บท
ตั้งค่า

ทางเลือก (2/2)

เนื่องจากพี่พู่บอกว่าลูกค้าของไนท์คลับจะเยอะช่วงสามทุ่มเป็นต้นไป ฉันจึงขอเธอมาทำพาร์ทไทม์ที่ร้านเบอร์เกอร์ก่อน ซึ่งฉันเริ่มงานตั้งแต่สี่โมงเย็น เลิกงานตอนสองทุ่มตรง หมายความว่าตอนนี้ฉันมีเงินเพิ่มจากสามร้อยเป็นหกร้อยยี่สิบแล้ว…จะบอกว่าเป็นเรื่องตลกร้ายก็คงจะใช่ เพราะขนาดฉันทำงานแทบไม่ได้พัก ฉันยังได้เงินไม่ถึงหนึ่งพันบาทเลย

ถ้าฉันปฏิเสธงานเซอร์วิสลูกค้า ยังไงคืนนี้ฉันก็ไม่มีทางได้เงินครบห้าพัน ดังนั้นถึงฉันจะรู้ว่ามันเป็นงานที่ไม่เหมาะกับฉัน แต่นี่คือทางเลือกเดียวที่ฉันมี และถึงฉันจะรู้ถึงความเสี่ยงของงานนี้ แต่สุดท้ายเพื่อแม่…ฉันก็ต้องยอมทำอยู่ดี

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ ลูกค้ามากี่ท่านครับ?”

“เอ่อ ฉันไม่ใช่ลูกค้าค่ะ คือ…พอดีพี่พู่นัดฉันมาน่ะค่ะ”

“อ๋อ น้องอาลัวใช่มั้ย?”

“ใช่ค่ะ”

“โอเค ตามมาทางนี้เลย คุณพู่กำลังรออยู่”

ฉันเดินตามพนักงานต้อนรับเข้าไปในร้าน ระหว่างทางก็มองสำรวจรอบๆ ตัวไปด้วย ฉันไม่เคยเข้าไนท์คลับมาก่อน แต่ดูจากเฟอร์นิเจอร์กับไฟตกแต่งของที่นี่ก็พอจะเดาได้ว่าลูกค้าน่าจะเป็นคนมีระดับพอสมควร พูดตรงๆ คือทุกอย่างดูหรูหรากว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก แล้วยิ่งชั้นสองของร้านนะ…อย่างกับแหล่งมั่วสุมของพวกคนรวยอ่ะ

ชั้นแรกของร้านเหมือนจะเป็นสถานที่สำหรับลูกค้าธรรมดาที่มีเงิน มีลานให้เต้นตรงกลาง มีเพลงบีทหนักๆ มีบาร์เครื่องดื่มที่ต้องเดินไปสั่งเอง โต๊ะและเก้าอี้ก็กระจัดกระจายไม่ได้จัดเป็นสัดส่วนต่างจากชั้นสองที่มีลักษณะเป็นเลาจ์ คือมีส่วนกลางสำหรับพูดคุยกัน มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงการพนันและสิ่งผิดกฎหมายด้วย

…ฉันเชื่อแล้วล่ะว่าพี่พู่ใหญ่จริง ถึงขนาดเปิดคาสิโนในไนท์คลับโดยไม่โดนตรวจสอบได้แสดงว่าครอบครัวของเธอต้องทรงอิทธิพลมากแน่นอน

อ้อ นอกจากพนักงานชายหญิงซึ่งสวมชุดเครื่องแบบเดียวกันแล้ว ฉันยังสังเกตเห็นผู้หญิงสวยๆ หลายคนกำลังดูแลลูกค้าอยู่ด้วยล่ะ การแต่งกายของพวกเธอก็…ออกจะโชว์เนื้อหนังนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ดูโป๊จนเกินงาม และถ้าพวกเธอเต็มใจที่จะใส่ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเสียหายอะไร

พอคิดว่าฉันต้องทำหน้าที่เหมือนพวกเธอแล้วก็รู้สึกกดดันแฮะ พวกเธอสวยกันมากเลยนะ หุ่นก็ดีแถมยังเป็นมืออาชีพมากๆ ด้วย ฮือออ ฉันจะไหวจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย

ก็อกๆ

แอ๊ด

“ขออนุญาตครับคุณพู่ เด็กที่คุณพู่บอกมาถึงแล้วครับ”

“โอเค ให้เข้ามาเลย”

ตึก

“สะ สวัสดีค่ะ”

ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน พี่พู่ในตอนนี้ไม่เหมือนเจ้าของร้านเบเกอรี่ที่ฉันรู้จักเลยอ่ะ เธอให้ความรู้สึกเหมือนมาเฟียในหนังยังไงยังงั้นเลย

“เป็นไง ตื่นเต้นมั้ย?”

