บทที่ 5
แม้จะลังเล แต่สุดท้ายพสุธาก็ตัดสินใจไปงานเลี้ยงรุ่น โดยมั่นใจว่าตอนนี้เขาเข้มแข็งขึ้นมากแล้วและไม่ได้คิดที่จะอยากกลับไปรื้อฟื้นความหลังกับอัญญาแต่อย่างใด เพราะชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้ว
การปรากฏตัวของพสุธาทำให้เพื่อนๆ หลายคนสนใจ เพราะหลายปีมานี้ชายหนุ่มไม่เคยมางานเลี้ยงรุ่นเลย ครั้งสุดท้ายที่มาคือก่อนที่จะเลิกรากับอัญญานั่นเอง ในขณะที่อัญญาก็มาร่วมงานทุกปีไม่เคยขาด แถมปีนี้ยังเป็นแม่งานอีกด้วย เมื่อเธอเห็นพสุธา ก็ไม่ลังเลที่จะเข้ามาทัก
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะดิน”
“อืม...สบายดีไหม”
“สบายดี แล้วดินล่ะ สบายดีหรือเปล่า” อัญญาเอ่ยถามพร้อมส่งยิ้มให้เขา รอยยิ้มที่เคยทำให้พสุธาหวั่นไหวถึงกับเอาไปนอนฝันถึง
“เรื่อยๆ”
“แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ”
“ใช่”
“เราก็มาคนเดียว” อัญญามองอดีตคนรักด้วยสายตาแฝงความนัย เพราะตอนนี้เธอกับเขาต่างก็โสดด้วยกันทั้งคู่ หากจะรีเทิรน์รักก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เพราะเคยสนิทกันพวกเขาจึงพูดคุยกันได้อย่างไม่เก้อเขิน อัญญาหยิบเรื่องราวดีๆ ในอดีตมาคุยเพื่อรื้อฟื้นความหลัง ในขณะที่พสุธาก็เออออตามเธอไปบ้าง โดยตั้งใจเว้นช่องว่างเพื่อไม่ให้ถ่านไฟเก่ามันมีโอกาสได้ปะทุ
แต่ที่น่าแปลกคือความรู้สึกบางอย่างมันกลับไม่เปลี่ยนไป ความรู้สึกที่ว่าคือคำว่าเพื่อน เพราะต่อให้อัญญาจะนั่งอยู่ตรงหน้าหรือแม้แต่ลึกๆ แล้วเขายังรู้สึกดีกับเธอมาก แต่พสุธากลับไม่ได้อยากกลับไปสานสัมพันธ์แบบคู่รักกับเธอแต่อย่างใด
“เอ๊ะ...นั่นโมมากับใคร” อัญญาที่กำลังยืนคุยอยู่กับพสุธาหันไปเห็นสารัชก่อนเอ่ยขึ้น จึงทำให้ชายหนุ่มหันไปมองเช่นกัน
“มิลค์”
“รู้จักผู้หญิงคนนั้นด้วยหรือคะดิน”
“เดี๋ยวผมมานะครับ” เอ่ยจบพสุธาก็เดินจากไป ปล่อยให้อัญญายืนมองเขาและผู้หญิงปริศนาคนนั้นด้วยความสงสัยว่าทั้งคู่ไปรู้จักกันได้ยังไง หรือเธอจะมาช้าไปจนเปิดโอกาสให้พสุธามีรักครั้งใหม่ เพราะความอยากรู้ทำให้เธอตัดสินใจเดินตามชายหนุ่มไป
“มิลค์...มาที่นี่ได้ยังไง”
“กูชวนมาเอง” เสียงของสารัชที่เมื่อครู่เดินไปทักเพื่อนคนหนึ่งดังขึ้น
“ว่าไงนะ”
“กูเป็นคนชวนมิลค์มาเอง” สารัชย้ำคำตอบอีกครั้ง ในขณะที่พสุธาเกิดคำถามมากมายว่าเพราะอะไรเพื่อนสนิทถึงทำแบบนี้ และทั้งคู่ไปสนิทกันถึงขั้นชวนมางานแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“แล้วทำไมมึงถึง...”
“เอานะๆ อย่าโมโหไปเลย ไหนๆ ก็มาแล้ว เราเข้าไปในงานกันเถอะ” แทนที่จะทำตามที่สารัชบอก พสุธากลับมองมาที่กรรวีอย่างคาดโทษ
ไหนจะมางานโดยไม่บอกเขาก่อน
ไหนจะชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ยังเน้นหน้าอกจนเกินงาม
ไหนจะแต่งหน้าแต่งตาที่ดูโตเกินวัยนี่ก็ด้วย
เขารู้อยู่เต็มตาว่าเธอนั้นโตมาแล้วสวยขนาดไหน แต่ไม่ต้องแต่งมาโชว์คนทั้งงานแบบนี้ก็ได้ มันน่าจับตีก้นเสียให้เข็ด
“พี่สาครรู้ไหมว่ามิลค์มาที่นี่กับโม” น้ำเสียงห้วนๆ ของพสุธาเอ่ยถามกรรวีขึ้น ส่วนคนถูกถามนั้นพอเห็นว่าเขาโกรธก็พลอยรู้สึกผิดที่มาโดยไม่บอก แต่ลึกๆ กลับรู้สึกดีที่เขาเป็นห่วง
“รู้ค่ะ พี่โมเข้าไปขออนุญาตพ่อแล้ว” คำเรียกขานที่กรรวีใช้เรียกสารัชนั้นขัดหูขัดใจพสุธานัก ทีกับเขาเธอยังเรียกอาดินๆ ตลอดเวลาอยู่เลย แต่ทีกับคนอื่นกลับเรียกว่าพี่
“ไอ้โม มึงคิดยังไงถึงไปชวนมิลค์มา...หา”
“กูแค่อยากพามิลค์มาเปิดหูเปิดตาออกงานแบบนี้บ้าง เห็นว่าไม่ช้าก็เร็วมิลค์ก็จะจัดงานเลี้ยงรุ่นเหมือนกัน กูเลยชวนมาศึกษาดูงานจริงไว้ก่อนแต่เนิ่นๆ มึงจะหัวเสียไปทำไม” สารัชชอบใจกับอาการหัวเสียของเพื่อนสนิท ปากบอกไม่คิดอะไรๆ ที่แท้ก็หวงจนหน้ามืด
ก็เด็กมันน่าหวงออกขนาดนี้!
แต่คำพูดของสารัชก็ทำคนฟังยิ่งฉุน เพราะไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนจะคุยกับกรรวีเป็นเรื่องเป็นราว หรือว่ามันจะคิดไม่ซื่อกับเธอ แค่คิดทำไมไฟในอกเขามันถึงได้ร้อนระอุขึ้นมาเสียดื้อๆ
“โมชวนมาก็มาง่ายๆ แบบนี้นะเหรอ” น้ำเสียงของพสุธาแฝงความไม่พอใจเอาไว้ ชายหนุ่มจ้องมองมาที่กรรวี แต่แทนที่เธอจะสลดกลับเอ่ยรับกลับมาเสียงใส
“ค่ะ”
“สวัสดีค่ะ คุยอะไรกันอยู่หรือคะ ท่าทางน่าสนุกจัง” เสียงของอัญญาที่ยืนมองเหตุการณ์มานานแล้วดังขึ้น สารัชจึงหันมาคุยกับเธอ
“อ้อ...พอดีเรากำลังจะไปหาโต๊ะนั่งนะแต้ว”
“งั้นไปนั่งด้วยกันสิ ไปค่ะดิน” เอ่ยจบอัญญาก็เข้ามาคล้องแขนของพสุธาไว้ แล้วออกแรงยื้อให้ชายหนุ่มเดินตามไปยังโต๊ะ สารัชผายมือเชื้อเชิญกรรวีให้เดินตามทั้งคู่ไป
กรรวีจำอัญญาได้ จำได้ว่าเธอเป็นอดีตคนรักของพสุธา แม้จะไม่เคยคุยกันมาก่อน แต่เมื่อก่อนเธอก็แอบเห็นหน้าอีกฝ่ายตอนมาที่บ้านชายหนุ่มบ่อยๆ ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าทั้งคู่ได้เลิกรากันไปแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังหึงยังหวงพสุธาจนไม่อยากให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน แต่พอใจสั่งห้ามทั้งสองก็เหมือนทำตรงกันข้าม เพราะเมื่อมาถึงโต๊ะที่ไม่มีใครอื่น อัญญาก็เทคแคร์ดูแลพสุธาเป็นอย่างดี จนกรรวีคิดเองว่าตอนนี้ทั้งคู่อาจกลับมาคบกันแล้ว
ในขณะที่สารัชก็คอยดูแลกรรวีเป็นอย่างดีเช่นกัน เขามีวัตถุประสงค์ร้ายที่เอ่ยชวนเธอมาในวันนี้ เพราะอยากยั่วโมโหผู้ชายปากไม่ตรงกับใจอย่างพสุธา
อยากรู้ว่าเพื่อนสนิทจะคิดยังไงที่เห็นกรรวีในงานเดียวกับอัญญา หนึ่งคือคนที่พยายามห้ามใจไม่ให้รักในขณะที่อีกหนึ่งคืออดีตคนรักที่มองแวบเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเธออยากรีเทิร์นกลับไปสานสัมพันธ์ให้หวานชื่นเหมือนวันวาน
“พี่จะไปห้องน้ำ น้องมิลค์ไปด้วยกันไหมคะ”
“ค่ะ” กรรวีเอ่ยรับอย่างไม่คิดอะไร ก่อนจะลุกไปห้องน้ำพร้อมกับอัญญา นั่นจึงเปิดโอกาสให้พสุธาหันขวับมามองหน้าสารัช
“มึงคิดอะไรอยู่ไอ้โมถึงชวนมิลค์มา”
“กูเปล่า” สารัชปฏิเสธทันที
“เชื่อก็บ้าแล้ว มึงจะตอบกูมาดีๆ ไหม”
“กูก็บอกไปแล้วว่าพามาดูงาน เพราะมิลค์เองก็กำลังจะจัดงานเลี้ยงรุ่นเหมือนกัน” สารัชยังคงยืนกรานในคำตอบ
“กูไม่เชื่อ มึงมีจุดประสงค์ร้ายแน่ๆ”
“มึงก็มองกูในแง่ร้ายไป”
“หรือไม่จริง”
“ไม่จริง” ประโยคหนักแน่นดังมาจากสารัช พร้อมกับการอดกลั้นไม่ให้หลุดหัวเราะเยาะคนขี้หึงแบบไม่รู้ตัวออกมา
“แล้วมึงไปคุยกับมิลค์ตั้งแต่เมื่อไหร่”
