บท
ตั้งค่า

บทที่ 16 เรียนรู้มนุษย์ (5) [1/3]

หวงจิ้งหรงยิ้มอย่างยินดี นางไม่ประหลาดใจกับความสามารถของบุตรสาวตัวน้อยอีกแล้ว นับแต่รับอู๋เชียนหยิงเป็นบุตรีบุญธรรม บุตรสาวผู้นี้ก็แสดงให้นางและอู๋ซิงว่านเห็นถึงความสามารถในด้านต่างๆ หากนางจะฝึกฝนได้ไม่ดีก็เพราะนางไม่ชอบเท่านั้น ที่ย่ำแย่ที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องดนตรีที่อู๋เชียนหยิงไม่สันทัดเอาเสียเลย ไม่ว่าหวงจิ้งหรงพยายามสอนเพียงใด นางก็เพียงแค่เอาตัวรอดได้อย่างทุลักทุเล ขณะที่การเขียนอักษร วาดภาพ หมากล้อม นางกลับทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ

เสี่ยวเฮยเองก็ประหลาดใจกับความสามารถในด้านดนตรีของนาง เพราะมันทราบดีว่ามหาเทพชางเล่ยเก่งกาจไปเสียทุกด้าน มีแต่เทพมารทลายสวรรค์จื่อเซียเท่านั้นที่อ่อนด้อยในเรื่องนี้ สงสัยว่าอู๋เชียนหยิงรับสืบทอดความย่ำแย่ในด้านดนตรีมาจากเทพมารทลายสวรรค์จื่อเซียไว้เต็มเปี่ยม คิดถึงเรื่องนี้เสี่ยวเฮยก็ต้องแยกเขี้ยวยิงฟันอย่างขบขัน

ผ่านไปอีก 7 วัน สำนักวิญญาณเทพจึงติดประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนและคะแนนที่ทำได้ อู๋เชียนหยิงและหวงจิ้งหรงเห็นคนมุงดูที่กระดานไม้ที่ติดประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่านแล้วก็ต้องถอดใจ เพราะคนมุงดูกันแน่นเหลือเกิน

“เชียนหยิง รอสักพักแล้วค่อยเข้าไปดูนะลูก คนเยอะเหลือเกิน”

“เจ้าค่ะ”

ทว่ายามนี้กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น

“มีเด็กสอบได้คะแนนเต็มด้วยรึ”

“ใช่ เป็นเด็กผู้หญิงเสียด้วย เช่นนี้เด็กผู้ชายจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”

“นี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าพันปีเลยนะที่มีคนสอบได้คะแนนเต็ม”

“เด็กผู้หญิงที่สอบได้คะแนนเต็มมีนามว่าอย่างไร”

“อู๋เชียนหยิง ถ้าจำไม่ผิด นางเป็นบุตรีบุญธรรมของอัครเสนาบดีอู๋ซิงว่าน”

“นางโกงหรือไม่ ใครจะไปทำได้คะแนนเต็ม”

“หากนางโกง เจ้าคิดว่านางจะรอดสายตาของผู้คุมสอบรึ เจ้าก็ทราบดีว่าผู้คุมสอบล้วนมีระดับลมปราณอย่างน้อยก็พิชิตขั้นห้า จะรอดสายตาพวกเขา เจ้าก็ต้องมีระดับลมปราณสูงกว่า”

“นางก็ได้แต่เก่งเท่านี้แหละ เดี๋ยวพอถึงรอบทดสอบฝีมือ เด็กผู้หญิงจะมาสู้เด็กผู้ชายได้อย่างไร”

“ก็จริงของเจ้า”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์นี้เข้าหูของหวงจิ้งหรง อู๋เชียนหยิง และเสี่ยวเฮยเต็มๆ

“เชียนหยิง เจ้าทำได้คะแนนเต็ม?” หวงจิ้งหรงถามเสียงแผ่วเบา

“ใช่เจ้าค่ะ ตอนเขียนคำตอบลงไป ลูกก็มั่นใจว่าต้องได้คะแนนเต็ม” อู๋เชียนหยิงตอบด้วยน้ำเสียงภูมิใจอย่างยิ่ง หวงจิ้งหรงต้องกุมขมับ นางลืมไปเสียสนิทว่าไม่ควรให้บุตรสาวเปิดเผยความสามารถออกมามากเกินไป สมควรต้องเก็บงำไว้บ้าง

“เชียนหยิง ฟังแม่นะลูก” หวงจิ้งหรงเอ่ยขึ้นเมื่อพาบุตรสาวกลับมาถึงโรงเตี๊ยมที่พัก

“การที่เจ้ามีความสามารถมากมายนับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ พ่อและแม่เองก็ชื่นชมในความสามารถของเจ้า แต่ความสามารถเช่นนี้ย่อมสร้างความไม่พึงพอใจให้กับผู้อื่น เพราะเจ้าเด่นล้ำเกินหน้าทุกคนไปมาก ดังนั้น เจ้าต้องไม่แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่หากไม่จำเป็นจริงๆ”

อู๋เชียนหยิงจ้องมองหวงจิ้งหรงอย่างแปลกใจ “แล้วลูกต้องทำอย่างไรเจ้าคะ”

“ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงทำแค่ไม่เกินหน้าผู้อื่น สมมติเช่นการสอบที่ผ่านมา เจ้ารู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ทำคะแนนได้เท่าใด”

อู๋เชียนหยิงส่ายหน้าทันที

“คนส่วนใหญ่ทำได้ดีที่สุดก็เพียง 8-9 ส่วนใน 10 ส่วน ไม่เคยมีใครทำได้เต็มสิบส่วนเช่นเจ้า ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใดจงคิดเสมอว่าคนส่วนใหญ่ทำได้แค่ไหน เมื่อทราบว่าพวกเขาทำได้เพียงไร เจ้าก็ทำให้เท่ากับพวกเขาก็ใช้ได้แล้ว”

“เจ้าค่ะ ลูกจะทำตามที่ท่านแม่บอก” อู๋เชียนหยิงรับคำ หากนางกลับไม่เข้าใจอะไรเลย นางไม่เข้าใจว่าในเมื่อนางพยายามอย่างเต็มที่ทุกครั้ง นางก็ใช้ออกด้วยความสามารถที่มีอย่างเต็มที่เสมอมา การให้นางทำเท่าเทียมกับผู้อื่นทั้งๆ ที่นางทำได้ดีกว่ามาก เช่นนี้แล้ว นางจะพยายามไปทำไม

อู๋เชียนหยิงนั่งคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจแม้หวงจิ้งหรงจะออกจากห้องพักของนางไปครู่ใหญ่แล้ว

“พี่เสี่ยวเฮย ท่านเข้าใจที่ท่านแม่กล่าวหรือไม่” นางเอ่ยถามเจ้าแมวดำหลังจากคิดเท่าใดก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้อื่นถึงจะไม่พอใจนางหากนางทำได้ดีกว่าพวกเขา

“เข้าใจสิ เรื่องนี้อาจจะยากไปสักหน่อยสำหรับเด็กเช่นเจ้าที่จะทำความเข้าใจ เพราะเจ้ายังไม่เคยพบเจอผู้ใดที่เก่งกาจมากกว่าเจ้า ข้ายกตัวอย่างง่ายๆ ให้เจ้าฟังสักเรื่องจะดีกว่า”

“สมมติว่ามารดาบุญธรรมของเจ้าบังเอิญตั้งครรภ์แล้วคลอดออกมาเป็นบุตรสาว ทำให้มารดาบุญธรรมของเจ้าละเลยเจ้า ไม่สนใจเจ้า และทุกคนในจวนก็ไม่มีใครสนใจเจ้าอีกต่อไป เพราะเจ้าเป็นเพียงบุตรบุญธรรม มิใช่บุตรแท้ๆ เจ้าจะรู้สึกอย่างไร”

อู๋เชียนหยิงนิ่งอึ้ง นางไม่เคยคิดเช่นนี้มาก่อน ครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะตอบ “ข้าคงไม่ชอบน้องสาวผู้นั้น”

“นอกจากไม่ชอบแล้ว เจ้าคิดอย่างไรอีก”

“เอ่อ...ก็คง...ข้าคงไม่ชอบที่ไม่มีใครสนใจข้าอีกต่อไป”