พี่พู่ปิดแฟ้มเอกสารแล้วเงยขึ้นถามฉัน

“ก็…นิดหน่อยค่ะ”

“ไปอาบน้ำก่อนมั้ย? กลิ่นเฟรนช์ฟรายด์หึ่งเลย”

พอได้ยินแบบนั้น ฉันก็ผมตัวเองมาดมทันที…มีกลิ่นจริงด้วย

“ขอโทษนะคะพี่พู่ หนูเสร็จจากงานก็รีบมาเลยน่ะค่ะ ไม่มีเวลาได้เตรียมตัว…”

“ไม่เป็นไร” พี่พู่คลี่ยิ้มบางก่อนจะผายมือไปยังประตูสีถ่าน “ใช้ห้องน้ำของพี่ก็ได้ เสร็จแล้วเราค่อยมาคุยกันเรื่องชุด”

“อะ โอเคค่ะ”

ฉันไปอาบน้ำสระผมตามที่พี่พู่บอก ในหัวก็เอาแต่คิดฟุ้งซ่านถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด ใจหนึ่งก็กลัวแต่อีกใจก็อยากได้เงิน แต่ต่อให้อยากหนีฉันก็ไม่สามารถทำได้ ฉันมาไกลขนาดนี้แล้ว มีแต่ต้องเดินหน้าต่อเท่านั้น

อย่างน้อยมันก็เป็นงานที่ได้เงิน ฉันไม่ได้ทำฟรีๆ สักหน่อย…

…ฉันก็ยังพอมีมูลค่าอยู่บ้างเหมือนกัน

ตึก ตึก ตึก

พอเปิดประตูออกมาอีกที ฉันก็เห็นผู้หญิงอีกคนอยู่อยู่ในห้อง เธอหันมามองฉันตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าก่อนจะหันไปคุยกับพี่พู่

“คุณพู่ตาถึงมากเลยค่ะ”

“ใช่มั้ยล่ะคะ พู่บอกแล้วว่าคนนี้เด็ดจริง”

“เอ่อ…”

“อ้อ อาลัว…นี่พี่แนน ช่างแต่งหน้าทำผมของร้านพี่”

“สวัสดีค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยกมือไหว้

“สวัสดีจ๊ะ ชื่ออาลัวใช่มั้ย? เรียกพี่ว่าพี่แนนได้เลยนะ”

“ค่ะ พี่แนน”

“ว่าแต่อาลัวมีทรงผมกับสไตล์การแต่งหน้าที่อยากได้รึยัง? หรือให้พี่แต่งตามใจพี่ได้เลย”

“เอ่อ ยังไม่มีหรอกค่ะ…พี่แนนแต่งตามใจพี่เลยก็ได้ค่ะ”

“โอเค”

พี่แนนเดินเข้ามาหาก่อนจะใช้มือประกบแก้มทั้งสองข้างของฉัน เสียงใสพูดอย่างร่าเริง

“คืนนี้พี่จะทำให้น้องเป็นดาวเด่นเอง!”

พี่แนนให้ฉันเลือกชุดที่จะใส่ก่อนเพื่อดูแนวโน้มว่าควรแต่งหน้าทำผมแบบไหน ซึ่งชุดที่มีให้เลือกก็หลากหลายมาก ทั้งชุดจีน ชุดซานต้า ชุดแมว ชุดกระต่าย ชุดตำรวจ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทุกชุดมีเอกลักษณ์เหมือนกันคือแฝงไปด้วยความเซ็กซี่ ฉันจึงเลือกโดยใช้วิธีหาชุดที่เปิดเผยน้อยสุด สุดท้ายจึงได้ชุดเดวิลมา

ชุดเดวิลเป็นชุดสองชิ้นประกอบด้วยเสื้อกับกระโปรง ตัวเสื้อเป็นเสื้อหนังเอวลอยสีดำขลับ มีเชือกสีแดงสำหรับผูกคอหนึ่งเส้นกับเชือกเส้นยาวที่ร้อยสลับเป็นฟันปลาที่ด้านหลังอีกหนึ่งเส้นโดยปลายสายซึ่งถูกผูกเป็นโบว์อยู่ด้านล่างเหนือสะโพกขึ้นมาประมาณห้านิ้ว กระโปรงเป็นกระโปรงเทนนิสสีดำเอวต่ำความยาวพอแค่ปิดแก้มก้นมิด มีหางเดวิลปลายแหลมงอกออกมาตรงกึ่งกลางพอดีเด๊ะ โชคยังดีที่มีกางเกงขาสั้นที่ติดมากับถุงน่องตาข่ายสวมทับกางเกงชั้นในอีกที

