ตอนที่สาม อ่อนบางกลายเป็นเข้มแข็ง

ตอนที่สาม อ่อนบางกลายเป็นเข้มแข็ง

มายเคยอ่านนิยายมาหลายเรื่อง การอิจฉาริษยาในหมู่พี่น้องทั้งการต้องการทำลายบุตรสาวภรรยาเอกเพื่อตัวเองจะได้แย่งชิงความโปรดปรานเป็นแนวซึ่งเป็นที่นิยม

แต่ภายในใจของมายกลับไม่อยากเชื่อว่าน้องสาวของซ่งชิงเหม่ยจะโง่กล้าวางยาในงานเลี้ยงซึ่งจัดในวังหลวงอย่างอุกอาจ

นี่มันโทษหนักเชียวนะ

ฝ่ายซ่งชิงหลินเมื่อเห็นว่าไม่เป็นไปตามแผน แต่พี่สาวยังมีอาการกระสับกระส่ายหน้าแดงคล้ายยายังคงออกฤทธิ์ จึงคิดกลั่นแกล้งให้ขายหน้า

เมื่อเห็นว่ากลุ่มหญิงสาวที่ร่ายรำจบแล้วกำลังเดินกลับเข้าที่นั่งจึงลุกขึ้นทำความเคารพพลางผายมือมาทางซ่งชิงเหม่ย

“กราบทูลฮ่องเต้ ฮองเฮาและเหล่าองค์ชาย คืนนี้ พี่หญิงใหญ่ได้จัดเตรียมการแสดงพิเศษมาโดยเฉพาะ ถึงกับอดหลับอดนอนฝึกซ้อมอยู่หลายวัน ขอพระกรุณารับสั่งให้โอกาสพี่หญิงใหญ่ของหม่อมฉันด้วยเพคะ”

ปกติรายนามของสตรีที่จะทำการแสดงต้องส่งเข้าวังมาล่วงหน้าเพื่อจัดลำดับทั้งเตรียมการ ซึ่งเดิมทีชื่อของซ่งชิงเหมยไม่ได้รวมอยู่ด้วยเนื่องจากนางทำการแสดงติดต่อกันมาหลายปีแล้วจึงคิดเปิดโอกาสให้ผู้อื่นบ้าง

ฮองเฮาเงยหน้าขึ้นมองสายตาที่เดิมทีแตกตื่นทั้งไม่พอใจของว่าที่ชายาองค์ชายเจ็ด เมื่อพบว่าสายตานั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นฮึดสู้และสาดประกายแรงกล้าผิดกับทุกคราจึงคิดอยากลองดูว่าการกลั่นแกล้งกันต่อหน้าพระที่นั่งของพี่น้องสกุลซ่งจะจบลงอย่างไร

แม้องค์ชายเจ็ดจ้าวห่าวซวนจะกำเนิดจากนางกำนัลแต่ก็ถูกเลี้ยงดูโดยจวงฮองเฮามาตั้งแต่แบเบาะ คนอื่นอาจมองว่าเขาไร้ความสำคัญทั้งปกติยังทำตัวเสเพลไม่เอาไหน แต่มารดาเลี้ยงผู้ชาญฉลาดหรือจะไม่รู้ว่าภายใต้ท่าทางขี้เล่น ไม่จริงจังนั้น ลึกๆ แล้วจ้าวห่าวซวนเป็นคนฉลาดรอบคอบ เพียงแต่เขาเสแสร้งแกล้งทำเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในราชสำนักเท่านั้น

ดังนั้น ว่าที่ชายาขององค์ชายเจ็ดย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองข้ามไปได้เช่นกัน

“ให้ซ่งชิงเหม่ยแสดงเถิด ข้าเองก็อยากรู้ว่าปีนี้นางจะมีความไพเราะหรือท่วงท่าพิเศษใดให้ได้ยลอีกบ้าง”

เสียงอ่อนหวานของฮองเฮาย่อมทำให้ฮ่องเต้พยักหน้าคล้อยตาม

ขันทีผู้รับผิดชอบรีบเข้ามาสอบถามเพื่อเตรียมการขณะสาวใช้คนสนิทของซ่งชิงเหม่ยหน้าเหว่อซีดขาวไปนานแล้ว

คุณหนูไม่ได้เตรียมการหรือฝึกซ้อมสิ่งใดสักหน่อย จะทำการแสดงใดได้ นี่ต้องเป็นคุณหนูรองที่คิดกลั่นแกล้งให้เสียหน้าแน่ ต้องรีบไปแจ้งแก่นายท่านแล้ว

ยังไม่ทันผละไปก็ได้ยินเสียงซ่งชิงเหม่ยสั่งการให้เดินตาม สาวใช้ ‘เสี่ยวชุน’ จึงต้องรีบตามนายสาวเข้าไปยังห้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเร็ว

ซ่งชิงเหม่ยเอ่ยขอชุดทะมัดทะแมงเพื่อเปลี่ยนแทนชุดกรีดกรายรุ่มร่ามก่อนจะพบว่า ผ้าปิดอายชิ้นล่างของนางหายไป

มิน่า รู้สึกโล่งๆ

คงหายไปตั้งแต่ในห้องนั้น

ทำยังไงดี ถ้ามีคนอื่นเห็นเข้า

แต่...พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นของผู้ใด

คงไม่มีการพิสูจน์กลิ่นหรือตรวจสอบเส้นขนเหมือนอย่างปัจจุบันหรอกมั้ง