ตอนที่หนึ่ง อนุของบิดา2 ( กรุบกริบ)
ตอนที่หนึ่ง อนุของบิดา
ฉู่จิ้นไห่ถูกสะกดด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าอันเย้ายวนที่ปรากฎชัดจนเลือดลมในกายแตกพล่านเผลอเดินตามการโยกส่ายไปอย่างเชื่องช้าราวต้องมนต์สะกด
เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวที่เพิ่งเดินแค่ไม่กี่ก้าวขาก็อ่อนแรงจนพันกันพาให้หกล้มเสียหลักลงไปกองกับพื้น
“โอ๊ย!...”
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บที่ใดหรือไม่” ฉู่จิ้นไห่ที่ตามมารีบถลาเข้าประคองร่างบอบบางพลางถามไถ่
“ข้า...ข้าเจ็บขา”
น้ำตาที่ปริ่มขอบตาทั้งใบหน้าอ่อนหวานที่เหยเกด้วยความเจ็บปวดยิ่งแลยิ่งน่าสงสารนัก
“เช่นนั้นข้าจะอุ้มเจ้าไปส่งก็แล้วกัน” ฉู่จิ้นไห่ตัดสินใจช้อนร่างเล็กขึ้นมาในอ้อมแขนพลางเอ่ยถาม
“เรือนของเจ้าอยู่ตรงไหน”
“ตรงโน้นเจ้าค่ะ”
ฉู่จิ้นไห่เดินตามคำชี้บอกของร่างแน่งน้อยซึ่งยิ่งโอบกอดยิ่งสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลทั้งกลิ่นหอมรัญจวนจนอยากจะโอบรัดให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
ยิ่งความอวบอิ่มที่ดันเด้งอยู่ตรงหน้าอกแกร่งช่างเชิญชวนให้เขาอยากจะวางร่างบางลงแล้วขยำขยี้เสียให้สาแก่ใจ
อนุสาวของบิดานางนี้ช่างมีของดีใหญ่ล้นเกินตัวนัก มิน่าท่านพ่อจึงไม่อาจยับยั้งชั่งใจ
“เรือนหลังนี้หรือ เหตุใดไกลนัก”
สายตาของเจ้าบ้านสกุลฉู่คนใหม่มองเรือนเก่าใกล้พุพังที่ตั้งอยู่ริมสุดกำแพงบ่งบอกว่ายังอยู่ในอาณาเขตของจวนสกุลฉู่อย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“แล้วสาวใช้ของเจ้าเล่า เหตุใดไม่รีบออกมาช่วยดูแลเจ้านาย”
“ข้าไม่มีสาวใช้ประจำตัวเจ้าค่ะ”
คำตอบที่ได้ทำให้ฉู่จิ้นไห่อดก้มลงมองสภาพอนุคนสุดท้ายของบิดาด้วยความสงสารและเห็นใจ
หลังจากสิ้นบิดาแล้ว คงเป็นมารดาของเขาที่กลั่นแกล้งรังแกนาง ทั้งส่งมาอยู่ในเรือนร้างห่างไกลที่ไร้ความสะดวกสบาย แล้วยังไม่มอบบ่าวรับใช้สักคน
อนุตัวเล็กๆที่สิ้นสามีคอยหนุนหลังจะต่อกรกับภรรยาเอกอย่างมารดาของเขาได้อย่างไรกัน ยิ่งโดนข้อครหาว่าเป็นตัวการที่ทำให้บิดาของเขาเสียชีวิตด้วยแล้ว ชีวิตน้อยๆนี้คงไม่อาจลืมตาอ้าปากได้แน่
คำที่เอ่ยต่อมาจึงออกอาการห่วงใยจากใจจริง
“ตัวของเจ้าเปียกไปหมดเยี่ยงนี้ รีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ไม่เช่นนั้นอาจป่วยไข้ได้”
ร่างบางรีบตะเกียกตะกายลงจากอ้อมแขนใหญ่ซึ่งออกอาการเสียดายไม่อยากปล่อยความนุ่มนิ่มให้จากไปโดยง่าย
“ขอบคุณคุณชายใหญ่”
หญิงสาวโซซัดโซเซไปยังฉากด้านหลังเพื่อถอดชุดเปียกน้ำออกตามคำแนะนำ แต่ยังไม่ทันหยิบชุดใหม่มาสวมใส่ ฉากกั้นที่เอนไปเอียงมาก็ล้มลงเผยความขาวโพลนเด่นชัดถนัดตา
“ว้าย!...”
