CHAPTER 3
เพล้ง!
“งั้นกูก็เอามึงก็แตกคาร้าน!”
ลอยได้… เมาแล้วทำไมตัวลอยได้
ปึก!
ตัวฉันลอยลงกระทบทับไปยังตัวของไอ้ปลาทันทีด้วยความมึนอยู่จึงไม่ได้สนใจนักว่าเป็นเสียงใครที่มาช่วยนาทีนี้ฉันบอกได้เลยว่าไม่สนใจทั้งนั้นขนาดตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอดสติสตางค์มันหายไปทีละนิดๆ จากนั้นภาพก็ตัดไป...
“เจ๊รุ้งๆ!”
ฉันดันตัวเจ๊ออกจากร่างด้วยความทุลักทุเลถึงตัวเล็กเพรียวบางขนาดไหนมันก็ยังหนักมากน้ำหนักตัวสี่สิบกว่ากิโลถูกปล่อยให้ฉันยกเต็มๆ แบบนี้ในขณะที่เจ๊รุ้งผู้เมามายไม่ตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกเลย ไอ้ปลาน้อยหอยสังข์คนนี้จึงนำร่างที่ไร้สติของเจ๊เอนเอียงซบไหล่ตัวเอง
สภาพเจ๊เมายับ!
ผู้ชายยังรับไม่ได้...
จากนั้นก็มองดูผู้ชายคนนั้นเขาเข้ามาช่วยเจ๊รุ้ง ชายที่มีสีผมแดงสว่างจ้าแบบไม่ได้เซตสะท้อนกับแสงไฟในร้าน ฉันเห็นเพียงเสี้ยวใบหน้าเรียวจมูกรั้นโด่งเชิดกับสายตาที่โหดเหี้ยมแสดงออกอย่างไม่ปิดบังจ้องไปยังไอ้แก่ที่ฉุดเจ๊รุ้งไม่กระพริบตาเลย
สายตาโคตรเอาเรื่องวะ
ความสูงโปร่งช่วงขายาวดูดีมากสไตล์โอปป้ายิ่งสวมใส่กางเกงยีนสีดำขาดช่วงเข่าส่วนช่วงไหล่กว้างนั้นถูกปกปิดไปด้วยเสื้อโอเวอร์ไซส์ไหมพรมเนื้อแสนบางที่สีข้างหนึ่งเป็นสีดำส่วนอีกข้างสีแดงสด เนื้อผ้าขาดเป็นบางจุดจึงเผยสีผิวเนื้อขาวสะท้อนออกมาสู่สายตาคนรอบข้าง
“ไอ้ห่ามึงเป็นใครกล้าทำกับกูงั้นเหรอวะ?”
“กู...” สายตาเขาน่ากลัวมากถึงมากที่สุดอีกทั้งในมือเขายังกอบกำเศษปากขวดเหล้าอันแหลมคมที่เหลือจากการฟาดลงบนหัวไอ้แก่นั้นแน่น “เป็นคน หมาคงทำอย่างกูไม่ได้”
ถุย!
ไอ้แก่นั้นลุกขึ้นจากพื้นโดยที่มีมือข้างหนึ่งกุมหัวเอาไว้แน่นขณะเดียวกันเลือดสีแดงฉานก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังทำตัวอวดดีโดยการถุยน้ำลายลงพื้นก่อนทำใบหน้ากวนบาทาสุดๆ แล้วมันก็เป็นเวลาเดียวกันที่มีคนจำนวนหนึ่งใส่ชุดสีดำกู่เข้ามารอบข้าง
คงเป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยของร้านมั้ง
“แต่หน้ามึงเหมือนหมาวะไอ้หนุ่มขี้เสือก!” สายตาจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกันก่อนที่จะเบี่ยงมองมายังร่างเจ๊รุ้ง “นังนั้นกูจอง มึงมาช้ากว่ากูอย่าเสล่อ”
“หึ” ในทางกลับกันน้ำเสียงเยาะเย้ยก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงเงียบงัน ไม่มีใครรับรู้ว่าดวงตาคู่นั้นส่งความคิดความรู้สึกเช่นไรให้คู่กรณี “ทำไงได้... อยากเสล่อเสียด้วยสิ”
ผัวะ!
เขาเตะตัดขาหรือเรียกอีกอย่างว่าเจาะยางทำให้ไอ้แก่นั้นทรุดลงกับพื้นร้านอีกครั้งโดยที่คนทำเอามืออีกข้างสอดใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกข้างก็ยังถือปากขวดแหลมท่าทางสบายสุดๆ มันมีเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งที่ผู้ชายรูปหล่อคนนั้นมองมายังร่างอันไร้สติของเจ๊รุ้ง สายตาที่อยากเชือดเฉือนร่างกายของเจ๊ให้แหลกเป็นชิ้นๆ หรือว่าฉันรู้สึกไปเองวะ เรื่องราวเริ่มบานปลายใหญ่ขึ้นจนลูกค้าหนีหายเหลือเพียงไม่กี่โต๊ะที่มองดูสถานการณ์เมื่อมีเสียงฮือฮาดังขึ้นรอบตัวยกใหญ่
เขาทำอะไร...
เป็นครั้งแรกของการอ้าปากค้างเนื่องจากสิ่งที่เห็นนั้นมันทนการกดดันเหลือเกิน ปลาน้อยหอยสังข์คนนี้หัวใจเต้นตึกตักแทบทะลุกระจายออกมาโลดแล่นข้างนอก ยิ่งตอนที่ผู้ชายรูปหล่อผมแดงค่อยๆ ย่อลงนั่งยองๆ ก่อนเคลื่อนมือข้างที่กำปากขวดแน่นเข้าไปจ่อถึงคอหอยไอ้แก่นั้น ฉากนี้ความหวาดเสี้ยวแล่นจุกขึ้นมาจดจ่อลำคอ ฉันเชื่อว่าทุกคนที่ดูลุ้นแทบฉี่ราด
“อย่าทำ มึงอยากได้เอาไปเลยอีนั้น...”
“เธอเป็นของมึงเหรอ?” ทำไมผู้ชายหล่อผมแดงถึงพูดเหมือนปกป้องเจ๊รุ้งวะหรือว่าเขาจะเป็นคนชื่อเร็น พี่ชายเจ๊รุ้ง ประโยคที่สองคนนั้นพูดกันมันดังนะ ดังจนได้ยิน “ยัยนั่นรู้จักมึง?”
“ไม่ๆ ไม่รู้จัก!”
ทันใดเจ๊รุ้งก็ลุกขึ้นพูดเสียงดังด้วยท่าทางมั่นใจและก็ทรุดลงซบไหล่ฉันเหมือนเดิม เมามันละเมอได้ขนาดนี้เชียวเหรอ
“มึงได้ยินยังวะที่ยัยนั่นพูด?”
“ดะ ได้ยิน” ไอ้แก่คนนั้นตอบช้าจึงโดนกระชากผมเงยใบหน้าขึ้นสบนัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นมันปราศจากความล้อเล่น “ฉันไม่รู้จักนังนั้นแค่เข้าไปหาเฉยๆ”
“เข้าไปเตาะเด็กว่างั้น?”
“ใช่...” ไอ้แก่นั้นรับปากแบบตรงๆ บอกเลยว่าโคตรกระดากหูฉันจริงๆ
“ยัยนั่นเด็กกู!
