บท
ตั้งค่า

6 เขาชอบยุ่งกับสตรีที่มีเจ้าของแล้ว

ม้วนกระดาษรายนามบุรุษที่มีคุณสมบัติพอเหมาะคู่ควรแต่งงานกับนางถูกวางลงเบื้องหน้าฟางหลิงแล้ว

"อนุหลิว นี่คือรายนามบุรุษในเมืองหลวงที่ตรงตามที่ท่านต้องการ โปรดพิจารณาด้วยขอรับ"

ฟางหลินเลิกคิ้วแปลกใจกับความรวดเร็วนี้ แต่ก็ยอมรับรายชื่อมาอ่านผ่านๆ ตา สายตากวาดไปตามตัวอักษรอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะยิ้มบาง ๆตอบไปให้

"ข้าขอเก็บไว้ก่อน แล้วจะรีบบอกเมื่อข้าตัดสินใจได้แล้ว"

พ่อบ้านกู้ค้อมศีรษะรับคำ ก่อนจะก้าวถอยออกไปโดยไม่ซักถามเพิ่มเติม หลังจากพ่อบ้านจากไปฟางหลินมองรายชื่อนั้นอีกครั้ง มือเรียวบางลูบไล้กระดาษเบา ๆ อย่างครุ่นคิด

แม้จะอยากมีชีวิตที่เป็นอิสระโดยไม่พึ่งพาบุรุษ แต่นางก็รู้ดีว่าในยุคสมัยนี้ สตรีล้วนต้องเกี่ยวข้องกับบุรุษ หากตนเองไม่มีทั้งเงินและอำนาจมากพอการอยู่คนเดียวย่อมยาก ในเมื่ออย่างไรนางก็ต้องแต่งงาน นางก็ต้องเลือกบุรุษที่สามารถให้ชีวิตเรียบง่ายแก่ตน ได้ก็เท่านั้น

เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็เก็บรายชื่อใส่แขนเสื้อก่อนจะออกเดินทางไปยังโรงสุราที่เคยติดต่อขายเหล้า

ตลอดวันนางใช้ข้อมูลในรายชื่อสอบถามเถ้าแก่เนี้ยของหอนางโลมเบื้องต้นก่อน โรงสุราเป็นสถานที่ที่ข้อมูลเดินทางรวดเร็ว ใครเป็นคนเช่นไร อยู่ที่ใด มีนิสัยอย่างไร พวกนางล้วนรู้กันหมด

ฟางหลินนั่งจิบชาอยู่ในห้องรับรองของเถ้าแก่เนี้ย มือเรียวถือรายชื่อนั้นไว้ ขณะที่เถ้าแก่เนี้ยนั่งตรงข้าม หัวเราะเบา ๆ

"คุณหนูหลิวคงเป็นคนแรกเลยกระมังที่ตั้งใจสืบข้อมูลบุรุษเพื่อมาเป็นสามีได้ละเอียดเพียงนี้"

ฟางหลินหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนเอ่ยอย่างไม่จริงจัง

"ชีวิตนี้ได้เกิดมาทั้งทีย่อมต้องใส่ใจเรื่องสรรหน่อยนั่นล่ะ อนาคตข้าเลือกไม่ได้มากแต่หากมีอะไรที่ข้าเลือกได้ก็ขอเลือกหน่อยเท่านั้น"

เถ้าแก่เนี้ยพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะไล่ข้อมูลที่นางรู้จักในใบรายชื่อทีละคนให้ฟัง

คุณชายตระกูลหนึ่งเป็นบุตรชายคนโตของพ่อค้าใหญ่ แต่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ ซึ่งฟางหลินก็ขีดชื่อเขาออกทันที อีกคนเป็นคุณชายตระกูลขุนนางเล็กๆถึงแม้มีความสามารถ ทว่าถูกมารดาและญาติพี่น้องควบคุมชีวิตทุกฝีก้าว นางก็ขีดชื่อเขาออกเช่นกัน

จนกระทั่งเหลือเพียงสองชื่อ

คุณชายรองสกุลจาง บุรุษผู้เกิดในตระกูลพ่อค้าขนาดกลาง แม้ไม่ได้มั่งคั่งนักแต่ก็มีทรัพย์สินที่ได้รับการแบ่งสรรจากพี่ชายคนโตจนเปิดร้านพอเลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใด

และ บัณฑิตจากตระกูลชาวนา ผู้สอบผ่านจอหงวนระดับเมืองหลวง แม้จะเกิดในครอบครัวที่ยากจนทว่ามีความสามารถและความคิดที่ก้าวหน้า จนเหล่าสตรีในหอนางโลมลือกันให้ทั่วว่าอยากเป็นภรรยาเขา

ทั้งสองคนนี้ นางต้องไปสืบดูด้วยตนเองต่อว่าลักษณะนิสัยส่วนตัวเป็นอย่างไร

ฟางหลินได้รู้ข้อมูลที่อยากรู้แล้วก็เตรียมลุกขึ้นจากที่นั่ง เถ้าแก่เนี้ยก็เรียกไว้ก่อน

"คุณหนูหลิว หากท่านยังมีสุราดอกเหมยอยู่ นำมาขายให้ข้าได้อีกนะ มีคนต้องการอีกมาก ข้าจ่ายให้ไม่อั้นเลย"

ฟางหลินยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงคล้ายเล่นตัวในทีอย่างไม่ปิดบัง

"สุราดอกเหมยทำยาก ข้าต้องไปดูก่อนว่ายังเหลือเท่าใดเจ้าค่ะ"

เถ้าแก่เนี้ยหัวเราะเสียงใส "เช่นนั้นข้าจะรอ"

ฟางหลินโค้งศีรษะให้เถ้าแก่เนี้ย ก่อนจะเดินออกจากโรงสุรา

หลิวฟางหลินเดินออกจากโรงสุราโดยมีจุดหมายถัดไปคือ หออาหารชั้นเลิศแห่งเมืองหลวง สถานที่ที่เถ้าแก่เนี้ยบอกว่า คุณชายรองจาง มักนัดพบสหายอยู่เป็นประจำ

เมื่อมาถึง นางเลือกโต๊ะที่อยู่มุมเงียบห่างออกไปจากจุดที่บุรุษผู้นั้นนั่งอยู่เพื่อเฝ้าสังเกต

คุณชายรองจางดูเป็นบุรุษที่สำรวมในกิริยา ท่าทางของเขาดูสมกับเป็นคุณชายจากตระกูลพ่อค้า ใบหน้าหล่อเหลาพอตัวเพียงแต่รูปร่างผอมบางอย่างคุณชายที่ไม่น่าค่อยได้ใช้กำลังก็เท่านั้น น้ำเสียงที่สนทนากับสหายก็ดูเป็นมิตรโดยมิได้แสดงถึงความโอ้อวด นางสนใจคุณชายผู้นี้มากที่สุดเพราะเขามีร้านค้าไว้เลี้ยงตนเองแล้วไม่น่าต้องมาลำบากนางหากแต่งเข้าไป

นางเฝ้าดูเขาอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดผิดสังเกต นางก็ลุกขึ้นหมายจะออกจากหออาหารเพื่อกลับจวน แต่เพียงหมุนตัวกลับไปก็ไปชนเข้ากับร่างของบุรุษผู้หนึ่งที่สวนมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

แรงปะทะทำให้นางเซถอยไปเล็กน้อย ขณะเงยหน้าขึ้นมอง นางก็พบว่า บุรุษผู้นี้เป็นชายหนุ่มที่มีรูปโฉมหล่อเหลาราวกับถูกแกะสลักออกมาอย่างไร้ที่ติ ผิวของเขาขาวสะอาด ใบหน้าคมคาย แม้เสื้อผ้าที่สวมอยู่จะเป็นชุดเรียบง่าย แต่วัสดุและการตัดเย็บก็บ่งบอกได้ถึงความสูงศักดิ์

คนผู้นี้มิใช่บุรุษชนชั้นธรรมดาแน่!

ข้างกายของเขามีสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ นางมีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวขาวเนียนละเอียด ทว่าครึ่งหน้าของนางถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมบางราวกับไม่ต้องการให้ใครจำได้

สตรีปริศนามองฟางหลินด้วยแววตาไม่พอใจ พลางกล่าวเสียงแข็งจนเกือบเหมือนจะตะโกน

"เจ้าตาบอดหรืออย่างไรถึงเดินมาชนพวกข้า?!"

ฟางหลินมิได้โต้ตอบ นางเพียงก้มศีรษะเล็กน้อยเพื่อหลบหลีกความขัดแย้งเพราะเมื่อครู่นางก็ผิดอยู่บ้างที่หมุนตัวแล้วออกเดินเลย แต่ถึงอย่างไรก็เหมือนจะไม่ได้รับการให้อภัยง่ายๆ หากบุรุษที่อยู่ข้างกายสตรีปิดหน้าไม่ยกมือขึ้นห้ามไว้

"อย่าได้เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย เรามีสิ่งที่สำคัญและ… สนุกกว่า คุยกันมิใช่หรือ?"

น้ำเสียงของเขาฟังดูนุ่มนวล ทว่าหากฟังดี ๆ กลับแฝงแววเย้าหยอกอยู่ในที บุรุษผู้นั้นมิได้รอให้สตรีข้างกายพูดอะไรอีก เขาดึงนางเดินเข้าไปยังห้องส่วนตัวที่อยู่ริมสุดของหออาหารอย่างรวดเร็ว

ทว่า… ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะหายลับเข้าประตูห้องไป พวกเขาก็… ตะโบมจุมพิตกันทันทีอย่างหน้าไม่อาย!

ฟางหลินที่ตามเพราะมีความสงสัยบางอย่างอยู่ก็ถึงกับเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน รีบสาวเท้าถอยห่างออกมา

นางมิได้อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของผู้อื่น ทว่าจากสิ่งที่เห็นทำให้นางอดมิได้ที่จะคิดว่า บุรุษผู้นั้นกับสตรีที่หลบซ่อนใบหน้าต้องลักลอบพบกันแน่ ไม่แอบบิดามารดาพบกันก่อนแต่งงานก็คบชู้นั่นแหละ!

และราวกับสวรรค์กำลังยืนยันคำคาดเดาของนาง

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากอีกฟากหนึ่งของหออาหาร ก่อนที่บุรุษร่างสูงคนหนึ่งจะพุ่งตรงไปยังห้องริมสุดพร้อมกับพรรคพวกสองคน เขามีสีหน้าถมึงทึง ขณะตะโกนลั่นเข้าไปในห้องจนเสียงก้องหออาหาร

"นี่เจ้ากล้าคบชู้หรือ?!"

ฟางหลินหยุดเดินทันใด เรื่องของผู้อื่นเรียกความอยากรู้อยากเห็นของคนได้ดีไม่ยกเว้นนาง

"คุณหนู อย่าได้สนใจเรื่องขององค์ชายรองเลย หากท่านมิอยากติดสอยไปกับข่าวลือ รีบออกจากที่นี่จะดีกว่าขอรับ"

ดวงตาของฟางหลินเบิกกว้างเล็กน้อย "องค์ชายรอง?"

เสี่ยวเอ้อพยักหน้ารับ "ใช่ขอรับ องค์ชายรองผู้ที่ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องชอบยุ่งกับสตรีที่มีเจ้าของแล้วเป็นพิเศษ นี่มิใช่ครั้งแรกของเขาหรอกขอรับ"

ฟางหลินพยักหน้าเข้าใจก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากหออาหารโดยไม่หันกลับไปมองอีก ไม่ว่าจะองค์ชายคนไหนนางก็มิควรไปยุ่งเกี่ยวทั้งนั้นเล่าหากอยากมีชีวิตที่สงบสุขต่อไป...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel