่บนหัวเตียง กรอกแล้วออกไปให้พ้น!”เสียงห้าวสั่งเสียงเข้มก่อนจะลุกคว้าผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบเอาไว้ ตวัดขาเรียวยาวเข้าห้องน้ำที่อยู่เยี่ยงกับตียงนอนขนาดใหญ่ ไม่ทันที่มาคัสจะได้เข้าไปชำระร่างกายเอ็มม่าก็โอบกอดเขาไว้บดเบียดทรวงอกกับแผ่นหลังกว้างอย่างยั่วยวน
“ให้เอ็มม่าอยู่ก่อนนะคะ”น้ำเสียงออดอ้อนบอกเขา โอกาสดีๆ ไม่ได้มีมาบ่อยเพราะมาคัสไม่นอนกับผู้หญิงคนเดิมเป็นครั้งที่สอง
“อย่าเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้”เขาบอกอย่างไม่ยีระจับแขนเรียวเสลาออกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระคราบไคล
มาคัสเปิดฝักบัวเพื่อให้สายน้ำระงับความร้อนลุ่มในใจ หลังจากที่มีปากเสียงกับลินลดาเขาก็ออกจากปราสาทมายังคอนโดส่วนตัว และโทรหานางแบบสาวเพื่อมาเป็นเครื่องระบายอารมณ์ แต่มันกับไม่สุขสมเหมือนกับหญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย
เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มใช้เวลาส่วนตัวในห้องน้ำพอสมควร จึงตัดสินใจออกจากกห้อน้ำเดินมาหยุดที่เตียงนอนขนาดคิงส์ไซด์ ทิ้งตัวลงนอนคิดถึงเรื่องของลินลดาไปมา กว่าจะปลดปล่อยกามอารมณ์ก็ฟ้าเหลืองพอดีสายตาคมเหลือบมองนาฬิกา
07:04 AM
“เธอจะเป็นยังไงบ้างนะลินลดา”ชายหนุ่มคว้ามือถือที่อยู่บนหัวเตียงเพื่อติดต่อกับเลย์ลูกน้องมือซ้ายของเขาที่มีหน้าที่ตรวจตรา และดูแลลินลดาอย่างเร็วพลัน
“ครับนาย”เลย์รับสายผู้เป็นนายที่ออกจากปราสาทตั้งแต่เมื่อวานและไม่ติดต่อกลับมาเลย
“ลินลดาตื่นรึยัง”มาคัสกรอกเสียงไปตามสายถามถึงเธอคนที่เขาคิดถึง แค่เพียงไม่เจอเธอแค่วันเดียวเท่านั้นในใจหนุ่มก็ว้าวุ่น
“วันนี้ผมยังไม่เจอคุณลินลดาเลยครับ”
“ให้แม่บ้านขึ้นไปดูแล้วรายงานฉันภายในสิบนาที”สุรเสียงเข้มของมาเฟียหนุ่มสั่งเลย์ก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย ทำให้เขากดวางสายในทันที
เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องกระจกบานใหญ่เข้ามาในห้องนอนกว้าง ปลุกคนกำลังอยู่ในนิทรารมย์ให้ตื่นขึ้น ลินลดาปรือตาโฟกัสแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามากระทบตาเสียจนต้องหลับลงอีกครั้ง แขนเรียวยกขึ้นบดบังแสงรับอรุณในหัวหนักอึ้งจนแทบพยุงตัวลุกไม่ไหว
“โอ๊ย! ปวดหัว”ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นกุมขมับตัวเอง ร่างกายอันบอบบางทรุดโทรมจากการร้องไห้และคิดมากจนทำให้นอนไม่หลับ แต่ด้วยความอ่อนเพลียทำให้เธอเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
“กี่โมงแล้วนะ....”ขอบตาหมองคล้ำในหน่วยตายังคลอไปด้วยน้ำใสๆ หันมองนาฬิกาเรือนหรูที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง ลินลดาหอบร่างบอบบางของตนเข้าห้องน้ำเพื่อชำระทำความสะอาดและล้างคราบน้ำตา
ก๊อก!!!
“คุณลินลดาคะ”เสียงเรียกของแม่บ้านสาววัยกลางคนที่ทำงานในปราสาทนี้ได้หลายปีแล้ว เคาะประตูบานใหญ่เพื่อเรียกคนที่อยู่ข้างในซึ่งเลย์เป็นคนบอกให้เธอขึ้นมาดูนายหญิง
เธอก็ไม่รู้ว่าคุณมาคัสที่เธอเห็นตั้งแต่เด็กเอาผู้หญิงน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่ไหนมาปราสาทเมื่อวานนี้ ซึ่งเธอและสาวใช้คนอื่นๆ เป็นคนหิ้วกระเป๋าและจัดห้องให้ผู้หญิงของมาเฟียหนุ่มเอง
“ใครคะ”ลินลดาที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ตรวจดูความเรียบร้อยของร่างกายและแต่งหน้าอ่อนๆ ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา ถึงแม้จะดูไม่สดใสทว่าไม่สามารถบดบังความสวยธรรมชาติของเธอ
แอด~
“ป้าชื่อเอล เป็นแม่บ้านที่นี่คะ”แม่บ้านวัยกลางคนแนะนำตัวประจวบกับลิลดาที่เปิดประตูออกมาและส่งยิ้มให้
“ค่ะ! หนูลินลดานะคะเรียกลินเฉยๆ ก็ได้”หญิงสาวยิ้มอย่างเป็นมิตรและอาการที่นอบน้อมถ่อมตนก่อนจะถามกลับไปอีกว่า
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณมาคัสสั่งเลย์ ให้ป้ามาดูคุณลินน่ะค่ะ”เอลบอกและมองสำรวจใบหน้าหวานสักพัก ก่อนจะจ้องมองผู้หญิงตรงหน้านานเกินไปเมื่อได้สบเข้ากับดวงตาเศร้าหมองอันทรงเสน่ห์
“เชิญคุณลินทานข้าวที่ด้านล่างค่ะ”
“เรียกลินก็ได้ค่ะ”เธอรู้สึกเกรงใจไม่น้อยที่สาววัยกลางคนแทนตัวหญิงสาวว่าคุณ ก่อนจะส่งยิ้มให้แม่บ้านอีกครั้ง ทั้งที่อยากจะรู้ว่าคนใจร้ายได้อยู่ที่โต๊ะอาหารหรือเปล่า
“ป้าเอลคะ! คุณมาคัสอยู่ไหม”
“คุณมาคัสออกไปตั้งแต่เมื่อวานยังไม่กลับมาเลยค่ะ”เธอตอบความจริง หลังจากที่ได้ยินเสียงของเจ้านายของตนตะโกนลั่นปราสาทเมื่อวานช่วงบ่าย ก่อนจะกระชากรถออกไปด้วยความรวดเร็วจวบจนตอนนี้เช้าอีกวันยังไม่กลับมาเลย
“อ๋อค่ะ!”
“ป้าจะจัดโต๊ะรอนะคะ”ลินลดาพยักหน้าก่อนจะปิดประตูลงอย่างเบามือ เอลเดินลงมาชั้นล่างเพื่อตระเตรียมอาหารสำหรับผู้หญิงของมาคัส ที่รู้สึกถูกชะตาสงสารนัยน์ตาคู่เหมือนเก็บทุกความเจ็บปวดและความสุขไว้ในนั้น
ลินลดาลงมาชั้นล่างของปราสาทด้วยร่างกายที่ทรุดโทรมแต่เธอยังพอมีแรงเหลือจะก้าวเดินไปข้างหน้า และก็ไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานทั้งที่ตั้งใจจะออกไปกินข้าวกับเขาข้างนอกแต่ดันเกิดมีปากเสียงกันเสียก่อน
“ตักข้าวเลยนะคะคุณลิน”
“จ้ะ!”ลินลดาตอบสาวใช้หน้าใสที่อายุอานามน่าจะห่างกับเธอไม่กี่ปี ก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนที่เธอจะนั่งทานอาหารไทยน่าตาน่ารับประทานและรสชาติอร่อยติดลิ้นมากนั้นอย่างอ้างว้าง โดยมีลูกน้องของมาคัสยืนอยู่ด้านหลัง
