บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 สหายในวัยเยาว์

เมื่อขบวนทัพผ่านไป เด็กสาวจึงแฝงตัวท่ามกลางฝูงชนเพื่อกลับโรงเตี๊ยม นางเดินเลี่ยงเส้นทางที่มีผู้คนพลุกพล่าน เดินไปพลางครุ่นคิดไปพลาง ความรู้สึกในใจเริ่มว้าวุ่น ด้วยมองอย่างไรก็รู้ว่าตนคงไม่สามารถเข้าใกล้ศัตรูได้เป็นแน่ ในขณะที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดอยู่นั้นเอง ร่างพลันซวนเซไปเล็กน้อยจากการถูกคนผู้หนึ่งชน

“เป็นอะไรหรือไม่ข้าไม่ได้ตั้งใจ พอดีว่าข้ารีบไปหน่อย” ลู่เอินเข้าไปพยุงสตรีที่ตนชนล้มให้ลุกขึ้น ทว่าพอได้พิศดวงหน้าของคนผู้นี้ให้ชัดๆ นางถึงกับเก็บสีหน้าตื่นตระหนกไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว “เสี่ยวเฟย!”

หลิงชิงเฟยหลุดจากภวังค์ความคิด เงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เรียกชื่อนาง แม้อีกฝ่ายจะมีผ้าสีขาวโปร่งบางคาดปิดบังใบหน้าครึ่งล่างไว้ แต่นางก็จำได้ทันทีว่าเป็นผู้ใด ความดีใจปรากฏบนดวงหน้างามโดยพลัน “พี่ลู่เอิน”

“ใช่ข้าเอง เจ้ายังไม่ตาย ดียิ่งนัก หลังจากได้ยินข่าวเกี่ยวกับเผ่าฮวนหยา ข้าก็เป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน” ลู่เอินมองซ้ายมองขวาด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะฉุดมือเด็กสาวให้ตามมา

หลิงชิงเฟยยอมตามหญิงสาวไปอย่างง่ายดาย นางกับพี่สาวแซ่ลู่ผู้นี้รู้จักกันมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ ด้วยความที่อายุห่างกันไม่มาก จึงสนิทสนมกันกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันในเผ่า ลู่เอินเป็นบุตรีของท่านหมอประจำเผ่า จนเมื่อห้าปีก่อน อีกฝ่ายได้ติดตามบิดาออกจากเผ่าไป เพื่อตามหามารดาชาวแคว้นเหยา ซึ่งจู่ๆ ก็หนีท่านหมอลู่กลับไปยังเมืองเหอซี พวกนางมักจะส่งจดหมายหากันเสมอ ต่างฝ่ายต่างบอกเล่าความเป็นไปของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้ นางจึงรู้สึกราวกับว่าลู่เอินเป็นดั่งพี่สาวแท้ๆ ของตน

เมื่อเข้ามายังที่พักแล้ว ลู่เอินก็จับเด็กสาวหันซ้ายหันขวาเพื่อดูให้แน่ใจว่ามิได้รับบาดเจ็บที่ใด “ข้าคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้พบเจ้าแล้วเสียอีก เจ้าหนีออกมาได้อย่างไร”

หลิงชิงเฟยคลี่ยิ้มบางพลางตบหลังมือหญิงสาวเบาๆ อย่างต้องการปลอบให้นางสงบลง “ข้าก็คิดว่าชาตินี้จะไม่มีโอกาสได้พบพี่แล้วเสียอีก ข้านึกว่าตัวเองจะต้องตายอยู่กลางกองเพลิงนั่นเสียแล้ว เป็นท่านแม่ที่ให้พี่โม่พาข้าหนีออกมา เขาให้ข้าไปซ่อนตัว จากนั้นเขาก็กลับไปช่วยทุกคน แต่ความพยายามนั้นก็สูญเปล่า พี่โม่ไม่สามารถช่วยใครได้อีก แม้แต่ชีวิตของตัวเองก็มิอาจรักษาไว้ได้”

นางหยุดวาจาไปชั่วครู่ ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมายามคิดถึงเหตุการณ์นั้น “ข้าไม่สมควรมีชีวิตรอดเพียงลำพัง ข้าน่าจะตายไปพร้อมกับชาวเผ่าฮวนหยา หากแม้วันนั้นข้าสิ้นลมไป วันนี้ก็คงไม่ต้องทนเจ็บปวดอยู่เช่นนี้หรอก”

ลู่เอินสวมกอดเด็กสาวไว้โดยพลัน ลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ อย่างต้องการปลอบประโลม “อย่าได้เอ่ยวาจาเช่นนี้อีก เจ้าต้องมีชีวิตรอด นั่นคือความปรารถนาของบิดามารดาเจ้า พวกเขายอมเสี่ยงให้เจ้าหลบหนีออกมา ย่อมหวังให้เจ้าได้ใช้ชีวิตต่อไป ดังนั้นอย่าทำให้พวกท่านผิดหวัง”

ลู่เอินเองก็เป็นอีกคนที่ไม่เชื่อว่าเผ่าฮวนหยาจะก่อกบฏ นางรู้ดีว่าท่านหัวหน้าเผ่าให้ความสำคัญแก่ผู้คนในเผ่ามากเพียงใด ไม่มีทางที่เขาจะทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้นแน่นอน “เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป” ถามเมื่อเห็นว่าร่างแน่งน้อยหยุดร้องไห้แล้ว

ประกายตาของหลิงชิงเฟยวาวโรจน์ขึ้นมา สีหน้าเย็นชาอย่างที่สุด “ข้าต้องการแก้แค้นให้ทุกคนในเผ่าเจ้าค่ะ”

“เจ้าจะแก้แค้นได้อย่างไร ลำพังสตรีตัวเล็กๆ เยี่ยงเจ้าจะไปทำอันใดฮ่องเต้ผู้มีอำนาจล้นฟ้าได้” ลู่เอินมองเห็นเพียงความเด็ดเดี่ยวจากคนตรงหน้า เสี่ยวเฟยของนางเคยเป็นเด็กน่ารักอ่อนโยน ทว่าบัดนี้ท่าทางของเด็กสาวกลายเป็นอีกคนที่นางไม่รู้จักไปเสียแล้ว

“ข้าจะสังหารแม่ทัพน้อยสกุลเฉิน” หลิงชิงเฟยรู้ดีว่าผู้ออกคำสั่งเป็นฮ่องเต้แคว้นเหยา ทว่านางคงไม่สามารถเข้าใกล้ผู้สูงศักดิ์เช่นนั้นได้ ทางเดียวที่สามารถระบายความแค้นใจได้ คือผู้ที่นำทัพมาปราบปรามชนเผ่าของนาง หากแม่ทัพผู้เกรียงไกรตายไป แคว้นเยียนต้องรีบกรีธาทัพเข้ามาตีแคว้นเหยาเป็นแน่ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเป็นการทวงความเป็นธรรมให้แก่เผ่าฮวนหยาได้แล้วมิใช่หรือ

“เจ้าบ้าไปแล้วรึ” ลู่เอินอุทานอย่างตระหนก ผู้ใดก็รู้ว่าแม่ทัพน้อยตระกูลเฉินได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทมากเพียงใด หนำซ้ำฝีมือการต่อสู้ของเขายังเลื่องลือไปทั่ว ในแคว้นเหยานี้ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้ “ข้างกายของเฉินหย่งเต๋อมีคนคุ้มกันอยู่ไม่ห่าง วรยุทธ์ของเขาก็เก่งกาจเจ้าจะสังหารคนได้อย่างไร”

“ยาพิษ” หลิงชิงเฟยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าเรียบเฉย

“เสี่ยวเฟย!” เป็นอีกครั้งที่ลู่เอินต้องตื่นตกใจ เด็กน้อยของนางไร้เดียงสาเกินไปแล้ว “เจ้าฟังพี่สาวผู้นี้ให้ดีๆ นะ ตัวเจ้าอยู่แต่ในหุบเขามี่ฮวนอาจไม่รู้เรื่องราวภายนอกมากนัก ยาพิษอาจจะสังหารผู้คนทั่วไปได้ แต่มิใช่กับคนแซ่เฉิน”

“ทำไม?” เด็กสาวถามด้วยความสงสัย ผู้ใดถูกวางยาพิษร้ายแรงล้วนต้องตาย แล้วไยจึงไม่ได้ผลกับแม่ทัพน้อยแซ่เฉินเล่า

ลู่เอินมองอีกฝ่ายด้วยความสงสารเห็นใจ นางก็อยากจะช่วยชำระแค้นเช่นกัน ถึงอย่างไรเลือดในกายของนางครึ่งหนึ่งก็เป็นชาวเผ่าฮวนหยา ทว่าลำพังเรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอดเลย แล้วจะเอาปัญญาที่ใดไปช่วยผู้อื่น..ทว่าเพียงชั่วอึดใจก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ หากเด็กคนนี้ต้องการแก้แค้น ไยนางจึงไม่ส่งเสริมเล่า ในเมื่อมีเป้าหมายเดียวกัน แต่จะให้เสี่ยวเฟยรู้ไม่ได้ว่ากำลังถูกหลอกใช้

คิดได้ดังนั้นก็เริ่มแผนการทันที “ข้าได้ยินมาว่าอาหารการกินของเขาจะได้รับการตรวจสอบพิษทุกครั้ง มิหนำซ้ำฮ่องเต้ยังให้หมอหลวงมาประจำอยู่ที่จวนสกุลเฉินอีกด้วย ตลอดหลายปีมานี้มีข่าวลอบสังหารเฉินหย่งเต๋ออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ขนาดนักฆ่ายังทำไม่สำเร็จ แล้วเจ้าเป็นเพียงสตรีไร้วรยุทธ์เยี่ยงนี้ ยังคิดว่าจะทำสำเร็จอีกหรือ”

หลิงชิงเฟยเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นยามได้ฟังถ้อยคำนั้น ถูกอย่างที่พี่สาวผู้นี้กล่าวมา นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่รู้จักเพียงพิษธรรมดาไม่กี่ชนิดเท่านั้น แค่จะเข้าใกล้ชายแซ่เฉินคงไม่มีหวังกระมัง เรื่องนี้นางต้องคิดตรึกตรองให้ดี จะรีบร้อนไม่ได้

“ข้าเข้าใจแล้ว หากข้าดื้อรั้นจะแก้แค้นคงเป็นตัวข้าเองที่ถูกฆ่าทิ้ง พี่สาววางใจได้ ข้าไม่ทำอะไรที่เป็นภัยต่อชีวิตตัวเองแน่นอน” นางจำต้องโกหกคำโตออกไปยามเห็นสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของอีกฝ่าย แน่นอนว่านางไม่มีทางล้มเลิกความคิด แต่จะให้ลู่เอินมาเดือดร้อนไปด้วยย่อมมิใช่เรื่อง

หญิงสาวคลี่ยิ้มพอใจภายใต้ผ้าคาดหน้าโปร่งบาง ก่อนจะเอ่ยวาจาหลอกล่อคนให้คล้อยตาม “ใช่แล้ว เจ้าต้องรักษาชีวิตไว้ การแก้แค้นไม่ใช่ทางออกหรอก การล้างมลทินให้แก่ทุกคนต่างหากที่สำคัญกว่า หากหาหลักฐานมาได้ว่าท่านหัวหน้าเผ่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อกบฏในครั้งนี้ คนเหล่านั้นต้องมาคุกเข่าขอขมาต่อเจ้าแน่นอน”

“หลักฐานเช่นนั้นรึ แต่ข้าจะไปหาที่ใดได้เล่า” หลิงชิงเฟยแสร้งถามตามน้ำไป ล้างมลทินอย่างนั้นหรือ ผู้ใดสนเรื่องนั้นกันเล่า ต่อให้เป็นความจริงว่าบิดานางไม่ได้ทำการกบฏแล้วอย่างไร พวกเขาก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้หรอก บัญชีหนี้เลือดต้องชำระด้วยเลือดมิใช่หรือ

“ข้ารู้จักคนผู้หนึ่งที่พอจะช่วยเจ้าได้ หากจะหาหลักฐานคงต้องเริ่มจากจวนสกุลเฉิน ข้าคิดว่าแม่ทัพเฉินน่าจะเก็บเอกสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ที่จวน” ลู่เอินเสนอความคิด รู้ดีว่าการเข้าไปในจวนแม่ทัพเป็นเรื่องอันตราย แต่นางต้องการยืมมือฆ่าคน หากเป็นเด็กสาวผู้นี้คงไม่ถูกจับได้แน่นอน เพราะในเมืองหลวงไม่มีใครเคยพบหน้าอีกฝ่ายมาก่อน ผิดกับนางที่ถูกตามล่าอยู่ไม่สะดวกจะออกหน้าเอง แม้จะรู้สึกผิดต่อสหายอยู่บ้าง แต่ความแค้นใจของนางก็มีไม่น้อยกว่าเสี่ยวเฟยเช่นกัน

“ขอบคุณพี่ลู่เอินมากเจ้าค่ะที่ช่วยเหลือข้า” หลิงชิงเฟยกล่าวขอบคุณด้วยใจจริง หากมีคนคอยช่วยนางคงเข้าไปอยู่ในจวนสกุลเฉินได้ง่ายขึ้น เมื่อเข้าไปแล้วค่อยคิดหาทางสังหารคนผู้นั้นทิ้งทีหลังก็ยังไม่สาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel