อย่าคิดจะอยู่บนด้วยข้าไม่ยอมอยู่ล่าง

แนะนำตัวละคร

*ซ่งชิงเหม่ย คุณหนูใหญ่ บุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดียุติธรรม

*ซ่งชิงหลิน คุณหนูรอง บุตรสาวภรรยารองของเสนาบดียุติธรรม

*จ้าวห่าวซวน องค์ชายเจ็ด กำเนิดจากนางกำนัลแต่ถูกเลี้ยงดูโดยฮองเฮา

*จ้าวห่าวอู๋ องค์ชายสาม กำเนิดจากสนมซูเฟย

*จ้าวห่าวเฉิง องค์ชายรองกำเนิดจากสนมขั้นผินและถูกเลี้ยงดูโดยฮองเฮา

*จ้าวห่าวซู่ องค์ชายสิบเอ็ด โอรสแท้ๆของฮองเฮา

*ซ่งโม่ เสนาบดียุติธรรมซึ่งเป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

บทนำ

ม่านเวทีตรงกลางค่อย ๆ เลื่อนขึ้นขณะเสียงกลองใหญ่ดังกึกก้องในจังหวะที่หนักแน่นและทรงพลังราวกับเสียงสะท้อนจากห้วงประวัติศาสตร์

ผืนผ้าม่านสีแดงเข้มปักลวดลายมังกรทองและก้อนเมฆมงคลที่ปิดอยู่เบื้องหน้าค่อยๆ ถูกเปิดออก เผยให้เห็นฉากหลังที่เป็นพระราชวังจำลองตั้งตระหง่านกลางเวที

เสากลางตกแต่งประดับด้วยลวดลายทองคำวิจิตร สะท้อนประกายระยิบระยับเมื่อแสงไฟสาดส่องไปทั่ว เคล้าคลอด้วยเสียงพิณกู่เจิงและขลุ่ยจีนที่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบาในช่วงเริ่มต้น

เสียงดนตรีค่อยๆ เพิ่มจังหวะและความดังพร้อมกับที่นักแสดงหญิงในชุดผ้าไหมหลากสีบางเบาปักลวดลายดอกโบตั๋นก้าวออกมาร่ายรำจากสองด้านของเวทีด้วยท่วงท่าสง่างามและพร้อมเพรียง

การเคลื่อนไหวลื่นไหลราวกับสายน้ำผสมผสานความมั่นคงของขุนเขา พัดขนนกที่พวกเธอถือสะท้อนแสงไฟระยิบระยับราวกับมีชีวิตนำพาสายตาให้มองตามด้วยความตื่นเต้น

และแล้วเสียงดนตรีก็เปลี่ยนเป็นจังหวะที่ทรงพลังยิ่งขึ้นจนผู้ชมต่างใจเต้นรัว เสียงกลองหนักแน่นตีคลอไปกับเครื่องสายตะวันตกที่ประสานกันอย่างลงตัว ขณะที่บัลลังก์ทองคำขนาดใหญ่กลางเวทีค่อยๆ เลื่อนมาเผยให้เห็นร่างบางในชุดราชวงศ์สีแดงสดปักลายมังกรห้าเล็บด้วยดิ้นทองและอัญมณีที่ระยิบระยับ

หญิงสาวที่สวมมงกุฎทองคำสูงสง่าประดับไข่มุกและหยกมีใบหน้างดงามกำลังนั่งเชิดด้วยท่วงท่าเปล่งรัศมีแห่งอำนาจแผ่กระจายไปทั่ว

ขณะลุกขึ้นจากบัลลังก์ ร่างกายอันสง่างามนั้นถูกโอบล้อมด้วยแสงสาดส่องสีทองสะท้อนความเด่นสง่าอยู่กลางเวที

ไม่นานเสียงร้องขับขานก็เปล่งออกมาอย่างชัดเจนและทรงพลังสะกดให้ผู้ชมแทบกลั้นลมหายใจ เธอขับร้องราวกับเสียงของเทพธิดาขณะแสงสีเริ่มหมุนวนเปลี่ยนฉากหลังให้กลายเป็นท้องฟ้าสีทองยามรุ่งอรุณ

นักแสดงชายในชุดเกราะทองคำเต็มยศวิ่งออกมาในท่าขบวนทัพพร้อมเสียงกลองและฉาบที่ดังประสาน ทุกคนยืนเรียงรายทำความเคารพต่อจักรพรรดินีของพวกเขาก่อนการแสดงจะเข้าสู่ช่วงสูงสุดเมื่อแสงไฟหลากสีสาดส่องพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจำลองเหนือเวทีพร้อมกับกลีบดอกไม้ที่โปรยปรายลงมาดุจห่าฝน

เสียงดนตรีดังประสานระหว่างวงเครื่องสาย กลอง นักร้องประสานเสียงจนผู้ชมหลายคนถึงกับต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตื่นตะลึงทั้งทึ่งและอึ้งไปความยิ่งใหญ่เบื้องหน้า

จักรพรรดินีหญิงช่างงดงามตระการตา ทั้งฉากแสงสีและเอฟเฟกต์สมจริง เรียกเสียงอุทานหลุดออกมาจากทุกมุมห้องรวมทั้ง ‘มาย’ ซึ่งอ้าปากค้างนั่งชมการแสดงอยู่ด้านหน้าสุด

แม้จะตาพร่าลายไปกับแสงสีเสียงที่ยิงสาดส่องไปมาจนเผลอหลับตาหลายครั้ง แต่ความอลังการของการแสดงก็ยังดึงดูดให้มีส่วนร่วมไปกับความตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลาจนไม่อาจละความสนใจไปได้

มายซึ่งพักจากการสอนมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรกรู้สึกชื่นชมการแสดงชุดนี้มากโดยเฉพาะฉากต่อสู้ซึ่งสมจริง แม้จะเปลี่ยนนักแสดงหญิงตัวหลักเป็นอีกคนก็ตาม

เธอเป็นครูฝึกการต่อสู้ซึ่งเชี่ยวชาญทั้งมือเปล่าและอาวุธทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาวุธขนาดเล็กสำหรับสตรี เพราะเป็นหญิงสาวรูปร่างบอบบาง เมื่อได้เห็นการแสดงซึ่งทุ่มเทชนิดเล่นจริงเจ็บจริงจึงอดชื่นชมและปรบมือเสียงดังไม่ได้

เหล่านักแสดงนับว่าทุ่มเทฝึกซ้อมมาดี เล่นไม่มีพลาด ตรงตามจังหวะ เรียกความชื่นชอบจากเหล่าคนดูจนมีเสียงชื่นชมไม่ขาดปาก

มายมองตามนักแสดงหญิงไปจนสุดสายตาก่อนจะต้องหลับตาลงอีกครั้งเมื่อแสงไฟสีทองสาดแรงออกมาจนตามืดมัวชั่วขณะก่อนจะมีเสียงกรีดร้องที่ดังก้องคล้ายมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

ปัง!