หลังจากที่ลินลดาทานอาหารเสร็จแล้วเธอก็เดินสำรวจปราสาทไปเรื่อยๆ ซึ่งเธอเองก็เดินไม่ทั่ว และมาหยุดอยู่ในสวนหน้าปราสาทที่ตกแต่งอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อยโดยมีเลย์ยืนห่างจากเธอราวสิบเมตรได้
เขาคงให้ลูกน้องตามประกบเธออย่างกับเงา ทั้งที่เธออยากจะให้เป็นเขาเสียมากกว่าที่อยู่กับเธอ ร่างบางนั่งลงบนม้านั่งหน้าน้ำตกขนาดย่อมสูดดมกลิ่นเกสรดอกไม้เข้าอย่างเต็มปอด
“อยู่นี่เองหรอ!”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ก่อนที่ศีรษะทุยเล็กของเธอจะถูกจิกทึ้งจนมันติดมือของคนตามแรงกระทำ ลินลดาพยายามใช้มือของตนจับออกทว่าไม่เป็นผล
“โอ๊ย!...เธอเป็นใคร”
“แกมันน่าด้าน”ไม่ยอมตอบคำถามแต่กลับตอกหน้าลินลดาซ้ำจับใบหน้าหวานหันมาเผชิญหน้า ลินลดาประจักษ์แก่สายตาเมื่อเห็นผู้หญิงผมทองร่างเพรียวบางปากสีเพลิงแดงอย่างกับนางมารร้าย ก่อนที่ฝ่ามือหนักจะฟาดลงที่ซีกแก้มของเธออย่างแรง
เพี๊ยะ!!
“เอ็มม่าหยุดนะ!”เลย์ตรงปรี่เข้ามาจับร่างนางแบบสาวให้ออกห่างจากนายหญิง เขารู้ว่าเจ้านายหนุ่มต้องไปหาผู้หญิงคนนี้มาแน่นอน มิเช่นนั้นเจ้าหล่อนคงไม่มาอาละวาดแบบนี้
“มันเป็นใครเลย์!”ลินลดามองผู้หญิงที่ทำร้ายตนตาเขียวปัด ก่อนจะถามลูกน้องที่จับร่างสะโอดสะองอีกทั้งยังสังเกตเห็นลำคอขาวผ่องเจ้าหล่อนมีรอยแดงเป็นจ้ำอยู่
“หึ! ฉันก็เป็นเมียคุณมาคัสน่ะซิ ดูรอยนี่ซะเพราะเมื่อคืนเขาอยู่กับฉัน”เอ็มม่าเอียงคอเรียวที่มีรอยที่มาคัสสร้างเอาไว้ให้ดู ยกยิ้มออกมาด้วยความสะใจเมื่อเห็นสีหน้าถอดสีเปลี่ยนไปของคนภรรยาที่มาคัสยกย่อง
“มะ...ไม่จริง”
“จริงสิ!”เอ็มม่ายังคงตอกย้ำให้ลินลดาได้รับรู้ ยิ่งเห็นอีกคนยิ่งดิ้นเร้าเธอยิ่งสาแก่ใจ
“กรี๊ด!!!.....เอามันออกไป”ลินลดาถึงกับกรีดร้องด้วยราวกับคนขาดสติ เธอเจ็บปวดยิ่งเสียกว่ารู้ว่าตนเกิดมาไม่มีพ่อและแม่เสียอีก ความรักที่มอบให้อสูรร้ายอย่างเขาหมดหัวใจ ทว่าไม่เป็นผลสิ่งที่ตอบแทนคือเขาทิ้งเธอไปอยู่กับผู้หญิงอีกคน
เลย์ลากตัวของเอ็มม่าให้พ้นจากสวน สงสารนายหญิงที่มีอาการอย่างคนคลุ้มคลั่ง เพราะปกติเขาเห็นทุกวันเธอจะเป็นคนยิ้มเก่งถึงแม้ดวงตาจะเศร้าหมองก็เถอะ นี่ถ้าเจ้านายเขารู้เข้าชะตาหัวของเขาต้องขาดแน่ๆ ที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นมาทำร้ายผู้หญิงของมาเฟียหนุ่มได้