สรุปก็คือถ้าไม่มีเชือกร้อยตรงเสื้อ หลังของฉันก็เกือบจะเปลือยเปล่าแล้ว และกระโปรงเทนนิสที่ไม่สามารถใช้ตีเทนนิสได้จริงๆ ก็สั้นจนเกินเหตุ แต่เชื่อเถอะ…ชุดนี้น่ะเซฟที่สุดแล้ว

เฮ้ออ อย่างน้อยๆ ถุงน่องตาข่ายก็ทำให้ฉันไม่หนาวขามากเท่าไหร่นะ

“เอาล่ะ เสร็จแล้ว น้องอาลัวสวยมากเลยค่า”

และเพราะชุดที่ฉันเลือกใส่เป็นชุดเดวิล การแต่งหน้าจึงเป็นแนวร้ายๆ บิชชี่หน่อยๆ ซึ่งฉันไม่เคยแต่งแบบนี้มาก่อน พอมองตัวเองในกระจกแล้วก็ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ดีเหมือนกัน

…ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสวยขนาดนี้

“ขอบคุณนะคะ”

ฉันยิ้มให้พี่แนนในขณะที่เธอกำลังคาดผมซึ่งมีเขาเดวิลเล็กๆ สีแดงสองข้างลงบนศีรษะของฉัน อ้อ ส่วนทรงผมของฉันคือผมดัดลอนเป็นคลื่นล่ะ ดูดีสุดๆ!

“ทีนี้น้องก็ออกไปรับลูกค้าได้แล้ว ขอให้ได้เงินเยอะๆ เลยน้า”

“…ค่ะ”

ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นยืน พี่พู่ก็เดินเข้ามาจับเก้าอี้พร้อมกับเอามือจับพนักเอาไว้

“พี่ขอบรีฟนิดนึงนะ”

“…ได้ค่ะ”

“ร้านนี้มีสามชั้น ชั้นแรกคือชั้นของลูกค้าระดับธรรมดา ไม่จำเป็นต้องมีเซอร์วิสเกิร์ล ส่วนชั้นที่สองหรือก็คือชั้นนี้จะเป็นของลูกค้าระดับ VIP อาลัวจะได้ประจำชั้นนี้ ส่วนชั้นที่สาม…เป็นชั้นสำหรับลูกค้าระดับ VVIP”

“….”

“จะมีแต่เซอร์วิสเกิร์ลระดับท็อปเท่านั้นที่ถูกเรียกขึ้นไปบริการ เพราะงั้นอาลัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชั้นนี้ ไม่ต้องไปสนใจนักก็ได้”

“…ถามได้มั้ยคะว่าชั้นสามเป็นยังไง?”

“อืมม มันเป็นห้องๆ ไม่ได้เป็นเลาจ์น่ะ มีอยู่สี่ห้องสำหรับลูกค้าแต่ละคน”

แสดงว่าลูกค้าระดับ VVIP มีอยู่แค่สี่คนงั้นเหรอ?

“อาลัวมีคำถามอะไรมั้ย?”

“เอ่อ ไม่มีค่ะ”

ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว

“อ้อ พี่ขอเพิ่มเติมอีกนิด…ส่วนใหญ่ลูกค้าที่นี่จะเป็นวัยมหาลัยจนถึงวัยทำงาน มีส่วนน้อยที่จะอายุเกินห้าสิบ ส่วนเรื่องเงิน…พี่รับรองได้ว่ากระเป๋าหนักทุกคน”

“….”

“พร้อมรึยังเรา?” พี่พู่ถามพร้อมกับโอบไหล่ฉัน

“พะ พร้อมแล้วก็ได้ค่ะ”

“มั่นใจหน่อยสิ พร้อมรึยัง?”

“…พร้อมค่ะ”

“โอเค งั้นออกไปหาพนักงานข้างนอกได้เลย เดี๋ยวเขาจะจัดการต่อเอง”

“โอเคค่ะ”

“สู้ๆ จ้า”

…อย่างกับจะไปออกรบ

หลังจากออกมาจากห้องทำงานของพี่พู่ พนักงานก็ติดเลข 13 ไว้บนอกฉันแล้วพาฉันไปนั่งรวมกับเซอร์วิสเกิร์ลที่เหลือ ซึ่งที่นั่งคือโซฟาตรงหน้าบันได เวลามีลูกค้าเดินขึ้นมาพวกเขาจะเห็นเซอร์วิสเกิร์ลเป็นอย่างแรก

พนักงานบอกกับฉันว่าถ้ามีคนเรียกหา เขาจะมาตามฉันไป แต่ถ้าฉันยังว่างภายใน 30 นาที ฉันสามารถออกไปโชว์ตัวเพื่อเรียกความสนใจได้ ซึ่งฉันเข้าใจกติกาทุกอย่างดี แต่ก็ยังเกร็งๆ กับสายตาของลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่

เหล่าเซอร์วิสเกิร์ลก็มีทั้งคนที่มองฉันอย่างเป็นมิตรและศัตรู พวกเธอน่าจะรู้ว่าฉันเป็นเด็กเส้นของพี่พู่ถึงได้ตั้งแง่กับฉัน ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้มาทำงานนี้เพื่อมีเพื่อนสักหน่อย

“เบอร์สิบสาม”

“…คะ?”

“มีลูกค้าเรียกหา”

เดี๋ยว เร็วไปมั้ย? ฉันยังนั่งไม่ถึงห้านาทีเลยนะ!!

ฉันเดินตามพนักงานไปที่เลาจ์แบบงงๆ ระหว่างเดินก็มีลูกค้าบางคนมองมาบ้าง สงสัยมันคงเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นี่ล่ะมั้ง

“เบอร์สิบสามมาแล้วครับ”

ฉันเห็นลูกค้าพยักหน้าจากทางด้านหลัง ดูจากการแต่งกายกับรูปร่างแล้วเขาน่าจะอายุไม่เกินสามสิบปีนะ

ตึก ตึก ตึก

“สวัสดีค่ะ…”

เอ๊ะ หน้าคุ้นๆ แฮะ เหมือนเคยเห็นที่มหาวิทยาลัยเลย

ฉันมองลูกค้าที่กำลังนั่งไขว้ห้างมือถือแก้วน้ำสีอำพันไม่วางตา คุ้นมาก ไม่รู้ว่าใครแต่ที่แน่ๆ คือหล่อเกินคนธรรมดา

คิ้วเข้ม จมูกโด่ง กรามเป็นสันนูน ริมฝีปากหยักสวย ผิวขาวซีด ดวงตาคมสีดำสนิท…ทุกอย่างบนใบหน้าเขามันสมบูรณ์แบบราวกับภาพวาดของจิตรกรชื่อดังยังไงยังงั้น

“จะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืนหรือจะนั่งลง?”

“เอ่อ นะ นั่งค่ะ”

ฉันรีบนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา

“…คุณลูกค้าอยากให้ฉันบริการอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ?”

“หึ มือใหม่จริงๆ ด้วย”

“….”

“จำฉันได้รึเปล่า?”

“คะ?”

“เราเคยนั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันตอนรับน้อง”

ฉันเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเบิกตากว้าง

“คนที่มากับผู้หญิงหน้าตาสวยๆ น่ะเหรอ?”

“ใช่” เขาพยักหน้า ถอนหายใจแล้วพูดต่อ “แฟนฉันเอง”

“อ้าว งั้นแฟนคุณโอเคเหรอคะที่คุณมาที่นี่”

“ไม่โอเคก็ดีน่ะสิ”

“ฮะ?”

“เอาเป็นว่า” เขายื่นเช็คเงินสดมาให้ฉัน “ฉันให้เธอสองหมื่นถ้าเธอยอมตกลงอยู่เป็นเพื่อนฉันคืนนี้”

“…แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างคะ?”

“แค่นั่งเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร”

“….”

“ทำได้มั้ย?”

ถึงข้อเสนอจะฟังดูแปลกๆ แต่ฉันคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะหลอกฉันนะ

“…ได้ค่ะ” ฉันตกลงพร้อมกับรับเช็คมาไว้กับตัว

“โอเค คอยดูอย่าให้ฉันไปมีเรื่องกับใครด้วยล่ะ เวลาเมาฉันชอบฆ่าคน”

“….”

“ล้อเล่นน่ะ” เขาพูดแบบนั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไม่อะไรทั้งนั้น

“อยากรู้เหตุผลที่ฉันเลือกเธอรึเปล่า?”

“เอ่อ อยากรู้ก็ได้…”

“เพราะฉันรู้ว่าเธอจะเงียบ”

“….”

“ฉันมาที่นี่เพื่อเสพบรรยากาศเฉยๆ เพราะถ้าอยู่คนเดียวก็คงจะฟุ้งซ่านอีก”

ฉันควรเงียบแล้วฟังเขาสินะ

“อ้อ ฉันชื่อกูลนะ เธอชื่ออะไรล่ะ?”

“อาลัวค่ะ

“โอเค ยินดีที่ได้รู้จักนะ…อาลัว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel