อดีตร้ายผูกรัก

126.0K · จบแล้ว
บุษบาบัณ/นศามณี
77
บท
13.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘ฌอน ฮาร์ดี’ เจ้าพ่อวงการเบียร์โลก ต้องเสียเวลาอยู่หลายปี กว่าจะได้เจอ ‘แก้วมุกดา’ ผู้หญิงที่หัวใจของเขามอบรักแท้ให้เธอเพียงผู้เดียว การมาเมืองไทยครั้งนี้นอกจากฌอนจะมาทวงสิทธ์ความเป็นสามี เขายังมากอบกู้สิทธิ์ความเป็นพ่อของ ‘เดซี่’ ลูกครึ่งปลอม ตัวน้อย แก้วมุกดาไม่เคยคิดว่าคิดว่าการพลาดพลั้งในอดีตจนเธอตั้งครรภ์อย่างปริศนา และยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อหนีไปตั้งหลัก กลับกลายเป็นความเข้าใจผิดครั้งสำคัญ เพราะฌอน ฮาร์ดี ต้องการให้เธอและลูกกลับมาเป็นแฟมมาลีของเขาตลอดไป เด็กหญิงแก้มน่าหยิกกวาดดวงตากลมโตใสแจ๋วมองไปทั่วๆ รถ แล้วห่อปาก “อุ๊ย! หม่ามี้ขา ซื้อรถใหม่ให้เดซี่เหรอคะ” เธอไม่เคยนั่งรถคันนี้มาก่อน มันทั้งดูหรูหรา น่านั่ง อีกทั้งแอร์ยังเย็นเจี๊ยบ แล้วฉีกยิ้มไร้เดียงสาออกมา เดซี่ยิ้มไม่หุบก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองหม่ามี้ ในขณะที่ฌอนทำหน้าที่ขับรถ คนเป็นแม่ตกใจ “เปล่าค่ะลูก” กลัวคนข้างๆ ได้ยินแล้วคิดว่าเธอสอนลูกให้พูดแบบนี้ ‘แค่ค่าเทอมของลูก แม่ยังต้องผ่อนกับโรงเรียนเขาอยู่เลย’ เด็กหญิงที่ฉีกยิ้มหวานเจี๊ยบเมื่อครู่หน้าม่อยลงทันทีอย่างผิดหวัง “ถ้าเดซี่ชอบรถคันนี้ ฟา-เธอะยกให้เดซี่เลย แต่ต้องพูดว่าฟา-เธอะชัดๆ ตลอดไปได้ไหมครับ” ฌอนรีบตอบรับคำลูกสาวอย่างเอาใจ พลางเอื้อมมือไปลูบศีรษะทุยๆ ที่สีของเส้นผมเข้มกว่าเขาหนึ่งเฉด เด็กหญิงปรบมือดีใจ โดยไม่รู้ว่ารถคันนี้แพงกว่าบ้านที่เธออยู่กับแม่และยายถึงสิบเท่า เรื่องของฟรี เดซี่ไม่ยอมพลาด แล้วพยายามพูดให้ชัดอย่างสุดความสามารถ โชคดีที่ก่อนขึ้นรถซ้อมมาเยอะ จนรัวเป็นนกแก้วนกขุนทอง “ฟา-เธอะ ฟา-เธอะ ฟา-เธอะ” ฌอนหัวเราะชอบใจ “ลูกสาวใครเก่งจริงๆ”

นิยายรักโรแมนติกประธานพระเอกเก่งจีบเมียเก่าพาลูกกหนีบอสซึนเดเระเศรษฐีรักหวานๆ

ตอนที่ 1-1 ท้องไม่มีพ่อ

ชุดใหม่ที่หญิงสาวสวมใส่เป็นครั้งแรก ถูกรูดลงออกไปจากร่างอย่างง่ายดายตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ตัวเสื้อและกระโปรงถูกถอดแยกออกจากกัน หล่นไปกองคนละทิศละทาง ในขณะที่บราเซียร์ทรงสวยคัพซีสีพีชขับเน้นผิวให้เนียนขาวสะอาดตาหล่นไปอยู่ปลายเตียง แพนตี้สีเดียวกันถูกรูดออกจากปลายเท้า คนรูดใช้ปลายเท้าเขี่ยมันตกไปอยู่ด้านซ้ายของเตียง

หญิงสาวลุกขึ้นมาด้วยอาการมึนงงไม่ได้สติเต็มร้อย มือบางยกขึ้นปิดกั้นเสียงที่จะร้องโวยวายพรางส่ายหน้าไปมา อยากจปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันไม่ใช่ความจริง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อพบว่ากึ่งกลางลำตัวบริเวณจุดล่อแหลมเจ็บแปลบแสบจนลุกขึ้นแทบไม่ไหว ยังไม่เท่ากับความทุกข์ทรมานใจที่เวลานี้เจ้าของร่างเชื่อว่า เธอเสียสิ่งที่มีค่าซึ่งเฝ้ารักษามาอย่างดีไปแล้ว

แก้วมุกดาอยากจะกรีดร้องด้วยความเสียใจแต่ร้องไม่ออก น้ำเสียงและถ้อยคำจากมารดาที่พร่ำสอนให้รักนวลสงวนตัวยังดังก้องอยู่ในหัว ใครต่างมองว่าเธอ เรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่มั่ว ไม่ดื่มเหล้า ไม่เคยพาตัวเองไปในแหล่งอโคจร แล้วทำไมคนดีของทุกคนถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ เธอจำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ด้วยว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ยอมรับว่ารู้สึกสับสนไปหมดความรู้สึกโกรธปนอับอายแล่นพล่าน “ไม่จริง เกิดอะไรขึ้น ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้” เจ้าของร่างสวยจิกเล็บไปที่ผ้าห่มสีขาวนุ่มซึ่งคลุมอยู่บนร่างเปลือยเปล่า เธอนึกอะไรไม่ออก สิ่งเดียวที่คิดออกในเวลานี้ก็คือพาร่างกายที่บอบช้ำจากการถูกพร่าผลาญพรหมจรรย์ไปอย่างหนักหน่วงลุกขึ้นมา แล้วไล่เก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น จากนั้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่งตัวให้เร็วที่สุดก่อนจะเปิดประตูแล้ววิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว เธอจะไม่ขอจดจำเรื่องเลวร้ายในคืนนั้นอีก...

7 ปีต่อมา

ปลายฝนต้นหนาว ร้านอาหารสีขาวตั้งอยู่ในสวนเขียวชอุ่ม บรรยากาศที่ดีอยู่แล้วช่วงนี้ยิ่งดีขึ้นอีก ภายในร้านมีของแต่งร้านน่ารักๆ เป็นตุ๊กตาผ้าของสะสม เจ้าของร้านสองสาวสวย ‘แก้วมุกดา’ และ ‘พิมพิชชา’ ทั้งคู่เรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน ภายหลังที่แก้วมุกดาพาเดซี่ลงจากดอยกลับมาอยู่กับผู้เป็นแม่ทั้งคู่จึงจับมือกันร่วมทำธุรกิจ จากร้านเล็กๆ ของคนสองคนที่มีความฝันอยากทำอาหารอร่อยๆ

ผ่านไปไม่นาน จากความต้องการทำอาหารให้คนกินรู้สึกเหมือนนั่งกินอาหารที่บ้าน กลับกลายเป็นร้านอาหารชื่อดังจนกระทั่งมีนิตยสารและรายการโทรทัศน์แวะเวียนมาขอถ่ายทำ ก็ยิ่งทำให้ร้านเล็กๆ ที่ดูอบอุ่นแห่งนี้มีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก

‘ความฝัน’

ภายในร้านมีทั้งโซนที่ติดเครื่องปรับอากาศ และโซนเอาต์ดอร์ในสวนสำหรับคนรักธรรมชาติ ชอบต้นไม้ ดอกไม้ และสายลมเย็นๆ ส่วนอาหารขึ้นชื่อของร้านคือสเต็กต่างๆ โดยเฉพาะแซลมอนซอสส้มอันเลื่องชื่อ สันนอกสเต็กราดซอสเกรวี่ฝีมือของพิมพิชชาเป็นอีกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด และแกงเขียวหวานเนื้อที่แก้วมุกดานำมาประยุกต์จับคู่กับโรตีที่แทบทุกโต๊ะต้องสั่ง

หากอิ่มของคาว แทบทุกโต๊ะจะสั่งเค้กชาไทย ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน แล้วยังมีเค้กมะพร้าวอ่อน กับขนมไทยหายากอีกหลายชนิดอาทิเช่น บุหลันดั้นเมฆ ขนมเรไร ฝีมือของแก้วมุกดาคอยรองรับนักชิมทั้งหลาย

เจ้าของร้านทั้งคู่เป็นหุ้นส่วนกันต่างถนัดการทำอาหารคนละอย่าง แก้วมุกดาถนัดอาหารไทยและของหวาน ในขณะที่พิมพิชชาเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารฝรั่ง

พนักงานเดินเสิร์ฟด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เพราะแก้วมุกดาจะเน้นอบรมพนักงาน ให้มีใจรักในอาชีพบริการ ในขณะที่อาหารต้องอร่อย ถูกหลักอนามัย วัตถุที่ทางร้านเลือกมาใช้คัดสรรที่มีคุณภาพ

วันนี้ แก้วมุกดาเห็นลูกค้าแน่นร้าน จึงรีบออกมาจากครัวลงมือช่วยพนักงานเสิร์ฟไม่เกี่ยวว่าตนเองคือเจ้าของร้าน

ภาพหญิงสาวในชุดมินิเดรสสีขาวกำลังวิ่งวุ่นช่วยพนักงานเสิร์ฟอาหารและเติมน้ำให้ลูกค้าแทบทุกโต๊ะ เพราะพนักงานต่างวิ่งวุ่นกับการยกอาหารเสิร์ฟจนไม่มีเวลาเติมน้ำให้ลูกค้า แม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าของร้านแก้วมุกดาไม่คิดจะเกี่ยงงอนบริการลูกค้าด้วยตัวเอง

ในขณะที่แก้วมุกดาไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาหลายๆ คู่ในร้าน ถัดออกไปจากโต๊ะที่เธอกำลังช่วยเติมน้ำให้ลูกค้าคู่หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในมุมที่ตกแต่งไว้อย่างน่ารัก สาวออฟฟิศอีกกลุ่มซึ่งเป็นลูกค้าประจำของทางร้านเช่นกันกำลังคุยกันอย่างออกรส บางคนกำลังละเลียดเค้กตรงหน้าอย่างอร่อยบนโซฟาสีแดง สายตาของลูกค้าหนุ่มซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขายลอบมองแก้วมุกดาอยู่นานแล้วและเวลานี้ยังคงจ้องไม่วางตา ทำให้แฟนสาวซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเดียวกันกระแทกศอกใส่สีข้างเขา ออกอาการหงุดหงิดเกิดจากความหึงหวง

“มองนัง เอ๊ย..คุณแก้วอีกแล้ว คุณต่อพงศ์ชอบชวนขวัญมากินร้านนี้เพราะอาหารรสชาติดี หรืออาหารตาดีกันแน่คะ” หญิงสาวจอมเอาแต่ใจที่นั่งเชิดอยู่ไม่อยากมากินร้านนี้สักเท่าไหร่ แต่เสียงส่วนใหญ่ชี้เป้าจะเอาร้านนี้ มือบางวางช้อนกระแทกกับจานกระเบื้องเนื้อดีดังเคล้ง

คนถูกแฟนงอนหันมามองหญิงสาวที่มาด้วยกัน เห็นเธอทำกิริยาไม่น่ารักใส่ เขายิ่งไม่ชอบใจ ขณะที่สายตาของเพื่อนร่วมงานหลายคนที่นั่งร่วมโต๊ะพากันมองแบบยิ้มๆ

ต่อพงศ์ส่ายหน้า “ใครว่าล่ะขวัญ ผมเห็นคุณแก้วเจ้าของร้านออกมาเติมน้ำให้แขกด้วยตัวเอง เก็บจานเอง ก็เลยนึกชื่นชมว่าเขาเป็นเจ้าของร้านแต่ไม่ถือตัวกับลูกค้า มีเซอร์วิสมายยอดเยี่ยม คุณเป็นเซลส์ ไม่เข้าใจหรือว่าการบริการสำคัญยังไง จะเสียลูกค้าหรือว่ารักษาลูกค้าไว้ได้ก็เพราะการบริการนี่แหละ”

ขวัญภิรมณ์มองไปที่เจ้าของร้านแล้วเบะปาก เพราะเห็นแขกหนุ่มๆ หน้าตาดีหลายคนมองตามแก้วมุกดาตาไม่กะพริบ

“บริการดีลูกค้า มีเซอร์วิสดี หรือว่าอยากหาพ่อใหม่ดีๆ ให้ลูกกันแน่”

เธอรู้จักเจ้าของร้านนี้ดี เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน พอเห็นแฟนหนุ่มมองแก้วมุกดาอย่างชื่นชมก็ไม่พอใจ ใบหน้าสวยเพราะประโคมเครื่องสำอางชั้นดี บวกกับมีฝีมือในการแต่งหน้าเวลานี้แม้ใบหน้าริ้วรอยจะถูกกลบทับจนเนียใสแต่กลับไม่มีแป้งชนิดใดในโลกปกปิดความริษยาไว้ได้มิด ใบหน้าสวยค่อยๆ ผิดรูป เพราะขวัญภิรมณ์เบ้ปากจนสุดทางโค้ง พลางมองไปที่แก้วมุกดาอย่างนึกหมั่นไส้จนต้องแฉออกมา

“ทุกคนไม่รู้อะไร ฉันอยู่บ้านใกล้ยัยเจ้าของร้านนี้ เห็นสวยใส หน้าตาเรียบร้อย นั่นแค่ภาพหลอกตาย่ะ เขารู้กันไปทั้งอำเภอว่า...”

ขวัญภิรมณ์หยุดพูด เป็นจังหวะที่แก้วมุกดาหันมาพอดี แล้วส่งยิ้มเดินมาทางโต๊ะโซฟาแดงที่ขวัญภิรมณ์กับเพื่อนๆ และแฟนหนุ่มกำลังนั่งอยู่ สาวออฟฟิศคนหนึ่งอยากทดสอบคนปากกล้าว่าจะกล้าพูดต่อหน้าหรือทำได้แค่นินทาลับหลังจึงโพล่งถามออกไป

“ว่าอะไรล่ะขวัญ พูดให้จบสิ ฉันรอฟังอยู่”