ผัวคนที่ 6
"ผมรับคุณเข้าทำงาน" ประธานคณะกรรมการของบริษัทนำเข้าส่งออกเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าและน้ำเสียงนิ่งๆ
"เอ๊ะ...งะ...ง่ายๆ เลยหรอครับ?" สองถามงงๆ ชายมากอายุพยักหน้าก่อนจะยืนขึ้น
"ถ้าไม่ติดขัดปัญหาอะไร...ก็เริ่มทำงานได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เลย"
"คือ...."
"แปดโมงเช้าผมต้องเห็นคุณที่แผนก"
"เอ่อ...." ไม่เว้นระยะให้สองได้ถาม ท่านประธานกรรมการเดินออกไปจากห้องทันที เหลือไว้เพียงเหล่ากรรมการคนอื่นๆ
"น้องนี่ดีนะที่คุณสุชาติเขามาสัมภาษณ์" กรรมการคนหนึ่งพูด
"เอ่อ..."
"ใช่ๆ ถ้าเป็นคนอื่นนี่โดนตรวจร่างกายไปแล้ว"
"เอ่อ....."
"ก็นะ...สำหรับคุณสุชาติเรื่องร่างกายพื้นผิวในร่มผ้ามันไม่มีปัญหาถ้าทำงานออกมาดีนี่นา..."
"ถ้าเกิดเป็นรองกรรมการ หรือ หัวหน้าแผนกอื่นๆ มาตรวจร่างกายหารอยสักนี่คงมีคนโดนคัดออกไปเยอะเลย"
"หมายความว่าอย่างไรหรอครับ?" สองถามหลังจากที่ฟังฝ่ายกรนมการพูดอยู่นาน
"ก็นั่นไง...ที่เขาเอาไปลือไปเล่ากันในอินเตอร์เน็ต"
"เรื่องที่ว่าบอสของเราชื่นชอบรอยสักแล้วมีคนที่สักมาสมัครงานแล้วได้ทำงานไง"
"เรื่องนั้นมันโกหก ใส่สีทั้งนั้น"
"เน๊าาาาาะ"
คนตัวเล็กอ้าปากค้าง มือก็ลูบไปที่บั้นท้ายไปมา..
"ก็ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน เด็กของบอสก็ดั้น! ไปสักมาสะเต็มตัว...แล้วก็มาสมัครงาน สงสัยจะงอนกันเพราะเด็กนั่นรู้ดีจะตายว่าบอสเกลียดพวกมีรอยสัก"
"อุ๊ย...." สองกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ
"ที่รับเด็กนั่นทำงานก็เพราะอยากจะคืนดีด้วยนี่แหละ แต่ก็นะ..มาทำได้แค่วันเดียวก็โดนบอสสั่งห้ามไม่ให้ทำงานเลย บอสน่ะรักเมียเด็กจะตายไป ไม่รู้ทำไมไม่เปิดตัวสักที"
"หมายความว่า...เจ้าของบริษัทนี้...มีแฟนแล้วหรอครับ?" สองเอ่ยถาม ฝ่ายกรรมการพร้อมใจกันพยักหน้า
"ใช่!!"
จึกๆ
เหมือนมีลูกศรสีดำขนาดใหญ่แทงที่อกนับพันเล่ม..
'แผนของฉันคือไปทำงานที่บริษัทนี้...และไต่เต้าเป็นเมียของเจ้าของบริษัท...'
นี่คือแผนตื้นๆ ที่สองคิดไว้ แต่ยังไม่ทันจะได้เล่นตามแผน...แผนของเขาก็ต้องล่มลงสะแล้ว....
"อ๊ากกกกกกก!!!" คนตัวเล็กกรีดร้องลั่นห้องน้ำในบ้านของเพื่อนสนิทอย่างระบายอารมณ์ก่อนจะเดินออกมาด้วยใบหน้าไม่พอใจ
"เอาน่า เขามีเมียแล้วก็ปล่อยเขาไป" ชวาพูดพร้อมกลั้นขำเมื่อเห็นหน้าเพื่อน
"แล้วแผนต่อไปล่ะ" มะนาวถาม สองเงยหน้ามองเพื่อนทั้งสองคนแล้วฟุบหน้ากับโต๊ะ...
"แผนต่อไปอะไรเล่า....ฉันมีแค่แผนเดียวนี่แหละ..แล้วมันก็ล่มแล้วด้วย...อ๊ากกกกกกก" คนตัวเล็กขยี้เส้นผมไปมาแล้วเบะปาก
"มะนาววววว จะทำยังไงต่อไปดีอ่าา"
"จะไปรู้หรอ!" มะนาวรีบบอกปัดความหายนะ แล้วเลือกที่จะลุกไปทำอาหารให้ทั้งสองคน
"ชวา....."
"ยังคิดไม่ออก"
"พวกแกมันไร้ค่า!" สองว่าแล้วชี้นิ้วไปที่เพื่อน ก่อนจะชี้มาที่ตัวเองแล้วพูดเสียงเบา..
"ส่วนฉัน...ไร้สมอง...เห้ออออออ!!!"
"เพื่อนกูเป็นบ้าไปแล้ว" มะนาวส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ
"ตอนนี้คงคิดอะไรดีๆ ไม่ออกนอกจาก..."
"นอกจาก!!??" สองมองเพื่อนชายอย่างมีความหวัง ชวานิ่งไปก่อนจะพูดเบาๆ
"ตั้งใจทำงานและมีความสุขกับการเป็นพนักงานเงินเดือนนะ"
"ชวา!" สองตะโกนเสียงดังแล้วฟุบหน้าไปกับโต๊ะอีกครั้งก่อยจะถอนหายใจ...
"แต่ว่า....นอกจากทำงานที่นั่น....ฉันก็คงไม่มีทางเลือกอื่น....เห้อ...เส้นทางจะเอาชนะปู่ทำไมมันยากจัง"
สองถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างไร้สิ้นแรงและกำลังใจจะทำอะไร
"จริงสิสอง แล้วเรื่องคอนโดเอาไง เด็กมันไปหาให้แล้วนะมีคอนโดที่อยู่ใกล้กับที่ทำงานแกด้วย เดินทางด้วยรถสักสิบนาทีคงถึง...แต่เดินไปน่าจะดีกว่าเพราะจะได้ประหยัด"
"แกพูดเหมือนฉันมีรถ" สองว่าแล้วกระตุกยิ้มเยาะใส่ตัวเอง
"ปู่แกก็ทำเกินไปนั่นแหละ...ถึงสำหรับบ้านแกรถแค่ล้านสองล้านเป็นเศษเหล็ก...แต่นั่นเงินของแก ปู่ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นด้วยซ้ำ" ชวาพูด สองพยักหน้าขึ้นลงเห็นด้วย
"ใช่ไหมล่ะ เพราะแบบนี้ฉันเลยโกรธไง....ที่ผ่านมาฉันคิดว่าเพราะมันผิดตั้งแต่แรกที่ฉันเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ใช้นามสกุลนี้ แต่เพื่อไม่ให้พ่อที่รักฉันเสียใจที่พาฉันมา ฉันเลยยอมทุกอย่าง....แต่ครั้งนี้ตาแก่ทำฉันโกรธจริงจังเป็นครั้งแรกเลย" สองพูดแล้วนึกถึงรถคู่ใจที่ตัวเองหาเงินซื้อมา แล้วยังต้องทำเรื่องนำเข้าจากต่างประเทศมานี่อีก....
"แกไม่คิดหรอว่าบางทีที่ปู่แกทำอาจจะเหมือนในนิยาย ในละครน่ะ" มะนาวถาม ทั้งสองและชวาทำหน้างง
"อย่างไร?"
"ก็แบบ...แกล้งทำเป็นดุแกแต่ใจจริงก็รักแก แต่ที่ทำไปเพราะอยากให้แกเข้มแข็ง...แบบนี้ที่ละครชอบทำ" สองส่ายหน้าพรืดยาว
"ไม่! ไม่มีทาง! ตาแก่เกลียดฉันจากก้นบึ้งของหัวใจผ่านกระดูกและเส้นเลือดดำเข้าไปถึงตับไตใส้พุงเลย!"
"ขนาดนั้นเชียว" ชวาหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบแสนนอกโลกของเพื่อนหน้าสวย
"จริงนะ! ถ้าฆ่าได้ก็ฆ่าไปนานแล้ว!"
"แล้วทำไมไม่ฆ่าวะ?" มะนาวพูดขึ้น ทุกคนชะงักกึก แล้วมองไปที่สอง...
"จะว่าไป....แกก็ไม่เคยโดนอะไรที่ทำให้ใกล้ตายนี่..."
"อุบัติเหตุก็ไม่เคย..."
"ทั้งๆ ที่ปู่ก็ทำได้นี่นา..." สองครุ่นคิดอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็เลิกคิด
"เรื่องฆ่าคนใครจะลงมือง่ายๆ เล่า...พวกแกก็พาฉันคิดอะไรบ้าๆ"
"มึงคิดตื้นมากกว่า พวกกูเจอมาแล้วใช่มั้ย?" มะนาวหันไปคุยกับชวา ชวาพยักหน้า
"พวกกูเคยไปผัวพันกับพวกแก๊งที่เรียกตัวเองว่าเป็นมาเฟียร์...ถ้าได้ผลประโยชน์พวกนั้นไม่สนว่าจะทำยังไง...แม้ต้องฆ่าคน...เราสองคนเคยเกือบโดนฆ่ามาแล้ว" สองอ้าปากค้าง
"จะบ้าหรอ นี่ในชีวิตจริงนะ...ไม่สิ นี่ประเทศไทยนะ!"
"ใครสนเรื่องนั้นกัน....ก็แค่ฆ่า...แล้วอำพราง ก็พอ.." ชวาพูดไปโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอมีอาการสีหน้าเจ็บแค้นใจแค่ไหนจนสองรู้สึกกลัวจนต้องขยับออกนิดหน่อย..
"เราเลิกพูดเรื่องฆ่าเถอะ....อ่า...หิวแล้ว" สองเปลี่ยนเรื่องทันที ก่อนจะมองมะนาวและชวาที่มีสีหน้าไม่ดีนักแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะไม่ถามออกไป..
เช้าของการทำงานวันแรกที่แสนสดใส สองตื่นและเตรียมของมาทันเวลาเพราะมีสองสามีภรรยาช่วยเหลือจนถึงมาส่งยันหน้าบริษัท
"ตั้งใจทำงานนะมึง"
"อย่าไปอ่อยใครให้เสียงานล่ะ" สองทำท่าจะตบปากเพื่อนทั้งสองคน แต่ก็หยุดไว้ก่อนจะเดินลงจากรถ
"ขอบใจพวกแกมากนะ"
"รีบๆ ไปสะไอ้เตี้ย" มะนาวโบกมือไล่ สองยิ้มแล้วรีบเดินเข้าบริษัท..
รับหลังคนตัวเล็ก ชวากับมะนาวก็หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย..
"จะดีจริงๆ ใช่ไหมที่ให้สองมาทำงานที่นี่?" มะนาวถามด้วยน้ำเสียงกังวล...
"คงไม่เป็นอะไรหรอก...คุณครูซท์เขาคงไม่ลดตัวลงมาอยู่กับพนักงานระดับแบบสองมัน...."
"แต่ถ้าเขาเกิดสนใจสอง...แล้วพาสองไปทำงานด้วย แล้ว....สองจะเป็นยังไง..." ชวาคิดหนักก่อนจะถอนหายใจ
"ถึงตอนนั้นเราสองคนคงต้องไปขอคุณครูซท์ไม่ให้พาสองไป....ถึงสองมันจะดูเข้มแข็งปากดี...แต่มันอ่อนแอมาก มัน....ใช้ชีวิตแบบพวกเราไม่ได้..." ชวาพูดแล้วมองที่มือหนาของตัวเองที่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่เป็ยทางยาวจากมีดในตอนที่เคยต่อสู้...มะนาวมองหน้าสามีแล้วจับมือข้างนั้นมากุมไว้...
"สองจะไม่ตาย....สองจะต้องแตกต่างจากไอ้พี....ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะต้องช่วยสองมันได้....ไม่เหมือนที่เรา...ช่วยพีไม่ได้...." ชวาพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะขับรถออกไปจากที่นี่....
ภายในโรงพยาบาลในช่วงบ่าย จู่ๆ ก็เกิดเหตุการไม่คาดฝัน กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดสูทดำได้เข้าครอบบริเวณพื้นที่ของโรงพยาบาลจนหมด...เพื่อหาคนเพียงคนเดียว...
"แฮก....แฮก...." ชายหนุ่มที่ร่างกายเต็มชุ่มไปด้วยเลือดหอบหายใจถี่เพราะต้องหนีเอาตัวรอดจากชายชุดดำพวกนั้น...
ภาพในหัวที่ไหลเข้ามาอย่างกับม้วนฟีล์มทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย...
ไม่รู้ว่าหนีทำไม....แต่ทันทีที่เห็นรถสีดำพวกนั้นร่างกายก็ขยับหนีไปเอง...
"โถ่เว้ย! ไอ้ขา...บ้านี่..." ชายหนุ่มตีไปที่ขาแกร่งที่ขยับไม่ได้ดั่งใจก่อนจะค่อยๆ ทรุดนั่งพักที่ซอกตึกที่ห่างจากโรงพยาบาลมา....
"ผม...เป็นใครกัน...ทำไม...ทำไม...ต้องโดนพวกนั้นล่า...ทำไมผมจำอะไรไม่ได้เลย....!!" หยดน้ำตาของผู้ชายค่อยๆ ไหลเป็นทาง ในตอนนั้นภาพความทรงจำบางอย่างก็ไหลเข้ามาในหัว...
"ฮึก...ขอโทษนะครับพี่ครูซท์....ขอโทษ"
"เรื่องอะไร? นายร้องไห้ทำไม? ใครรังแกนาย..."
"ฮึก...ไม่มี...ครับ..."
"แล้วทำไมนายถึงร้องไห้?"
"ก็ผม....โดนรุ่นพี่ไถเงินไปอีกแล้ว...ฮึก...ทั้งๆ ที่อุตส่าห์ไปฝึกชกมวย และออกกำลังเพื่อที่จะไปสู้ แต่พอเห็นพวกมัน...ผมก็กลัวจนขาสั่น...ฮึก....ผมน่ะ อ่อนแอ...ไม่สมควรจะเป็นน้องชายของพี่เลย..."
"หึ...ใช่ แกมันอ่อนแอ..."
"ฮึก..."
"แต่แกคือน้องชายของฉัน....น้องชายที่ฉันรักที่สุด...คิล"
"ฮึก.."
"ต่อให้นายฝึกซ้อมจนกล้ามโตแค่ไหน...แต่สำหรับฉัน นายก็ยังเป็นคิล น้องชายที่อ่อนแอและขี้แยที่สุด....จำไว้..."
ชายหนุ่มกุมขมับแล้วกัดปากแน่นเพื่อไม่ให้หลุดร้องออกมา.....
"ครูซท์....พี่.....ใคร...." เขาพูดขึ้นแล้วพยายามนึกภาพให้ออกแต่สุดท้ายก็นึกภาพหน้าของพี่ชายไม่ได้...
"ชื่อของเรา...คือคิล....ใช่จริงๆ ด้วย...ถึงยังงงๆ แต่ว่า...เราต้องรีบไปให้ไกลจากตรงนี้...." ชายคนนั้นว่าแล้วค่อยๆ พาร่างที่เต็มไปด้วยเหงื่อและเลือดออกจากนี่ไป....
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป...
