ตอนที่ 2-2
“เดซี่กับไข่หวานเพื่อนซี้ทั้งสอง วันนี้ไม่ขายถั่วในคลอง เราเอาถั่วมากองขายให้ถึงที่ ในถุงมีแต่ถั่วดีๆ เพิ่งต้มสดๆ รีบซื้อให้หมด เดี๋ยวจะอดอารมณ์ดี...”
แก้วมุกดาที่เดินตามมาดูวิธีการขายถั่วของเด็กๆ ไม่คิดว่าเดซี่กับไข่หวานจะไปเอาเพลงชิปกับเดลไวรัลมาแรงที่เคยเห็นเด็กทั้งสองชอบนำมาร้องเล่นกันประจำมาดัดแปลงแต่งเองใหม่ แล้วคิดท่าเต้นให้เข้ากับเพลงเพื่ออัปราคาถั่วต้ม เห็นแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
ท่าเต้นน่ารักแอ่นหน้าแอ่นหลัง พร้อมชูถุงถั่วอย่างไม่เขินอาย ทำให้สองสามีภรรยาและลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารภายในร้านอดจะหัวเราะไม่ได้ บางรายถึงกับหยิบมือถือมาถ่ายคลิปความน่ารักของแม่ค้าตัวน้อยทั้งสองเอาไว้ ลูกค้าหนุ่มใหญ่รีบควักธนบัตรใบละยี่สิบสองใบจ่ายค่าถั่วต้มให้สองหนูน้อยทันที
“โอ้โห ลุงกับป้าเชื่อแล้วลูก ว่าถั่วของพวกหนูเป็นถั่วต้มอารมณ์ดีจริงๆ”
“นี่ค่าถั่วจ้ะลูก ถ้าเต้นโชว์ด้วยแบบนี้ สี่สิบบาทไม่แพงเลย” หญิงวัยกลางคนรับเงินจากสามีมายื่นให้สองเด็กน้อยแสนน่ารัก พร้อมรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดีเช่นกัน
เดซี่รับเงินแล้วรีบหยิบถั่วต้มหนึ่งถุงที่มีต้นทุนห้าบาท ได้กำไรสามสิบห้าบาทให้กับลูกค้าไปพร้อมรอยยิ้มหวานแล้วยกมือป้อมๆ ไหว้ลูกค้าอย่างสวยงาม
“ขอบคุณค่ะ” เด็กหญิงหันไปแปะมือกับไข่หวานที่ตื่นเต้นไม่ต่างกัน “เย้ ขายได้แล้วไข่หวาน”
กิจกรรมยามว่างของเด็กทั้งคู่ที่ฉายความน่ารัก ขยัน ฉลาด ใสซื่อ ทำให้ลูกค้าในร้านเห็นแล้วนึกชอบใจ กวักมือเรียกซื้อถั่วอุดหนุนหนูน้อยกันใหญ่
แก้วมุกดายืนมองภาพลูกสาวที่เดินไปขายถั่วให้ลูกค้าอย่างไม่อายทำกิน ไม่อาจสะกดกลั้นรอยยิ้มเอ็นดูไว้ได้อีก เพียงแต่กำลังคิดว่าที่แม่หนูชวนเพื่อนมาขายถั่วต้มหาเงิน เป็นเพราะเมื่อวานเธอบ่นเรื่องค่าเทอม กับค่าจ้างพนักงานในร้านหรือเปล่า
เพราะพิมพิชชาต้องแยกออกไปเปิดร้านสเต็กแห่งใหม่ตามความฝัน จึงมีลูกค้าบ่นเข้าหูให้ได้ยินว่ารสชาติสเต็กเปลี่ยนไป เมื่อหลายวันก่อน เธอจึงเกิดอาการเครียด ไม่อยากให้ลูกค้าประจำเสียความรู้สึกที่อาหารบางรายการไม่อร่อยเท่าเดิม เลยโทร.ไปเปรยให้มารดาฟัง พอวางสายหันมาด้านหลังก็เห็นเดซี่ยืนหน้าเศร้าแล้วบอกว่า
“เดซี่สงสารหม่ามี้ เดซี่จะช่วยหม่ามี้หาเงินค่าเทอมเองค่ะ”
เวลานั้น เธอไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเดซี่พูดไปตามประสาเด็ก รอยยิ้มสดใสเมื่อครู่กลับเหือดหายไปในพริบตาเมื่อนึกถึงสิ่งที่ลูกสาวบอกว่าจะช่วยหาเงิน
“โธ่ เดซี่คนดีของแม่”
แก้วมุกดากำลังเดินไปบอกเดซี่ว่า ถึงจะลำบากยังไง เธอก็หาเงินเลี้ยงเดซี่ได้ ไม่ต้องลำบากช่วยแม่ขนาดนี้ ทว่า สองขาเรียวที่กำลังก้าวตามเด็กๆ ไปต้องชะงัก เมื่อเห็นว่าสาวน้อยนักขายตัวจิ๋วเจอเป้าหมายใหม่ แล้วกำลังพุ่งตัวเข้าไปหาใครบางคนที่ผลักประตูเข้ามาในร้านอาหารแห่งนี้
ขายาวของร่างสูงโปร่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแล็กส์สีเทาเข้ม และรองเท้าหนังสีดำแบรนด์หรู บวกกับใบหน้าหล่อเหลาที่มีไรเคราบางๆ กลายเป็นจุดสนใจของสายตาทุกคู่ภายในร้าน
“คุณฌอน!”
แก้วมุกดามองเขาอย่างนิ่งอึ้ง หัวใจดวงน้อยกระเพื่อมไหว ไม่เข้าใจว่าเขามาทำอะไรที่นี่ ดวงตาสองคู่ประสานกันราวกับทุกสรรพสิ่งในร้านกำลังหยุดการเคลื่อนไหว
จนกระทั่งเดซี่ดึงมือไข่หวานให้พุ่งตัวไปหาลูกค้าที่เดินเข้าร้านมาใหม่ เด็กน้อยคิดว่าลูกค้ารายนี้คงกระเป๋าหนักไม่เบา แม้จะไม่เคยเห็นเขามาก่อน แม่ค้าตัวน้อยเลยรีบพาร่างอวบกลมเดินไปดักขายถั่ว
“คุณลุงขา ซื้อถั่วต้มไหมคะ” เดซี่ก้มมองในตะกร้า “ถ้าเหมาหมดตะกร้านี้ ซื้อแปดถุงแถมฟรีหนึ่งถุงเลยค่ะ”
ฌอนชักสายตาจากแก้วมุกดามามองแม่ค้าขายถั่วตัวน้อย เขาเคยเห็นเพียงภาพที่สตีฟให้คนแอบถ่ายส่งไปให้ยังน่ารักจนเขาหลงใหล ไม่คิดว่าตัวจริง สายเลือดคนล่าสุดของตระกูลฮาร์ดีนั้นช่างน่ารักเหมือนตุ๊กตา แล้วยังท่าทางช่างพูด เขาไม่รู้ว่าลูกสาวลำบากขนาดต้องมาขายของด้วย ร่างสูงจึงย่อตัวลงกับพื้นแล้วยื่นมือไปจับตะกร้าถั่วของเด็กน้อยเอาไว้
“ขายเท่าไหร่ครับ”
“ถุงละสี่สิบบาทเองค่ะ แถมเต้นให้ดูฟรีอีกนะคะ” เด็กหญิงยิ้มเผล่ ดวงตาใสแจ๋วฉายแวววาดหวังเต็มเปี่ยม
ดวงตาคู่คมมองหนูน้อยอย่างอ่อนโยน “งั้น เอ่อ...ลุงเหมาถั่วหนูทั้งหมดเลยครับ”
เขาพูดอะไรไม่ออกอีก ได้แต่มองจ้องเด็กหญิง รู้สึกหน่วงในอก อยากดึงร่างกลมป้อมเข้ามากอดแนบอก แต่กลัวทำให้เธอตกใจ
เดซี่พยักหน้าตอบรับ หัวใจดวงน้อยกำลังลิงโลดที่โชคดีมีคนมาเหมา หันไปทำปากยื่นบอกกับไข่หวาน
“ขายหมดแล้วไข่หวาน”
เห็นคุณลุงสุดหล่อเอาแต่มองจ้องไม่ยอมควักเงินจ่ายค่าถั่วเสียที แม่หนูที่คิดเลขเก่งเกินวัยเพราะช่วยแม่ค้าขายมาตั้งแต่เล็กรีบนับนิ้ว แต่วันนี้ขายได้เยอะจัด สี่สิบคูณกันแปดครั้ง ตัวเลขเยอะเกินไป
“สี่สิบ แปดสิบ...” แม่ค้าตัวน้อยเริ่มคิดไม่ถูก กลัวคิดผิดเดี๋ยวกำไรหด เลยหยิบเครื่องคิดเลขอันน้อยลายคิตตี้สีชมพูออกมาจากกระโปรงตัวสวย แล้วกดต่อหน้าลูกค้า เพราะคนเป็นแม่เคยสอนวิธีการใช้งานจนใช้ได้คล่อง คิดเลขได้เก่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน
ดวงตากลมโตมองตัวเลขบนหน้าจอ แล้วห่อปาก ไม่คิดว่าการขายถั่วได้เงินเยอะขนาดนี้
“ทั้งหมดก็สามร้อยยี่สิบบาทค่ะ” มือป้อมๆ ยื่นไปรอรับเงินค่าถั่วต้มจากลูกค้า “คุณลุงขา จ่ายเงินหนูด้วยค่ะ”
ฌอนมัวแต่มองความน่ารักของแม่หนูเดซี่จนลืมหยิบเงินให้เธอ
“ได้สิ ลุงขอโทษครับ”
เขาล้วงหยิบกระเป๋าหนังอย่างดีออกมา กำลังจะดึงเงินทั้งปึกยกให้แม่ค้าขายถั่วตัวจิ๋ว ทว่า แก้วมุกดาเดินมายืนข้างหลังเดซี่แล้วจับมือน้อยๆ ที่กำลังแบมือทวงเงิน
“ไม่เอาค่ะลูก” แล้วหันไปบอกคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก “ขอโทษด้วยค่ะ ลูกสาวฉันแกชอบเล่นซน ชอบทำอะไรแผลงๆ”
เมื่อถูกแม่ดึงมือออกไปไม่ให้รับเงินลูกค้า ดวงตากลมโตหันกลับไปมองหน้าแม่ คิ้วโค้งได้รูปย่นยู่เข้าหากัน ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่มาตัดช่องทางหาเงินกันดื้อๆ
แม่หนูหัวไวหน้าม่อย พูดเสียงอ่อย “คุณลุงเขาเหมาถั่วแล้ว เดซี่ต้องได้เงินสิคะหม่ามี้ แล้วหันไปพยักพเยิดกับไข่หวาน “จริงไหมไข่หวาน”
ไข่หวานที่ยืนตาปรอยมองทุกคนแบบงุนงงตอบ “ใช่ก็ใช่” แล้วรีบหลุบตาลง เพราะเป็นเด็กขี้อาย แค่ต้องเต้นโชว์ขายถั่วกับเดซี่ ไข่หวานก็เขินแทบแย่แล้ว
ฌอนมองหน้าแก้วมุกดาก่อนจะหลุบสายตาต่ำลงไปมองร่างกลมในชุดกระโปรงน่ารักที่กำลังยกมือกอดอกเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องห้ามรับเงิน
“ใช่ครับเดซี่ ขายของก็ต้องได้เงิน และจะได้มากกว่าเงิน”
แก้วมุกดายืนมองมหาเศรษฐีจอมหยิ่งในอดีตอย่างไม่เข้าใจในการมาปรากฏตัวของเขา ร้านของเธอโด่งดังจนเขาต้องแวะมาชิมอย่างนั้นหรือ ไม่น่าจะเป็นไปได้
ฌอนดึงมือป้อมๆ มากุมเอาไว้ แล้ววางเงินปึกใหญ่ที่ซื้อถั่วได้หลายตันลงบนอุ้งมืออวบอูม
“นี่ค่าถั่ว และลุงจะจ่ายให้มากกว่านี้ในอนาคต” การมาครั้งนี้ ฌอนตั้งใจจะชดเชยให้เดซี่ด้วยสิ่งที่เขามีทั้งหมด
แก้วมุกดายืนประจันหน้ากับผู้ชายหล่อเหลา แววตาของเขามีอำนาจ เธอรู้จักเขาเมื่อหลายปีก่อน คนอย่างเขาไม่มีใครเข้าใกล้ได้ในระยะสิบเมตร ทำไมเขาถึงต้องเอาเงินมากมายให้เดซี่ แล้วยังมีท่าทีแปลกๆ อีกด้วย แม้เธอจะชอบให้ลูกฉลาด แต่ไม่ชอบให้เอาเปรียบใครถึงได้เดินมาปรามไว้ เมื่อเห็นว่าค้ากำไรเกินควร ถ้าไม่ปรามไว้บ้างเดี๋ยวจะติดนิสัยไปจนกระทั่งโต
ดวงตาคมตวัดมองหน้าแก้วมุกดา ผู้หญิงที่ต้องตรากตรำเพราะการกระทำของเขามาหลายปี แล้วยังคิดคำพูดไม่ออก ได้แต่ลอบถอนใจอย่างขุ่นเคืองตัวเองที่ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกแม่ของลูกยังไงดี ว่าเขาคือ...
‘พ่อของลูกเธอ’