“แล้วหากไม่มีผู้ใดสนใจเจ้านานขึ้นล่ะ เช่น จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากหนึ่งปีเป็นหลายปี ตราบใดที่น้องสาวของเจ้ายังคงอยู่”

อู๋เชียนหยิงต้องนิ่งงัน สีหน้าครุ่นคิด “ข้า...คง...ไม่ชอบน้องสาวคนนั้นเลย”

“แล้วเมื่อเจ้าไม่ชอบนางมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันทุกคืน เจ้าจะทำอย่างไร”

“ข้า...ข้า...เอ่อ...” อู๋เชียนหยิงตอบไม่ถูก สีหน้าสับสน

“ตรงนี้ ข้าสามารถตอบแทนเจ้าได้ว่า เมื่อเจ้าไม่ชอบน้องสาวคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนางมาแย่งความสนใจของทุกคนไปจากเจ้า ดังนั้น วันหนึ่งที่ความไม่พอใจของเจ้าสะสมจนมากพอ เจ้าจะอยากทำร้ายน้องสาวคนนี้จนกระทั่งเจ้าจะกระทำรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเจ้าอาจลงมือสังหารนาง”

อู๋เชียนหยิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง “ข้าจะฆ่านาง?”

“ถูกต้อง เริ่มจากที่เจ้าไม่พอใจ ความไม่พอใจที่สะสมเพิ่มพูนขึ้นทุกวันจะทำให้เจ้าอิจฉานาง และหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ความอิจฉาจะกลายเป็นความริษยา เมื่อใดที่เจ้าริษยานาง เจ้าจะทำทุกวิถีทางที่จะทำร้ายนาง และเมื่อความริษยาของเจ้าพุ่งถึงขีดสุด เจ้าจะลงมือสังหารนาง”

“เฉกเช่นเดียวกัน วันนี้เจ้าทำคะแนนสอบได้ล้ำเลิศเกินหน้าผู้ใด เจ้าจะเป็นที่ชื่นชมของผู้คนมากมาย แต่ก็มีอีกมากมายที่ไม่พอใจเจ้า อิจฉาเจ้า เจ้าเองก็ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์จากพวกมันแล้วมิใช่หรือ เห็นหรือไม่ว่าแค่เพียงเจ้าทำคะแนนได้ดีกว่าพวกมัน พวกมันยังคิดว่าเจ้าโกงข้อสอบทั้งๆ ที่เจ้าไม่ได้กระทำเช่นที่พวกมันคิดหรือกล่าวหาแม้แต่น้อย การที่พวกมันคิดเช่นนี้ก็เพราะพวกมันอิจฉาเจ้า”

“หากเจ้าเข้าศึกษาในสำนักวิญญาณเทพ และยังคงแสดงความสามารถจนโดดเด่นเช่นนี้ คิดหรือไม่ว่าศิษย์ที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าจะพอใจเจ้าหรือไม่ กระทั่งศิษย์พี่ของเจ้า พวกเขาก็อาจมองว่าเจ้าเป็นคู่แข่งของพวกเขาในภายภาคหน้า เพราะความสามารถของเจ้าเด่นล้ำจนเกินไป เจ้าอาจเทียบเคียงและไล่ทันจนกระทั่งแซงหน้าพวกเขาได้ เมื่อพวกเขามองว่าเจ้าเป็นคู่แข่ง ชีวิตที่สำนักวิญญาณเทพของเจ้าจะปกติสุขเช่นที่จวนอัครเสนาบดีหรือไม่”

อู๋เชียนหยิงนิ่งงัน นี่เป็นคำอธิบายที่นางไม่เคยคาดคิดว่าจะมีเรื่องราวเช่นนี้ได้ นางนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่เลยทีเดียว

“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

“เชียนหยิง ฟังข้าให้ดี เจ้ายังสามารถฝึกฝนตนเองได้เช่นเดียวกับที่ผ่านมา ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ยามที่ต้องเปิดเผยฝีมือตนเองต่อหน้าผู้อื่น เจ้าเพียงทำเท่าเทียมกับผู้อื่นก็พอ เพียงเท่านี้จะไม่มีผู้ใดสนใจเจ้าอีกต่อไปเพราะเจ้าก็จะธรรมดาสามัญเช่นเดียวกับผู้อื่น”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel