บทที่ 4 - การปรากฏตัวของอัศวินเงา
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายวัน นับตั้งแต่คืนที่หลี่หลินได้พบกับเหวินหลงในความฝันอีกครั้ง นางใช้เวลาแทบทั้งหมดไปกับการวาดภาพของเขาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าพู่กันในมือของนางถูกควบคุมโดยพลังบางอย่างที่นางไม่อาจอธิบายได้
ทุกภาพที่นางวาด ล้วนแต่สะท้อนถึงความเศร้าโศกและความโดดเดี่ยวที่ฝังลึกอยู่ในดวงตาของเหวินหลง ภาพบางภาพแสดงให้เห็นเขาในชุดสีดำอันงดงาม ยืนอยู่ท่ามกลางเงาที่ดูราวกับจะกลืนกินเขาไว้ บ้างเป็นภาพเขานั่งอยู่ใต้แสงจันทร์ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโหยหา
หลี่หลินเริ่มตระหนักว่า ทุกครั้งที่นางวาดภาพเหวินหลง ภาพเหล่านั้นกลับยิ่งทำให้เขาดูมีตัวตนจริงมากขึ้น ราวกับว่าการวาดภาพเป็นการเชื่อมโยงพวกเขาเข้าหากัน
แต่ในขณะเดียวกัน นางก็เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาด
ค่ำคืนหนึ่ง
หลี่หลินนั่งอยู่หน้าผืนผ้าไหม มือเรียวยังคงถือพู่กันเอาไว้ แต่ครั้งนี้ นางไม่อาจลากเส้นใด ๆ ลงบนผืนผ้าไหมได้ ความรู้สึกบางอย่างกำลังรบกวนจิตใจของนาง
เสียงลมที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามาทำให้ม่านสีขาวปลิวไหว เสียงนั้นฟังดูเหมือนเสียงกระซิบอันแผ่วเบา
ทันใดนั้น นางรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ภายนอกเรือนเล็กของนาง เงามืดที่แฝงตัวอยู่ในความมืดของป่า
“ใคร...” หลี่หลินพึมพำอย่างระแวดระวัง นางลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่หน้าต่าง ดวงตากวาดมองไปยังความมืดอย่างระแวดระวัง
“เจ้า...คือผู้ที่สามารถมองเห็นเงาได้อย่างนั้นหรือ” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้นางสะดุ้งเฮือก หันกลับไปมองด้วยความตกใจ
สิ่งที่นางเห็นคือชายหนุ่มอีกผู้หนึ่ง ยืนอยู่กลางห้องอย่างไม่สนใจประตูที่ปิดอยู่ ใบหน้าของเขาคมคายแต่แฝงไปด้วยความแข็งกร้าว ดวงตาคมกริบสะท้อนแสงจันทร์ที่สาดเข้ามาจากหน้าต่าง
“เจ้าเป็นใคร...” หลี่หลินถามด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง
“ข้าคือ หลิวจิ้ง อัศวินเงาที่ถูกส่งมาเพื่อปกป้องเหวินหลง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “และเพื่อเตือนเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้ากำลังทำ”
“เตือนข้า?” หลี่หลินทวนคำอย่างสับสน “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“เจ้าอาจคิดว่าเจ้าเพียงแค่วาดภาพของเขา แต่ความจริงแล้ว เจ้ากำลังเรียกเขาให้กลับมา” หลิวจิ้งกล่าวพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ “เจ้ามีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก ความสามารถในการเชื่อมต่อกับโลกของเงา แต่นั่นก็อาจนำพาอันตรายมาสู่ตัวเจ้าเอง”
“อันตราย...?” หลี่หลินถามด้วยความหวาดกลัว “เจ้าหมายถึงอะไร”
“มีผู้คนมากมายที่ต้องการพลังของเจ้า รวมถึงผู้ที่ต้องการทำลายเจ้า” หลิวจิ้งกล่าว น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นและจริงจัง “ข้าไม่ได้มาเพื่อคุกคามเจ้า แต่เพื่อเตือนเจ้าให้ระวัง”
หลี่หลินรู้สึกถึงความจริงจังในคำพูดของเขา แต่นางก็ยังคงสับสน
“แล้วเจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร...” นางถามเสียงเบา
“เพื่อปกป้องเจ้า” หลิวจิ้งตอบทันที “คำสาปของเหวินหลงไม่ได้มีเพียงแค่ทำให้เขาถูกพันธนาการในยามราตรี แต่ยังดึงดูดเหล่าอสูรที่ต้องการพลังของเขา และในตอนนี้ เจ้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพันธะนั้นไปแล้ว”
“ข้า...กลายเป็นส่วนหนึ่งของพันธะงั้นหรือ?” หลี่หลินถามด้วยความตื่นตระหนก
“ใช่...” หลิวจิ้งพยักหน้า “ตั้งแต่วันที่เจ้าวาดภาพเขาครั้งแรก เจ้าก็ได้เชื่อมโยงจิตวิญญาณของเจ้าเข้ากับเขา การที่เขาปรากฏตัวขึ้นในความฝันของเจ้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะพลังของเจ้าได้เปิดประตูที่เชื่อมต่อกับโลกของเขา”
“ถ้าเช่นนั้น... ข้าควรทำอย่างไร” หลี่หลินถามเสียงสั่น ความกลัวและความสับสนที่ผสมปนเปกันทำให้นางไม่อาจตัดสินใจได้
“เจ้าต้องเลือก...” หลิวจิ้งกล่าวด้วยสายตาที่เยือกเย็น “ว่าจะช่วยเขาให้หลุดพ้นจากคำสาป หรือจะปล่อยให้ทุกสิ่งพังทลายลงไปพร้อมกับความมืด”
“แต่ข้าไม่รู้ว่าจะช่วยเขาได้อย่างไร...” นางกล่าวด้วยเสียงสั่น “ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมข้าถึงสามารถมองเห็นเขาได้”
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้องค้นหาเอง...” หลิวจิ้งกล่าวก่อนจะหันหลังเดินออกไป
“เดี๋ยว!” หลี่หลินร้องเรียก “เจ้าไปไหน?”
“ข้าจะอยู่ใกล้ ๆ...เพื่อปกป้องเจ้า” เขาตอบก่อนที่จะหายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
หลี่หลินยืนอยู่คนเดียวภายในห้อง เสียงลมที่พัดผ่านหน้าต่างทำให้นางรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย
“ข้าจะทำอย่างไรต่อไป...” นางพึมพำกับตัวเอง ความหวาดกลัวและความสับสนยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ
