บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2-1 พ่อของลูก

“หมา หมาอย่างแกไม่สมควรเกิดเป็นพ่อหมา เสียชาติเกิดเป็นหมาจริงๆ รู้ไหม” แก้วมุกดากำลังดุพ่อหมาหลังร้านตัวหนึ่งที่แย่งข้าวของลูกกิน ขณะที่หมาแม่ลูกอ่อนมันยอมละจากชามข้าวเพื่อให้ลูกน้อยเกิดใหม่สามตัวได้รวมหัวกันกิน

วันนี้มีเรื่องให้แก้วมุกดาหงุดหงิดใจหลายเรื่อง ความน้อยใจในชีวิตกำลังโหมกระหน่ำสาดซัดเข้ามาใส่ชีวิตช่วงนี้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอเอาอารมณ์ส่วนตัวมาดุด่าหมาจรจัดที่ให้ข้าวให้น้ำมันทุกวันแล้วปล่อยให้มันอาศัยหลังร้าน เพียงแต่เธอทนพฤติกรรมพ่อหมาที่แย่งข้าวลูกกินไม่ได้เลยเกิดอาการโมโห

เสียงวิ่งพร้อมเสียงหัวเราะคิกๆ ที่พุ่งตรงเข้ามาแม้ไม่เห็นหน้า แก้วมุกดาก็เดาได้ว่าเป็นใคร

“รอด้วยๆ เดซี่อ้วนก็อ้วนเนอะ วิ่งเร็วจัง”

ไข่หวาน เด็กหญิงตัวผอม หน้าตาน่ารักวิ่งตามเดซี่มาห่างๆ แต่แม่ตัวกลมดูจะวิ่งไวกว่าเพื่อนมาก แล้วมาหยุดอย่างกะทันหันเมื่อเห็นคนเป็นแม่จ้องเขม็ง

“ทำไมวิ่งแข่งกันมาแบบนี้ เดี๋ยวก็ล้มทั้งคู่หรอก” วันนี้เป็นวันหยุด เด็กน้อยๆ ในวัยหกขวบจึงไม่ต้องไปโรงเรียน

และในวันหยุด ไข่หวานซึ่งมีบ้านติดกับแก้วมุกดาก็จะขอตามมาเล่นกับเดซี่ที่ร้าน เมื่อพ่อและแม่ของเด็กหญิงซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกันอนุญาต แก้วมุกดาก็เต็มใจ ลูกสาวจะได้มีเพื่อนเล่น แต่วันนี้ แก้วมุกดาแปลกใจเมื่อเห็นว่าไข่หวานกับเดซี่หิ้วถุงถั่วลิสงมาด้วย ถุงถั่วต้มแบบนี้ เธอคุ้นตามาก เพราะเห็นอาบังเอามาขายให้แขกที่ร้านทุกๆ วัน แต่แก้วมุกดาก็ไม่เคยว่ากล่าวหรือไล่คนขายถั่วเหล่านั้น เพราะเข้าใจว่ามันเป็นอาชีพของพวกเขา อย่างน้อย พวกเขาก็มีถั่วมาแลกกับธนบัตรใบละยี่สิบบาท ไม่ได้ขอเงินใครฟรีๆ

“ไปเอาถั่วต้มมาจากไหนกัน” แก้วมุกดาถามสองสาวน้อยที่น่ารักคนละแบบ

เดซี่ยิ้มหวานมองหน้าไข่หวาน พวกเธอลงทุนคนละห้าสิบบาทจากการแคะกระปุก และขอให้แม่ของไข่หวานที่เปิดแผงผักในตลาดซื้อถั่วลิสงมาต้มให้

“หม่ามี้สอนว่าคนขยันไม่อดตายไงคะ”

“จ้า หม่ามี้สอนแบบนั้น”

“เราสองคนจะเอาถั่วต้มมาขายลูกค้า”

“แต่ว่าอาบังมาขายทุกวันแล้วนะจ๊ะ จะขายแข่งกับอาบังได้เหรอ แล้วเดซี่จะขายถุงละเท่าไหร่” แก้วมุกดาแค่อยากดูความคิดของเด็กๆ

ไข่หวานและเดซี่แย่งกันตอบ “ถุงละสี่สิบค่ะ”

“อุ๊ย แพงไปรึเปล่าจ๊ะ อาบังเขาขายยี่สิบ แล้วใครจะซื้อถั่วหนู” คนเป็นแม่ถอนหายใจเบาๆ ทำตาละห้อยมองสองสาวน้อย

“ขายได้ค่ะ” เดซี่ค้าน หัวเราะคิกๆ เพราะคิดแผนการขายมาแล้ว

แก้วมุกดามุ่นคิ้วไม่เข้าใจ แล้วเห็นเดซี่สะกิดแขนไข่หวาน ก่อนจะตอบให้แก้วมุกดาหายข้องใจ

“ขายแพงกว่าได้ค่ะ มันเป็นถั่วต้มอารมณ์ดีค่ะ”

“หา! ถั่วต้มมีอารมณ์ดี อารมณ์เสียด้วยเหรอคะ” ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบปลายๆ เธอก็เพิ่งเคยได้ยินวันนี้

“มีค่ะ” เดซี่ที่พูดเก่งกว่าไข่หวานรีบชิงตอบ แล้วยักคิ้วให้ไข่หวานที่ซักซ้อมวิธีการขายถั่วต้มอารมณ์ดี

“แบบนี้ไงคะ”

แก้วมุกดาอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าแม่หนูทั้งสองนอกจากจะหิ้วตะกร้าที่บรรจุถุงพลาสติกมาอย่างเรียบร้อย ยังมีหมวกสานที่มีถั่วติดเอาไว้รอบใบ

“นี่จัดเต็มกันมาก มีพร็อปในการขายด้วย” เด็กทั้งสองดูเป็นมนุษย์ถั่วต้มที่น่ารักที่สุดในโลก เดาได้ว่าคงเป็นแม่ของไข่หวานที่จัดการเรื่องถั่วต้มและหมวกถั่วให้เด็กๆ แม่ของไข่หวานแม้จะมีฐานะดี แต่ก็ชอบส่งเสริมให้ลูกสาวรู้จักเอาตัวรอด ทำมาหากินตั้งแต่วัยเยาว์ วันเสาร์อาทิตย์ หากไข่หวานไม่ตามเดซี่มาที่ร้านอาหารของเธอ เด็กหญิงก็จะไปช่วยแม่ขายผักที่แผงผักขนาดใหญ่ในตลาดสด

โสภา แม่ของไข่หวานย้ายมาจากต่างจังหวัดมาซื้อบ้านอยู่ติดกับบ้านของแก้วมุกดา โสภามีแผงผักหลายแผง แล้วยังปลูกผักออแกนิกส่งขายให้กับห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ซึ่งร้านอาหารแห่งนี้ก็รับผักสลัดออแกนิกจากร้านผักของแม่ไข่หวาน

เดซี่กับไข่หวานใส่หมวกถั่วเสร็จแล้ว สองสาวน้อยเพื่อนซี้ที่ซักซ้อมวิธีการขายถั่วในรูปแบบใหม่ก็พยักหน้าให้กันแล้ววิ่งตื๋อไปหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ เด็กหญิงร่างอวบคิดว่าหากเปิดการขายกับลูกค้าโต๊ะนี้ พวกเธอต้องขายถั่วได้แน่นอน

สองสามีภรรยามารับประทานอาหารร้านนี้ประจำจึงคุ้นเคยกับเดซี่ เพราะเด็กหญิงชอบแย่งพนักงานในร้านทำหน้าที่เอาเงินทอนมาให้ลูกค้า ใบหน้าน่าเอ็นดูแบบลูกครึ่ง ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย บวกกับความช่างเจรจา แล้วยังไหว้สวย เงินทอนในถาดจึงกลายมาเป็นทิปของเดซี่ทุกครั้งไป ซึ่งทิปจากลูกค้า เดซี่จะนำมาหยอดกระปุก แล้วเมื่อวันก่อน เด็กหญิงก็นำเงินส่วนหนึ่งในกระปุกไปร่วมหุ้นลงทุนขายถั่วกับไข่หวาน

“สวัสดีค่ะ คุณลุงขา คุณป้าขา”

เสียงใสเจื้อยแจ้วทำให้สองสามีภรรยาที่กำลังตักซุปเห็ดร้อนๆ เข้าปากวางช้อนลง แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเห็นเด็กหญิงตัวเล็กสองคนช่วยกันหิ้วตะกร้าที่ภายในมีถั่วต้มหลายถุง

“น้องเดซี่ น้องไข่หวาน ทำไมวันนี้แต่งตัวเหมือนมนุษย์ถั่วเลยคะ” หญิงวัยกลางคนอดกลั้นยิ้มในความน่าเอ็นดูไม่ได้

“เราสองคนจะมาขายถั่วค่ะ ซื้อไหมคะ ซื้อหน่อยนะคะ ถั่วต้มอารมณ์ดี๊ อารมณ์ดี ถุงละสี่สิบบาทเองค่ะ ทู้กถูก”

หญิงวัยกลางคนตัดสินใจซื้อตั้งแต่เห็นแม่หนูเอ่ยปากบอกขายถั่วแล้ว แต่ด้วยความสงสัยว่าถั่วต้มหน้าตาธรรมดาที่บรรจุในถุงพลาสติกมีปริมาณไม่ต่างจากถั่วต้มถุงละยี่สิบ ทำไมเด็กน้อยถึงขายแพงกว่าเท่าตัว

แม้ตัดสินใจแล้วว่าจะเสียเงินให้เด็กๆ แน่นอน แต่ก็ยังไม่หายสงสัย

“ถุงละสี่สิบบาทเชียว ถั่วต้มของหนูมันกินแล้วอารมณ์ดีกว่าถั่วต้มทั่วไปยังไงคะเดซี่”

“แบบนี้ไงคะ คอยดูนะคะ” เจ้าของดวงตาใสแจ๋วขยับริมฝีปากจิ้มลิ้มช่างพูด บอกหุ้นส่วนตัวเล็กผอมบาง “จัดเต็มเลยนะไข่หวาน”

ร่างกลมของเดซี่กับร่างผอมบางของไข่หวานกำลังหมุนตัวโยกย้ายส่ายสะโพก ปากก็เริ่มร้องเพลงขายของกันอย่างสนุกสนาน

สองเสียงผสานกันดังเจื้อยแจ้วจนลูกค้าโต๊ะอื่นพากันหันมามองแล้วหัวเราะไม่หยุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel