ความเกลียดชังที่ได้รับ 1.2
“ต่อไปนี้ข้าจะจัดการเรื่องวังหลังตามที่ข้าเห็นสมควร สนมผู้ใดที่คิดจะดึงความโปรดปรานของฝ่าบาทไปจากข้า ข้าจะจัดการให้หมด ให้พวกนางอยู่อย่างไม่มีความหมาย จนฝ่าบาทลืมพวกนางไปเสีย” หวงกุ้ยเฟยกล่าวราวกับว่าเคียดแค้นนางสนมพวกนั้นมานานหลายปี
“ตอนนี้สนมพวกนั้นก็คลอดองค์ชายและองค์หญิงกันออกมาหลายพระองค์แล้วนะเพคะ พระสนมจะจัดการอย่างไรดีเพคะ” เยี่ยหงเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง เนื่องจากเวลานี้พระสนมนางอื่นต่างก็ให้กำเนิดโอรสและธิดาให้แก่ฝ่าบาทแล้ว การจะกำจัดออกไปคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
เมื่อเจอคำถามนี้จากนางกำนัลคนสนิท หวงกุ้ยเฟยจึงมีทีท่าเหมือนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมา “คงต้องให้พวกนางอยู่อย่างปกติสุขไปก่อน เมื่อไรที่ฝ่าบาทไม่เสด็จไปเยี่ยมโอรสธิดาของพวกนาง เมื่อนั้นข้าจะจัดการให้นางสนมพวกนั้นหมดความหมายไปเอง แล้วโอรสธิดาของพวกนางก็จะไม่ได้ขึ้นมาโดดเด่นเทียบเคียงองค์ชายใหญ่ของข้าด้วย” กล่าวจบหวงกุ้ยเฟยก็มีรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา จากนั้นก็หันไปชื่นชมโอรสของตนเองอย่างปลาบปลื้มใจ
องค์ชายใหญ่นอนอยู่บนเตียงเป็นภาพที่น่ารักอยู่ไม่น้อย เด็กชายตัวอ้วนแก้มกลมยุ้ยเหมือนซาลาเปา ดูเป็นผู้มีบุญญาธิการอย่างที่เยี่ยหงบอกจริง ๆ นางรู้ว่าตัวว่าตั้งครรภ์ได้สามเดือนในวันที่รู้ข่าวว่าฮองเฮาไร้ลมหายใจ เขาเหมือนของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้นาง หวงกุ้ยเฟยยิ่งมองก็ยิ่งหลงโอรสของตัวเอง เขาน่ารักน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดฝ่าบาทจะไม่ทรงโปรดปรานเล่า
“พรุ่งนี้เสด็จพ่อของเจ้าก็จะเสด็จมาหาแล้ว เจ้าต้องทำตัวน่ารักเข้าไว้ เข้าใจหรือไม่ จางเหว่ยของแม่” หวงกุ้ยเฟยกล่าวเสียงเล็กเสียงน้อยกับโอรสเพื่อหวังจะให้เขาดึงพระทัยจากฮ่องเต้นั่นเอง
ตำหนักท้ายวังขององค์หญิงใหญ่จิ่นซี
เวลานี้แม่นมเกิ่งขององค์หญิงยังคงบ่นไม่เลิก แต่สุดท้ายก็ยอมลุกขึ้นมาเพราะทนเสียงร้องของเด็กน้อยไม่ไหว อีกทั้งหากปล่อยให้อีกฝ่ายร้องไห้จนเหนื่อยหอบแล้วเป็นอะไรขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าบ่าวทั้งตำหนักจะได้รับโทษอะไรกันบ้าง เพราะอย่างไรนางก็มีศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ของฝ่าบาท
“ข้าไปให้นมนางก่อน ร้องไห้นานถึงเพียงนี้คงจะไม่พ้นเรื่องหิวนมหรอกนะ” แม่นมเกิ่งกล่าวมาพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปยังห้องบรรทมขององค์หญิงใหญ่จิ่นซี
เด็กน้อยร้องไห้เป็นเวลานาน ทำให้ยามนี้เสียงที่เปล่งออกมานั้นออกจะแหบลงเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็เหมือนกับสวรรค์มาโปรด เมื่อแม่นมเกิ่งของนางมาสักทีหลังจากที่หิวมากว่าครึ่งค่อนวัน พอได้เห็นหน้าแม่นมเกิ่งแล้ว องค์หญิงตัวน้อยจึงหยุดร้องไห้
แม่นมเกิ่งอุ้มนางขึ้นมา จากนั้นก็ปลดเสื้อป้อนนมให้นาง เด็กน้อยเห็นเต้าแล้วก็รีบงับทันที แต่เพราะว่าฟันเล็ก ๆ ของนางเริ่มงอกแล้วก็เลยเผลอกัดนมของแม่นมเกิ่งเข้า จนทำให้อีกฝ่ายร้องโวยวายออกมา
“โอ้ย…เจ้าเด็กนี่ เจ้าทำอะไรของเจ้ากันเนี่ย กินแบบคนธรรมดาไม่ได้หรืออย่างไร” แม่นมเกิ่งโวยวายเสียงดัง
เหล่านางกำนัลที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงร้องของแม่นมเกิ่งก็ตกใจและรีบวิ่งเข้ามาดูทันที นึกว่านางเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงหรือไม่
“ท่านแม่นมเกิ่ง ท่านเป็นอะไรหรือ” นางกำนัลผู้หนึ่งเอ่ยถามหน้าตาตื่น
แม่นมเกิ่งเงยหน้าขึ้น ที่หางตาปรากฏหยดน้ำตาซึมออกมา “ก็องค์หญิงใหญ่น่ะสิ เมื่อสักครู่กัดนมข้าแทบขาด” นางเอ่ยตอบออกมาด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว พร้อมกับมองหน้าองค์หญิงด้วยสายตาเกลียดชัง
