บท
ตั้งค่า

3 อนุหลิว

เมื่อถึงช่วงยามโฉ่ว (01.00 – 02.59 น.) ดวงจันทร์ส่องแสงนวลเหนือจวนหลี่ ขณะที่หลี่หยวนเดินกลับจากเรือนทำงานมุ่งตรงสู่ห้องนอนท่ามกลางเส้นทางในจวนเงียบสงัดนั้นเขาถูกพ่อบ้านกู้ก็ก้าวออกมาจากเงามืดที่ยืนรอเจ้านายมานานขวางไว้ เขาค้อมกายเคารพก่อนเอ่ยเสียงเบา

"นายท่านขอรับ มีบางคนรอท่านอยู่ในห้องนอนขอรับ"

หลี่หยวนหยุดฝีเท้าลง หันไปมองพ่อบ้านที่เป็นคนสนิทของตนด้วยแววตานิ่งเฉย ทว่าแฝงไว้ด้วยความระแวดระวังทันใด

"เช่นนั้นหรือ?" เขาถามเสียงเรียบ

"ขอรับ เป็นความต้องการของฮูหยินใหญ่ขอรับ"

แค่นั้นก็เพียงพอให้เข้าใจทุกอย่างแล้วว่าคนที่รอในห้องนอนของเขานั้นน่าจะเพื่ออะไร

หลี่หยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจกับการกระทำของมารดา เหตุผลหนึ่งที่เขาไม่อยากอยู่ที่จวนก็เพราะเขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นนั่นล่ะ

"จัดห้องทำงานของข้าเสีย ข้าจะนอนที่นั่นแทน"

"ขอรับ" พ่อบ้านกู้รับคำโดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติมแต่รีบหมุนกายไปทำตามคำสั่งทันที

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากได้รับรู้จากพ่อบ้านกู้แล้วว่าคนของมารดาออกไปเขาก็เดินกลับไปยังห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเข้าเฝ้าประชุมที่พระราชวังยามเช้า

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องนอนของตน กลิ่นหอมบางเบาก็ลอยมาปะทะจมูก มันมิใช่กลิ่นเครื่องหอมที่เขาคุ้นเคย แต่เป็นกลิ่นสุราดอกเหมยจาง ๆ อยู่ทั่วห้องโดยเฉพาะบริเวณเตียงนอน

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยเพราะเขามั่นใจว่านี่ไม่ใช่กลิ่นไม้หอมแน่นอน เขาหันไปทางพ่อบ้านกู้ที่กำลังจัดแจงชุดของเขาอยู่ทันที

"กลิ่นนี้?"

พ่อบ้านเหลือบมองเตียงก่อนตอบด้วยท่าทีหวั่นวิตกเล็กน้อย "คงมาจากอนุหลิวที่นอนที่นี่เมื่อคืนขอรับ เดี๋ยวบ่าวจะรีบเปลี่ยนผ้าห่มและผ้าปูเตียงให้ขอรับ"

"อนุหลิว?"

"ขอรับ" พ่อบ้านตอบยืนยัน ทว่าเมื่อเห็นสายตาสงสัยของเจ้านายก็นึกได้ว่าเขาพลาดบางเรื่องเสียแล้ว "นางคือคนที่ฮูหยินใหญ่ซื้อจากพ่อของนางที่ขายใช้หนี้เมื่อนานมาแล้วขอรับ เมื่อตอนก่อนที่นายท่านจะไปชายแดน..."

หลี่หยวนชะงักไปเล็กน้อย สมองพลันนึกถึงภาพของเด็กหญิงผอมซูบที่เขาเคยพบเพียงแค่ครั้งสองครั้งเมื่อนานมาแล้ว เด็กน้อยที่ถูกซื้อเข้าจวนเพื่อรอรับใช้เขาในฐานะอนุ ตอนนั้นเขาอายุใกล้ยี่สิบแล้ว หากแต่นางยังเยาว์วัยเกินกว่าจะรับใช้ผู้ใด และเขาก็จากไปชายแดนแล้วหลังจากนั้น

"สิบปีแล้วสินะที่นางอยู่ในจวนหลี่..." เขาพึมพำอย่างคิดคำนวณ

หากนับอายุแล้ว ตอนนี้นางคงอายุเกือบยี่สิบปีได้ นานจนเขาแทบลืมไปว่ายังมีอนุอยู่ด้วย

"นางเป็นอย่างไรบ้างตลอดสิบปีที่ผ่านมา" เขาถามเสียงเรียบมือก็ขยับสวมชุดไปพลางอย่างไม่ต้องให้คนช่วย

พ่อบ้านกู้หยุดคิดชั่วครู่ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "นางอาศัยอยู่ที่เรือนท้ายจวนขอรับ พื้นที่แถวนั้นก็คือที่ที่ท่านแม่ทัพและเหล่าทหารฉลองกันเมื่อหลายวันก่อน"

หลี่หยวนฟังแล้วพยักหน้ารับ ดวงตาเย็นชาไร้อารมณ์ ท้ายที่สุดก็มิได้แสดงความสนใจมากไปกว่านั้น ก่อนจะกล่าวเสียงราบเรียบเช่นเคย

"ตอนนี้นางคงถึงวัยที่ต้องออกเรือนแล้วสินะ เช่นนั้น… จัดการแต่งนางออกไปเสีย"

พ่อบ้านกู้ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะถามย้ำ "ท่านหมายถึงให้อนุหลิวแต่งออกจากจวนหลี่หรือขอรับ?"

"ใช่" หลี่หยวนตอบเสียงหนักแน่น "นางอยู่ที่นี่ก็ไร้อนาคต ข้ามิได้ต้องการสตรีอยู่ข้างกาย ไม่จำเป็นต้องให้นางอยู่ในฐานะอนุของข้าอีกต่อไป จัดหาสินเดิมให้มากเท่าที่ควร แล้วหาทางแต่งออกไปเสีย"

พ่อบ้านกู้พยักหน้ารับ มิได้แสดงสีหน้าเห็นด้วยหรือคัดค้าน

"ขอรับ บ่าวจะจัดการให้อย่างดี"

หลี่หยวนมิได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไร้ความลังเลใด ๆ

ยามสายของวันรุ่งขึ้นหลังจากนางถูกนำไปวางบนเตียงนอนของหลี่หยวนนั่นเอง มีบ่าวผู้หนึ่งจากเรือนหลักมาเรียกหลิวฟางหลินถึงเรือนท้ายจวน บ่าวนางนั้นนำพานางมาถึงเรือนใหญ่ของแม่ทัพหลี่อันแสนคุ้นเคย พ่อบ้านกู้ที่ยืนอยู่หน้าทางเข้ามีสีหน้าฉงนทันทีที่เห็นนาง ทำให้ฟางหลินเดาว่าคนนำนางมาที่นี่คงเป็นผู้เป็นมารดาอีกแล้ว

"ท่านแม่ทัพกำลังมีแขกขอรับ อนุหลิวโปรดรออยู่ที่สวนก่อน"

หลิวฟางหลินยิ้มบาง ท่าทางมิได้แปลกใจแม้แต่น้อย ฮูหยินใหญ่ผู้นี้มีความพยายามไม่ลดละน่ายกย่อง นางยังไม่เลิกวางแผนส่งข้าเข้าห้องบุตรชายของนางอีก แผนเมื่อคินล่มไปแผนใหม่ก็มาและดูท่าน่าจะล่มไม่เป็นท่าอีกล่ะมั้ง

ฟางหลินมิได้โต้แย้งใดๆ เพียงพยักหน้าแล้วเดินไปยังสวนตามที่พ่อบ้านกล่าว แต่พอพวกบ่าวเดินออกไปทิ้งนางไว้คนเดียว นางก็อ้อมเข้าไปทางเรือนของหลี่หยวนแทน

นางต้องการเห็นหน้าเขาสักครั้ง หลังจากเป็นอนุของเขามานับสิบปีแต่ไม่เคยพบหน้าอย่างเป็นทางการเลย อย่างน้อยหากเขาดูดีนางก็อาจเปลี่ยนแผนเป็นใช้ร่างกายอันแสนน่าอิจฉาของร่างนี้ส่งนางให้อยู่อาศัยในจวนนี้ มีชีวิตอย่างที่ควรมีได้

ภายในเขตเรือนใหญ่มีเสียงสนทนาแว่วจากที่ไม่ไกล ที่มาเสียงอาจจะเป็นข้างเรือนที่ปรายหางตานู้น พอเข้าไปใกล้มากขึ้นฟางหลินก็ได้ยินแยกชัดเจนว่าเป็นเสียงของบุรุษทุ้มต่ำผสานกับเสียงของสตรีที่ฟังดูสนิทสนม แต่เป้าหมายของฟางหลินคือเห็นน่าสามีในนามนางจึงต้องขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นเพื่อพยายามมองลอดผ่านช่องต้นไม้ตรงหน้า

จากตรงนี้นางเห็นเพียงหนึ่งบุรุษร่างสูงใหญ่และหนึ่งสตรีนั่งคุยกันใต้ร่มไม้ ท่าทางที่เห็นดูสนิทสนมกันไม่น้อย แต่ก่อนจะได้ใบหน้าของทั้งสองชัดเจน สายตาคู่หนึ่งก็พลันตวัดมานางฟางหลินหลบอยู่ราวกับรับรู้ถึงการแอบมองนี้!

ดวงตาคมกริบของแม่ทัพหลี่ปรายตามองมา ทำให้ฟางหลินต้องรีบหันหลังกลับ ก่อนจะรีบสาวเท้าหลบหนีออกจากเขตเรือนโดยมิได้เห็นหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ

นางเห็นเพียงสายตาดุดันหนึ่งคู่ผ่านศีรษะของสตรีที่หันหลังอยู่เท่านั้น

หลิวฟางหลินกลับมาถึงเรือนของตนแล้ว นางนั่งลงตรงม้านั่งใต้ต้นเหมย ปลดปิ่นที่เหน็บอยู่ในเรือนผมออกอย่างเกียจคร้าน ลมหายใจทอดยาว ขณะเดียวกันในใจกำลังขบคิดถึงสิ่งที่พบเจอ

นางปล่อยให้ตัวเองเอนกายพักใต้ร่มไม้จนกระทั่งถึงเวลาที่บ่าวสาวเจ้าประจำแบกน้ำมาให้นางอาบทุกเย็นเดินเข้ามา ฟางหลินเหลือบตามองตาม

“วันนี้ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า”

บ่าวสาวชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็รีบพยักหน้ารับ “อนุหลิวโปรดถามเถิดเจ้าค่ะ”

ฟางหลินเท้าคาง สายตาเป็นประกายขณะกล่าวเสียงเรียบ “สตรีที่มาหาแม่ทัพหลี่ในวันนี้คือผู้ใด?”

บ่าวสาวนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบาง “อ้อ! หากเป็นวันนี้ก็คงเป็นคุณหนูไป๋ ไป๋ซูฮวาเจ้าค่ะ”

ฟางหลินเลิกคิ้ว “ไป๋ซูฮวา?”

“เจ้าค่ะ คุณหนูไป๋เป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพไป๋ ผู้เป็นสหายสนิทของอดีตเจ้าตระกูลหลี่ บิดาของท่านแม่ทัพหลี่เจ้าค่ะ”

ฟางหลินกระตุกยิ้ม นางนึกสนุกเลยพยักหน้าให้บ่าวสาวเล่าต่อ “ข้าเดาว่านางกับแม่ทัพหลี่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กหรือ?”

“เจ้าค่ะ” บ่าวสาวรีบเล่าต่อด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “คุณหนูไป๋สนิทกับท่านแม่ทัพมากเพราะเมื่อสิบปีก่อนยามท่านแม่ทัพไปค่ายของอดีตท่านเจ้าตระกูลก็มักจะไปด้วยกัน ไปมาหาสู่ระหว่างสองตระกูลบ่อยมาก ท่านแม่ทัพดูแลคุณหนูไป๋ดีเป็นพิเศษจนบ่าวที่เด็กไม่แพ้กันยังอิจฉาเลยเจ้าค่ะ”

ฟางหลินพยักหน้ารับ แม้ใบหน้าจะยังมีรอยยิ้มแต่ในใจเริ่มรู้ซึ้งถึงความจริงบางอย่างจนยิ้มไม่ออก

"และข้าคิดว่าคุณหนูไป๋น่ารอท่านแม่ทัพกลับมาแต่งงานด้วยแน่ ๆ เจ้าค่ะ เพราะตอนนี้ก็อายุยี่สิบเอ็ดแล้วแต่ยังไม่ออกเรือนเลย"

จากที่ฟางหลินได้ฟังความคิดก่อนหน้าของนางก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น จากที่คิดว่านางจะมอบกายตอบแทนคุณและใช้ชีวิตในจวนนี้ต่อไปอย่างเช่นสตรีธรรมดานางหนึ่ง แต่พอรับรู้ว่าจะต้องใช้บุรุษร่วมกับสตรีอื่นความคิดไม่ยินยอมแบบสตรียุคอนาคตก็กลับมา

หากเป็นเช่นนี้แล้ว... นางจะอยู่เป็น ‘อนุของแม่ทัพหลี่’ คงไม่สามารถได้ชีวิตสงบสุขอย่างที่นางต้องการแน่

เช่นนั้น...

นางจะต้องหาทางเป็นอิสระจากสถานะอนุให้ได้!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel